ตอนที่ 4 เจ็บตัว
ตอนที่ 4 เจ็บตัว
“ตัดสายทำไมวะ ไอพี่บ้า”
นัชชาถึงกับอารมณ์เสีย เมื่อโดนพี่ชายตัดสายใส่กะทันหัน ก่อนที่จะเดินกะเผลกกลับมารอเขาที่รถ เธอยืนเอาหลังพิงไว้ที่ข้างรถ ในมือยังคงไถโทรศัพท์เล่นไปมาอย่างไม่ระวังตัว ไม่ช้าชายหนุ่มหน้าตาเหี้ยมสองคนก็เดินมาประกบข้าง จนนัชชาถึงกับเงยหน้ามองด้วยความตกใจ
“อะ อะไร มีอะไร พวกนายเป็นใคร”
“นายให้พาคุณไปพบ”
“นายไหน นายอะไร ฉันไม่รู้จัก” นัชชารีบส่ายหน้าเธอเริ่มตระหนักถึงความไม่ปลอดภัยแม้จะมองหาช่องทางหนีแต่เจอคนตัวใหญ่ขนาบข้างแบบนี้แถมตัวเธอเองก็เจ็บขาอยู่แบบนี้จะหนีไปไหนได้
“รีบไปกับพวกเราเถอะน่าอย่าลีลา” ชายคนหนึ่งตรงเข้ามากระชากที่แขนจนเธอเซเกือบล้ม
“ไม่ไป! ยะ อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันทำงานที่นี่ ฉันเรียกการ์ดที่นี่มาจัดการพวกนาย!” แม้จะกลัวแสนกลัวแต่นัชชากลับยังไม่วายเอ่ยปากขู่พวกมัน
“เฮียเอริคเจ้าของผับอนุญาตแล้ว ให้มาพาตัวคุณไปพบเฮียแบงค์”
“เฮียเอริค? จะเรียกฉันไปพบทำไม แล้วแบงค์ไหนอะไรใคร ฉันไม่รู้จัก”
“แต่พี่ชาย คุณรู้”
“ห๊า พี่น๊อตเหรอ แล้วพี่น๊อตเกี่ยวอะไรด้วย”
นัชชาหน้าเหวอ ก่อนที่ชายฉกรรจ์ทั้งสอง จะจับแขนเธอไว้อีกข้างในสภาพกึ่งลากกึ่งบังคับเพื่อพาเธอไปที่ห้องวีไอพี
“จะ เจ็บ ปล่อยนะ”
เป็นเพราะเธอสวมเสื้อคลุมสีดำไว้ พวกนั้นจึงมองไม่เห็นผ้าพันแผล แถมยังบีบแขนเธอไว้แน่น จนนัชชาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ไหนยังขาที่ยังเจ็บอยู่ พวกมันก็ลากเธอไปอย่างไม่สนใจเสียงร้องของเธอเลยสักนิด
เตชินกำลังเตรียมจะขับรถออกเพื่อจะกลับบ้าน เขามองเหตุการณ์ตรงหน้าเห็นมีชายฉกรรจ์กำลังฉุดกระชากลากถูหญิงสาวกลับเข้าไปในผับ ก่อนที่จะเขาจะพยายามเพ่งสายตามองไปให้ชัด ๆ ปรากฏว่าเป็นนัชชา เพื่อนร่วมคณะของเขา
“เห้ยอะไรวะ! นัชชานี่หว่า!” ถึงเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอในตอนนี้แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนร่วมคณะที่เขาเพิ่งขับรถชนเธอเมื่อเช้านี้ ครั้นจะไม่ช่วยเหลือก็ดูจะใจดำเกินไปหน่อย
เตชินรีบจอดรถทิ้งไว้ ก่อนที่จะวิ่งตามไปเห็นว่าพวกมันลากเธอเข้าไปบริเวณห้องไปวีไอพี ไม่ทันที่เขาจะเปิดประตู พบเอริคพี่ชายเขาเปิดประตูออกก่อน
“เห้ยพี่เอริคเกิดไรขึ้นวะ มีคนฉุดเพื่อนผมเข้าไป” เขาละล่ำละลักรีบถามด้วยความตกใจ
“เพื่อน?”
“ใช่ เพื่อน เรียนคณะเดียวกันด้วย เกิดอะไรขึ้นวะพี่ ทำไมเธอโดนลากไปแบบนั้น”
“เฮียแบงค์เขาจะเอาเพื่อนมึงไปขัดดอกเห็นว่ายังซิง”
“ขัดดอก!! เห้ย ไม่ได้ดิพี่ นี่มันเรื่องไรกัน ยายนั่นมันเป็นเพื่อนผมนะ ไม่ได้นะ”
“พี่ชายมันติดหนี้เฮียแบงค์แสนนึง”
“ไรวะ เงินแค่แสนเดียว งั้นเอาบัญชีไอนั่นมาเดี๋ยวเอาเงินผมใช้หนี้แทน พี่บอกไอ้เหี้ยนั่นให้ปล่อยผู้หญิงออกมา”
“เพื่อน? แต่ทำไมยอมจ่ายเงินแทนวะ” เอริคหลี่ตาเหมือนไม่เชื่อ ความจริงเขาไม่คิดจะช่วยน๊อตแต่ถ้าน้องชายจะจ่ายเงินแทนก็ไม่ติด เงินมันก็เยอะพอ ๆ กับเขานั่นแหละ
“เพื่อนจริง แต่เมื่อเช้าผมเพิ่งขับรถเฉี่ยวมันมาจนมันล้ม ยังเจ็บแผลอยู่เลยมั้ง พี่รีบบอกไอ้หมอนั่นให้ปล่อยเพื่อนผมไปเหอะ”
“เออ จัดการให้” เอริคถอนหายใจก่อนจะกลับเข้าไปภายในห้องอีกครั้งโดยมีเตชินที่เดินตามมาติด ๆ อย่างร้อนใจ
แม้เขาไม่ได้คิดอะไรกับนัชชา แต่พอเห็นสภาพที่เธอมาทำงานเพราะยังบาดเจ็บเลยนึกสงสารเธอขึ้นมา แถมเมื่อกี้แฟนที่เป็นดีเจก็ดันนอกใจอีก แล้วนี่ยังต้องมาโดนขัดดอกบ้าอะไรอีก
-นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงโชคร้ายในวันเดียวติด ๆ กันแบบนี้-
เตชินแทบจะแทรกเอริคเข้ามาเมื่อลูกน้องของเขาเปิดประตูให้กลับมาภายในห้อง ภาพที่เห็นคือนัชชานอนเป็นลมล้มพับอยู่ที่พื้น ทำเอาเขาตกใจหนักวิ่งถลาไปดูเธอ
“เชี้ย พวกมึงทำไรผู้หญิงวะ” เตชินส่งสายตามองเฮียแบงค์อย่างคาดโทษ พร้อมกวาดสายตามองไปที่ลูกน้องเขารอบห้องอย่างเอาเรื่อง
“คุณเอริค” เฮียแบงค์ขมวดคิ้วแปลกใจ ก่อนหันไปหาเอริค
“ยัยเด็กนี่ มึงคงเอาไปขัดดอกไม่ได้ล่ะละ แต่เงินที่ไอน๊อตเป็นหนี้ เดี๋ยวเคลียร์ให้ เลขบัญชีมา” เขาเอ่ยขึ้น ก่อนกระดิกนิ้วชี้ เรียกผู้ติดตามให้ทำการเตรียมโอนเงินให้เฮียแบงค์
“หา คุณเอริคจะเคลียร์หนี้ให้ไอน๊อตอีกเหรอ” เฮียแบงค์มองเอริคตาโต ก่อนหันไปมองน๊อตที่นั่งตัวสั่นอยู่
“โชคดีของมึง ไอน๊อต” เฮียแบงค์มองเงินที่โอนเข้ามาหนึ่งแสนชั่วครู่ ก่อนจะคลายยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี
“มึงกับกูจบกัน ไอน๊อต แล้วต่อไปก็ห้ามไปเหยียบที่บ่อนกูอีก ถ้ากูเจอหน้ากูจะให้คนอุ้มมึงไปทิ้งน้ำ ดีนะคุณเอริคเค้าใจดี เคลียร์หนี้ให้มึง แต่คงไม่มีหนหน้าอีกนะ” เฮียแบงค์ขู่ แต่เมื่อได้เงินเขาก็ถือว่าเสร็จภารกิจ จึงขอตัวจากเอริคเพื่อพาลูกน้องออกไป
“ขอบคุณครับเฮียเอริค ขอบคุณครับเฮียแบงค์”
น๊อตรีบเอ่ยขอบคุณ เมื่อถูกแก้เชือกออกที่ถูกมัดไว้ไพล่หลังเรียบร้อยแล้ว เขารีบถลาเข้าไปดูน้องสาวที่นอนแน่นิ่งในอ้อมแขนของเตชิน
“เมื่อกี้เกิดอะไร! ทำไมเธอเป็นแบบนี้!” เตชินเงยหน้าไปมองน๊อต ในตอนนี้เขาสัมผัสถึงเลือดที่ซึมออกมาจากเสื้อคลุมที่เธอใส่อยู่ เพราะมันเริ่มซึมเปื้อนมาที่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวในของเธอ เธอเจ็บตั้งแต่พวกมันจับแขนเธอโดนแผลแล้วลากมา แถมยังตอนวิ่งถลาเข้าไปจนล้มอีกรอบ
“เมื่อกี้ เธอวิ่งเอาตัวมาขวางบังผม ตอนที่ลูกน้องเฮียกำลังจะเอาไม้หน้าสามฟาด แต่เธอดันตกใจจนเป็นลมเสียก่อน แล้วพวกคุณก็เข้ามาพอดี พวกนั้นเลยชะงักมือเอาไว้ทัน”
น๊อตรีบอธิบาย
“งั้นรีบพาเธอไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”
“งั้นเดี๋ยวผมกลับไปเอาของกับกระเป๋าที่ล็อกเกอร์ก่อน”
“เสียเวลาว่ะ เดี๋ยวกูพาไปรถกูเอง มึงไปเก็บของแล้วก็ขับรถมึงตามไปแล้วกัน”
เตชินพูดพลางช้อนร่างนัชชาอุ้มขึ้น ก่อนพาออกจากห้องแล้วตรงไปที่รถ ตอนนี้นอกจากสงสารเธอ เขาก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านี้
ไม่ช้าเมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล
นัชชาฟื้นขึ้น พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลและถูกทำแผลเรียบร้อย เห็นพี่ชายตัวเองนอนอยู่ที่โซฟาใกล้ๆ
“พี่น๊อต นัชมาอยู่ที่นี่ได้ไง” นัชชาหยัดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนมองไปรอบ ๆ
“พี่พาแกมาดิ ถามได้ก็แกเป็นลมนิ”
“แล้วพวกนั้นอ่ะ ที่มันจะทำร้ายพีี่”
“เจ้านายพี่เคลียร์ให้ล่ะ”
“เจ้านายพี่?”
“เออ ถามมากว่ะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย ขอบใจนะเว้ย ที่วิ่งเอาตัวมาขวางไว้ แต่ที่หลังอย่าทำแบบนี้นะมันอันตราย” น๊อตเดินตรงมาที่ข้างเตียงพร้อมยกมือขึ้นพร้อมยีหัวน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
“ก็พี่โดนพวกมันมัดไว้นี่ ถ้าโดนฟาดไม่เต็ม ๆ เลยเหรอ”
“แล้วถ้าแกโดนก็เต็ม ๆ เหมือนกัน ยัยบ้า”
“เออ แต่ทำไม มันไม่ฟาดล่ะ”
“โชคดี เจ้านายพี่กับน้องชายเขาเปิดประตูเข้ามาพอดี มันเลยชะงักก่อน พอแกเห็นไม้แกก็ช็อกเลยเป็นลมล้มพับ ป๊อดนี่หว่า ห๊ะ”
“เหอะ ไอพี่บ้า เจอลากตัวมาห้องมืดแถมเจอพี่ในสภาพนั้นไม่ช็อกตายก็ดีเท่าไหร่ละ” นัชชาเบ้ปากทำท่างอน
“เออ รอดมาก็ดีแล้ว แล้วแกไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ”
“หา ให้ออกเลยเหรอ ทำไมอ่า”
“ไม่ใช่แต่ให้ออกธรรมดาเว้ย แต่...เค้าให้เงินค่าทำขวัญแกมา 30,000 ด้วย พี่ยืมเลยด้วย 10,000 นึง” น๊อตยิ้มกริ่ม
“แล้วจู่ๆ จะมาให้ทำไม นัชเพิ่งทำได้สามวัน”
“ก็เกิดเรื่องที่ผับเค้า แถมคนที่จะทำร้ายแกก็คนรู้จักเค้า เค้าก็เลยให้เงินทำขวัญแกมั้ง”
“หูย ไรเนี่ย ทำงานสามวันได้เงินสามหมื่น เอาจริง นี่นัชก็กะทำงานแค่เดือนเดียว เดี๋ยวเดือนหน้าฝึกงานก็ไม่ทำงานล่ะ กะเก็บเงินไว้ใช้ช่วงฝึกงาน”
“เออนั่นละ เขาให้มาก็รับไว้ ดีแล้ว แกไม่ต้องไปทำล่ะ อันตรายว่ะ ยังไงก็เอาตามนี้ละกัน คุณเอริคเขาใจดีมาก นี่ค่าห้องค่ารักษาพยาบาลเค้าก็จ่ายให้หมด”
“หูย... ใจดีเนอะ แต่เอาจริงถ้าเจ้านาย ไม่ช่วยพี่กับนัช ป่านนี้ เราสองคนตอนนี้จะเป็นไง ไม่รู้เนอะ พี่อย่าบอกให้แม่รู้นะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”
“ไม่หรอก ใครจะกล้าบอกว่ะ เกือบทำให้แกเจ็บตัวเพราะพี่แบบนี้”
“ใช่ ใช่เลย เห็นม่ะ นัชเกือบโดนไปด้วยแล้วเนี่ย ว่าแต่เมื่อไหร่พี่จะเลิกก่อเรื่องสักทีห๊ะ เลิกเล่นเหอะพนันบอล พนันออนไลน์ นัชไม่เห็นใครได้ดี เพราะการพนันสักคน”
“เออ พี่ไม่เล่นแล้วน่า ยิ่งตอนที่เห็นแกเอาตัวมาขวาง จนเกือบโดนฟาดเพราะพี่แล้วแกเป็นลมล้มพับ ก็ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับพนันอีกล่ะละ ถ้าตอนนั้นแกเป็นอะไร จะบอกพ่อกับแม่ไงวะ”
“ดีแล้ว ที่คิดได้ ให้มันจริงเถอะ พี่น๊อตเป็นพี่ชายคนเดียวที่นัชมีนะ”
“เออ แกก็เป็นน้องสาวคนเดียวของพี่เหมือนกัน ทีหลังอย่าทำอะไรแผลง ๆ เอาตัวมาขวางใครแบบนี้อีกรู้ไหม แกมันเป็นแบบนี้ตลอด คิดถึงแต่คนอื่นมากกว่าตัวเอง บอกให้อยู่บ้านจะตามมาทำงานทำไมก็ไม่รู้”
น๊อตลูบหัวน้องสาวเบา ๆ อย่างเห็นใจ จนนัชชาเองน้ำตาคลอ
“รู้ละน่า นัชก็แค่อยากแบ่งเบาภาระของทุกคน ว่าแต่พี่ก็ด้วยเหมือนกัน รับปากนัชด้วย ห้ามเล่นพนันอีก”
“เออรับปาก ตกลงแกเป็นน้องสาวหรือเป็นแม่กันแน่เนี่ย”
สองพี่น้องมองตากันยิ้มมีความสุขที่ปรับความเข้าใจกันได้
~ที่หน้าห้อง~
เตชินที่ยืนฟังสองพี่น้องคุยกันหน้าห้อง เขาเลยตัดสินใจไม่เข้าไป ปล่อยให้สองพี่น้องได้คุยกัน อดนึกขำไม่ได้ ที่นึกว่าดีเจนั่นเป็นแฟนเธอ ที่ไหนได้กลับกลายเป็นแค่พี่ชาย
-ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าชะมัด ยอมเอาตัวเข้าไปขวางเพื่อช่วยพี่ชาย ทั้งที่ตัวเองยังเจ็บอยู่-
ยิ่งตอนที่เขาพาเธออุ้มออกมาจากที่ผับตอนที่ไม่ได้สติ ใบหน้าใกล้กันแค่เอื้อม ยิ่งสัมผัสถึงความน่ารักของนัชชา เธอน่ารักมากกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ ไม่น่าเชื่อว่าเขาไม่เคยสนใจเธอเลยถึงสี่ปี แถมนัชชาชอบทำเมินใส่เขาบ่อย ๆ ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไปที่ชอบวิ่งเข้าหา
เตชินยกยิ้มที่มุมปาก นึกหาอะไรทำสนุก ๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป