ตอนที่ 5 จูบ? เรื่องจริงหรือว่าฝัน
ตอนที่ 5 จูบ? เรื่องจริงหรือว่าฝัน
เตชิน เดินกลับออกมาในช่วงเช้า โดยที่ไม่ได้กลับเข้าไปเยี่ยมนัชชาอีกครั้ง
ภายในใจยังนึกถึงใบหน้าสวยหวานของนัชชาตอนที่เธอหลับอยู่บนเตียง ก่อนที่พี่ชายของเธอจะเข้ามา
-น่ารักดี- เขาคิด
น๊อตเฝ้านัชชาจนอาการดีขึ้น เมื่อหมอมาตรวจอาการเธออีกครั้ง พบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว สองพี่น้องจึงพากันออกจากโรงพยาบาล ส่วนค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า คนของผับแองเจิลจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าห้องไว้หมดเรียบร้อยแล้ว
“คุณเอริคจ่ายให้ทั้งหมดจริงๆ เหรอพี่น๊อต ใจดีมากๆ เลยเนอะ” นัชชายังอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเอริคถึงยอมช่วยเธอกับพี่ชายขนาดนั้น
“ให้น้องชายมาจัดการแทนมั้ง ไม่รู้อะ เห็นน้องชายเขามาจัดการให้” น๊อตตอบเพราะเขาไม่รู้ว่าเตชินเป็นเพื่อนกับนัชชา
“น้องชาย?”
“งั้นมั้ง น้องชายคุณเอริค อายุรุ่นๆ แกแหละ”
“อ่อ ใจดีทั้งพี่ ทั้งน้องเลยเนอะ ไว้ต้องหาโอกาสขอบคุณ” นัชชายิ้มก่อนจะเอามือคล้องแขนพี่ชายราวกับอ้อน ก่อนพากันออกจากโรงพยาบาล สุดท้ายเธอเลยขอหยุดเรียนไปอีกหนึ่งวันก่อนที่จะไปเรียนในวันปกติในวันรุ่งขึ้น
~ที่มหาวิทยาลัย~
“เป็นไงวะ นัช หายเจ็บแล้วเหรอมาเรียนได้”
นัชชาที่ยังคงเดินกะเผลกนิดหน่อย หันไปมองตามเจ้าของเสียง ก่อนจะทำหน้าแปลกใจ เมื่อเห็นเป็นเตชินที่ยืนพิงกำแพงอยู่ตรงทางขึ้นบันได
“เจ็บสิ ถามแปลก”
“เจ็บแล้วทำไม ไม่หยุด”
“ยุ่งอะไรด้วย” นัชชาไม่เข้าใจที่เขามาถามเธอทั้งที่ไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น หรือที่เขาถามเพราะเขาสำนึกผิดที่เป็นต้นเหตุขับรถเฉี่ยวเธอยังงั้นหรือ
“อ้าว ถามดี ๆ ไหงตอบแบบนี้ล่ะ”
“ก็นายจะใส่ใจทำไม ไม่ใช่เรื่องของนาย”
“ใจดำเนอะ คนอุตส่าห์ถามดี ๆ ดูตอบดิ ว่าแต่นี่ มึงจะไม่ขอบคุณกันสักนิดเลยเหรอวะ” เตชินกอดอกสายตาเหล่มองนัชชาที่ไม่เอ่ยขอบคุณเขาสักนิดเรื่องที่เป็นคนช่วยเหลือเธอในคืนนั้น แต่นัชชาที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ได้แต่ทำหน้างง
“ขอบคุณเรื่องไร เรื่องที่นายฝากฉันกับหัวหน้างานที่ผับอะนะ ไม่ต้องล่ะ เพราะฉันโดนให้ออกจากงานแล้ว”
สิ่งที่นัชชาคิดออก ก็มีแต่เรื่องนี้ที่เธอจำได้ว่าคุยกับเขาตอนอยู่กับหัวหน้า
เตชินถึงกับชะงัก ที่นัชชาไม่รู้เรื่องที่เขาเอาเงินส่วนตัวใช้หนี้ให้เธอ จนไม่ต้องโดนขัดดอก ทั้งที่พี่ชายเขาเอริคก็ไม่ได้คิดจะรับเงินจากเขาอยู่แล้ว แต่เตชินก็ยังยืนกรานจะจ่ายหนี้ให้เอง
แต่ตอนนี้ นัชชา กลับพูดคุยกับเขาราวกับไม่รู้เรื่องที่เขายังเป็นคนอุ้มพาเธอไปโรงพยาบาลแม้แต่น้อย
“มึงว่าอะไรนะ”
“ก็หมายความตามที่บอก ฉันโดนให้ออกจากงานแล้ว”
-เห้อ...ดูเหมือนยัยนี่ท่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย-
เตชินถอนหายใจ
~ช่างมันเถอะ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยสำหรับเขา~
“เออ ออกก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องทำงาน” เตชินเอ่ย นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขาขอพี่เอริคเอาไว้ให้นัชชาออกจากงานเป็นเพราะเขาสงสารไม่อยากให้นัชชาต้องลำบากทำงานทั้งที่ยังเจ็บแผลอยู่
“ใช่ ก็ดี ไม่ต้องไปทำงาน แล้วจะได้ไม่ต้องไปเจอลูกค้าวีไอพีกวนประสาทอย่างนาย”
“ลูกค้าวีไอพี?”
“เออใช่ไง ก็วันนั้นหัวหน้าบอกว่า ต่อไปนายมาที่ผับชื่อนายให้ลงบัญชีวีไอพีเอาไว้ คงเพราะนายเที่ยวผับบ่อยมาก จนได้เป็นลูกค้าประจำจนเป็นวีไอพีสินะ”
“ห๊ะ?” เตชินทำหน้างงที่นัชชาเหมาเอาเองตามความเข้าใจของเธอ ทั้งที่จริงเขาเป็นวีไอพีเพราะสถานะน้องชายเจ้าของผับต่างหาก แต่เธอกลับดันเข้าใจว่าเขาได้เป็นวีไอพีเพราะเที่ยวบ่อย
“นายมีไรอีกไหม ฉันจะรีบเข้าเรียน อ๋อ..หรือเพราะว่านายกลัว กลัวว่าฉันจะไปบอกน้องพลอยอะไรนั่นของนายว่าฉันเห็นนายควงกับคนอื่น เออ เออ ไม่บอกหรอก สบายใจได้” นัชชาทำท่าโบกมือไล่ให้เตชินถอยไป จนเขาได้แต่เหวอ
-ยัยนี่คิดเอง เออเองเสร็จสรรพเลยวุ้ยเขาไม่ได้มาหาเธอเพราะเป็นห่วงแท้ ๆ -
นัชชาเดินเลี่ยงหลบเตชินออกไปอีกทาง เป็นเพราะเมื่อคืนก่อนตอนที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอเหมือนฝันอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับหมอนี่ พอเจอหน้าถึงมีความรู้สึกเขิน บอกไม่ถูก
-ไม่น่าฝันว่าโดนหมอนั่นจูบเลย-
นัชชายกมือขึ้นปิดปาก ใบหน้าขาวร้อนผ่าวจนเป็นสีชมพู เพราะตอนที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ดีๆ ก็เหมือนใบหน้าหมอนี่มาเข้าใกล้ แถมจูบเธออีกต่างหาก ทำไมช่างเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก มากจนรู้สึก..หัวใจเต้นแรงแปลก ๆ
เตชินมองคนร่างเล็กที่เดินกะเผลกไปก่อนจะเดินตามไปใกล้
“ตะ ตาม ตามมาทำไม” นัชชาผงะตกใจ เมื่ออยู่ดี ๆ เตชินมาเดินคู่อยู่ข้าง ๆ เธอ
“เรียนคลาสเดียวกัน ไม่ให้กูเดินมาทางนี้มึงจะให้เดินไปทางไหน” เตชินเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะเดินนำหน้าทิ้งช่วงไว้หนึ่งก้าว แต่สายตายังปรายมองนัชชาที่ยังเดินกะเผลกอย่างช้า ๆ ไม่ทันไร นัชชาที่เดินไม่ค่อยถนัดก็สะดุดจะล้ม ดีว่าเตชินหันกลับมาพยุงตัวเธอไว้ได้ทันในอ้อมกอด
“อะ เออ ขะ ขอบคุณนะ” . นัชชาจับแขนเตชินไว้ทั้งสองข้าง สายตาช้อนขึ้นมองใบหน้าหล่อของเขาที่อยู่ใกล้ ยิ่งสายตาเขาที่มองเธอกลับมา กลับดูแปลกไปกว่าทุกครั้ง ทำเอานัชชารีบเบือนหน้าหนี ค่อย ๆ ปล่อยมือจากแขนของเตชิน
“ซุ่มซ่ามนะมึงอะ กูว่าไม่ใช่ที่กูขับรถเฉี่ยวมึงหรอก แต่เป็นเพราะมึงซุ่มซ่ามวิ่งมาชนรถกูมากกว่า” เขาเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ แต่สองมือเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายจับแขนนัชชาไว้แทน
“แต่ฉันว่า ฉันซวยมากกว่า เวลาเจอนายทีไรมีแต่เรื่องซวย” นัชชาพยายามเอามือแกะมือของเขาที่ตอนนี้เป็นฝ่ายจับแขนเธอออก แต่รู้สึกว่าเตชินจับแน่นขึ้น ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมาดันตัวเธอไว้ติดผนังที่กำแพง
“งั้นเหรอ” สายตากรุ้มกริ่มที่จ้องเธออยู่ตรงหน้า ทำให้นัชชากะพริบตาถี่เพราะตกใจ เธอเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอสายตาที่กำลังประสานกัน
“นะ นายจะทำอะไร ฉันเจ็บ” เธอจ้องตาเขาปริบ ๆ อยู่ดี ๆ เตชินก็มาทำตัวแปลก ๆ ใส่แบบนี้ มัน....
“ทำไมมึงหน้าแดง คิดไรกับกูป่าวเนี่ย” เตชินแซวขำเมื่อเห็นปฏิกิริยาคนตรงหน้าที่มีอาการดูเหมือนจะเขินเขา
-คอยดูนะ ไม่ช้าเขาจะทำให้นัชชาต้องหลงเขาหัวปักหัวปำ เมื่อโดนเขาหว่านเสน่ห์เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่หลงเขา-
เตชินกระหยิ่มยิ้มย่อง เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังเจอของเล่นใหม่ที่น่าสนใจมาก
“ฝันไปเถอะย่ะว่าฉันจะคิดอะไรกับคนอย่างนาย ต่อให้ทั้งโลกเหลือผู้ชายแค่นายคนเดียวฉันก็ไม่เอา”
นัชชาเปลี่ยนสายตาเป็นแววตามองเขาอย่างรังเกียจ ก่อนจะรวบรวมแรงผลักเขาไปสุดฤทธิ์ พยายามเบี่ยงตัวเพื่อหลบหนี แต่ทว่าเตชินกลับดึงแขนเธอกลับมา
“ปากดีแบบนี้ น่าจูบชะมัด”
ไม่พูดเปล่า เตชินอาศัยจังหวะทีเผลอ จูบนัชชาทันที ก่อนที่นัชชาจะรีบผลักออกแล้วยกมืดฟาดไปที่ใบหน้าเขาอัติโนมัติ
เพียะ!!!
“ไอโรคจิต!! ถ้านายมาทำรุ่มร่ามกับฉันแบบนี้อีก คราวหน้า ฉันไม่ไว้หน้านายแน่”
“หึ หึ ก็ใครใช้ให้ปากมึงน่าจูบนี่หว่า” เตชินดันลิ้นที่กระพุ้งแก้ม ก่อนจะยกมือมาจับที่ปากของนัชชา ที่พยายามปัดมือของเขาออก
“ไอ ไอ ไอ” นัชชาอ้าปาก พูดไม่ออก แต่ใบหน้าแดงร้อนผ่าว ยิ่งนึกถึงฝันที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นเมื่อคืนก่อนที่โรงพยาบาล ยิ่งรูัสึกแปลก ๆ
-นี่มันจูบแรกของเธอเลยนะเนี่ย ตะ แต่ทำไม... จูบแบบนี้...เหมือนจัง แต่เป็นไปไม่ได้ หมอนี่จะไปอยู่ที่โรงพยาบาลได้ยังไง-
นัชชายกมือขึ้นปิดปาก ก่อนจะรีบเดินกะเผลกหนีไปทันที เตชินเห็นอาการของเธอได้แต่ยกยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินตามนัชชาไปติด ๆ