ตอนที่ 5 อย่าทิ้งรอยนะคะ
“อื้อ….หมอคะในห้องน้ำอย่าทำแรง อายไม่อยากครางเสียงดัง อื้อ….”
“ก็มันอดไม่ได้ อาา….”
อ่างอาบน้ำที่เริ่มมีเสียงน้ำกระเซ็นออกพร้อมกับเสียงครางกระเส่าของทั้งคู่ทำให้พื้นห้องน้ำเปียกแต่ทั้งสองกลับไม่ได้สนใจเท่าไหร่
“อย่าทิ้งรอยที่คอนะคะ อายต้องไปมอบตัวเดี๋ยวจะดูไม่เหมาะ”
“หึ!!”
“หมอคะ”
เขานิ่งไปทันทีเมื่อเธอพูดออกมาแบบนี้เพราะเขาที่ไม่ค่อยพอใจอยู่แล้วกับการที่เธอจะไปฝึกงานที่อื่น แล้วนี่ยังมาห้ามโน่นห้ามนี่ เรื่องเสื้อผ้าเขาก็ยอมแล้วแต่ทำไมต้องห้ามเขาเรื่องนี้อีก
“หมอคะ…อย่างอนสิคะ”
“ใช้รองพื้นปิดไม่ได้หรือไงก็คนมันอยากทำ”
“อย่าดื้อสิคะ ถ้าดื้ออาทิตย์นี้อายจะไม่กลับบ้านนะ”
“อย่านะ!!”
อายใช้นิ้วชี้เชยคางหมอเจษขึ้นมา ตอนนี้เขาจะเชื่องไม่ต่างกับลูกแมว แต่ในเวลาปกติทั้งคู่จะไม่ได้มีบุคลิกเช่นนี้เลย อายค่อย ๆ โน้มไปกระซิบที่ข้างหูของเขา
“ถ้าเชื่อฟัง…คืนนี้อายจะบริการคุณทั้งคืน”
“งั้นเริ่มเลย”
โอ๊ะ….อย่ากัดหัวนม เจ็บ…อื้อ….เสียว"
เขาพุ่งเข้าไปดูดเม้มจนเธอเริ่มเจ็บแต่ก็เสียวมากจนไม่อยากให้เขาหยุด หมอเจษรู้จุดอ่อนของเธอดีกว่าใคร ๆ ว่าเธอต้องการอะไรเมื่อเขาเริ่มกระแทกเธอถี่ขึ้นจนเธอแหงนหน้าร้องครางเสียงหลงอีกครั้ง
“อื้อ…..อ๊าา หมอ!!….ไปที่เตียงเถอะค่ะ”
“จะรีบไปไหนล่ะ ไหนบอกจะอยู่ทั้งคืนไงล่ะ”
“ไม่ชอบเปียก ๆ ผมแห้งยากไม่งั้นจะไปตัดผม”
“ไม่เอา ๆ ก็ได้ ๆ ขึ้นก็ได้รอเสร็จรอบนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพาไป”
“อร๊าง!!…..เร็วเข้าสิคะ อึ๊ยย ดูด….อ๊าา อย่ากดตรงนั้นมันเสียว….อ๊าา!!!”
สุดท้ายเมื่อเขาพาเธอออกมาจากห้องน้ำก็ต้องมานั่งเป่าผมเธอให้แห้งเพราะเขาเผลอปล่อยเธอลงจนเธอจมน้ำในอ่างจนสำลัก
“ยังดีที่ไม่ได้กลืนน้ำสบู่ลงไปไม่งั้นคงต้องผายปอด”
“หึ อย่างกับกล้าทำ”
“ว่าไงนะ”
อายนึกขึ้นมาได้และหลงลืมไปว่าเธอไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อน เขาดึงชุดออกมาให้เธอ
“อะไรคะ”
“ลงไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ”
เธอรับชุดมาและไม่ถามอะไรเขาอีก เธอรู้ว่าเขาไม่พอใจเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับปากหรือการจูบ ครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา
ครั้งนั้นเขาไม่กลับมาที่บ้านนี้ร่วมเดือน สุดท้ายเป็นเขาที่ทนไม่ไหวต้องพาเธอไปลงโทษที่คอนโดจนเธอแทบจะลุกจากเตียงไม่ไหว หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาส่วนมากกับเธอที่นั่นและบอกที่บ้านว่าเธอนอนค้างหอเพื่อนในมหาลัย
“ถุงเสื้อผ้าของอายล่ะคะ”
“ออกไปได้แล้ว”
“แต่ว่า”
สายตาเย็นชาแข็งกร้าวนั้นหันมามองเธออีกครั้ง เป็นอันเข้าใจกันว่าให้เลิกถาม อายเองก็เบื่อกับนิสัยคุณชายของเขา บางทีก็ใจดีจนน่าใจหายแต่บางทีก็เป็นแบบนี้
“เป็นไบโพล่าหรือไงนะ ควรจะไปตรวจบ้างถึงจะเป็นหมอก็เหอะ”
อายจำเป็นต้องเดินออกมาทั้ง ๆ ที่ของที่ซื้อมาอยู่กับเขาทั้งหมด ใช่ว่าจะไม่ชินที่เขาทำแบบนี้แต่เขาดูเหมือนจะอ่อนไหวในทุกครั้งที่เธอพูดเรื่องพวกนี้ เขามีปมอะไรกับการจูบกันนะ
เช้าวันถัดมา
อายเดินออกจากห้องมาและกำลังจะเดินไปเรียกรถที่หน้าบ้านแต่รถหรูสีดำก็วิ่งมาปาดหน้าเธอจนเกือบจะชนเธออยู่แล้ว ไม่บอกก็รู้ว่าใครเป็นคนขับเมื่อเขาเลื่อนกระจกลงมา ใบหน้าที่สวมแว่นหล่อราวกับพ่อเทพบุตรนั่นช่างน่าหลงใหลได้อย่างน่าโมโห
“ขึ้นมาสิ จะไปส่ง”
“อย่าเลยค่ะไปคนล่ะทางกันค่ะ”
“จะขึ้นหรือเปล่า”
“ไม่ขึ้นค่ะ”
“ปรี๊นนนนนนน!!!!!!!!!”
เขาบีบแตรรถหรูค้างเอาไว้จนคนในบ้านเริ่มสงสัย อายยืนกำหมัดแน่นเพราะโมโหแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรีบเดินไปขึ้นรถอีกฝั่งหนึ่งจนเขายอมถอนมือออกจากแตรรถเมื่อเธอเข้ามานั่งและปิดประตู
“ก็แค่นี้เอง”
“เผด็จการ”
“รัดเข็มขัด”
"เมื่อคืนยังไล่ออกจากห้องอยู่เลยแต่พอมาตอนเช้ากลับจะไปส่ง พ่อคุณหมอไบโพล่าของแท้"
“เธอบ่นอะไร แล้วนี่จะไปที่ไหน บอกพิกัดมาสิ”
“ไปส่งแค่ตึก CC ก็พอค่ะเดี๋ยวอายขึ้นรถไฟฟ้าไปเอง”
“เลือกเอาว่าจะให้ไปส่งหรือจะไปที่คอนโดทำเรื่องต่อจากเมื่อคืนนี้”
อายรีบกดแผนที่ใน GPS หน้าจอในรถให้เขาทันที เธอไม่ได้อยากเป็นเด็กฝึกงานที่ไปสายตั้งแต่วันมอบตัวหรอกนะ แต่กับหมอเจษเธอจะไว้ใจเขาไม่ได้เพราะอารมณ์ของเขาขึ้น ๆ ลง ๆ ยิ่งกว่าผู้หญิงวัยทองเสียอีก
“ดีหน่อยที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมาก พักเที่ยงกินข้าวที่ไหน”
“ยังไม่รู้เลยค่ะ วันนี้วันแรกคงต้องดูเพื่อน ๆ อีกที”
“อืม”
อีกไม่ถึงสิบกิโลเมตรจะถึงจุดหมายที่เธอตั้งเอาไว้ แต่คุณหมอกลับเลี้ยวเข้าไปในปั๊มน้ำมันก่อน เขาไม่ได้ไปเติมน้ำมัน กลับขับมาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ
“คุณหมอจะซื้ออะไรเหรอคะ”
“เปล่า”
“แล้ว…จอดรถทำไมคะ”
“ลงโทษ"
เขาถอดเข็มขัดนิรภัยและโน้มตัวไปหอมซอกคอเธอทันที กลิ่นนี้แหละที่เขาโหยหาเมื่อคืนเขายอมให้เธอลงมาเพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญสำหรับเธอ วันแรกของการฝึกงาน
เขาอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าทั้ง ๆ ที่เข้าเวรรอบบ่าย รอเธอเดินออกมาและขับรถมาจอดตรงหน้าเพื่อจะได้รู้สถานที่ที่เธอฝึกงาน ปากเขาเม้มกัดไปที่ซอกคอและเลื่อนลงไปที่ร่องอกในชุดนักศึกษาของเธอ
“หมอคะ อย่าทำแบบนี้อย่าทิ้งรอยนะวันนี้อายไม่ได้เอาแป้งมา”
“ทำไม กลัวคนอื่นรู้เหรอ”
“ไม่ใช่นะ มันน่าเกลียด!!”
“ว่าไงนะ!!”
เขาปรับเบาะไฟฟ้าเลื่อนลงจนเธอเอนนอนลงไปและหมอเจษเริ่มปลดเข็มขัดออกพร้อมกับดึงกระดุมเสื้อของเธอออก
“หมอคะ อย่าทำที่นี่นะเดี๋ยวคนเห็น”
“ฟิล์มรถหนาพอที่คนข้างนอกจะมองเข้ามาได้ไม่ต้องห่วง”
“อย่าค่ะ อ๊าา….หมอเจษ”
เธอไม่อยากให้ใครเห็นรอยเขาพอเข้าใจได้ แต่คำว่าน่าเกลียดทำให้เขาโมโหขึ้นมาจนไม่อยากให้เธอไปทำงานที่นั่น หากว่าเขารู้ก่อนหน้านี้ว่าเธอจะต้องเลือกที่ฝึกงาน เขาคงไม่ยอมให้เธอไปทำที่อื่นเป็นแน่
“อื้อ…อย่าค่ะหมอ”
“แฉะขนาดนี้ยังบอกว่าอย่า….ปากให้มันตรงกับใจหน่อยอาย”
“ไม่ใช่ที่นี่ ตอนนี้ เวลานี้!! หัดโตบ้างสิคะ”
“ไม่อยากโตมีอะไรไหม อย่าขัดใจอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรหรอกน่าแค่อารมณ์ค้างตั้งแต่เมื่อคืน”
“อ๊าา…หมอ เร่งลิ้นหน่อย อื้อ…สะ…เสียว อ๊าาา….นะ…นิ้ว….อื้มมม…..”
“ทำไม อยากทำอะไร พูดสิ…”
“อยาก….อ๊าาา หมอคะ เสียว…เร็วเข้าจะเสร็จ อ๊าา!!!”
สุดท้ายเธอก็ต้องเสร็จด้วยนิ้วและลิ้นของเขาอีกครั้ง อายนอนหอบอยู่ที่เบาะรถพร้อมกับชุดนักศึกษาที่รุ่ยร่ายและเริ่มยับนิดหน่อยเพราะถูกเขาปลดออก
“เป็นยังไง หายค้างไหม”
“ยังค่ะ”
“งั้นมานี่”
อายรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นพร้อมกับปลดเข็มขัดเขาออกอย่างคุ้นเคย บางอย่างที่แข็งขืนอยู่ในนั้นรอเธออยู่เมื่อมันชูคอออกมาเธอก็ไม่รอที่จะดูดกลืนมันเข้าไป มือหนาล้วงเข้าไปที่หน้าอกอวบแน่นอีกครั้งเพื่อกระตุ้นอารมณ์
“อาา…ดี….แบบนั้นแหละอาย….อาา….ตื่นเต้นดีจัง”
เธอเองก็รู้สึกแบบนั้นแม้ว่าจะเป็นในที่แบบนี้แต่ช่วงเช้า ๆ เช่นนี้ก็แทบจะไม่มีคนเลยทำให้พวกเขาไม่ต้องระแวงมากนักอีกทั้งในรถก็ติดฟิล์มหนาเอาไว้ได้ดี
หมอเจษดูเหมือนจะอารมณ์ค้างมากกว่าอายเพราะเขาแตกในเวลาที่เร็วกว่าเธอ จนอายรู้สึกสมน้ำหน้าที่พูดว่าเธอปากไม่ตรงกับใจ แต่เขาเองก็ไม่ต่างกัน
“อาย…จะแตกแล้วอาย….อาา…..”
เธอดูดกลืนน้ำรักของเขาจนหยดสุดท้ายมือหนาค่อย ๆ ลูบผมเพื่อจับทรงให้เธอและสวมเสื้อกลับให้อย่างเบามือพร้อมกับดึงเธอเข้าไปหอม
“หืม…นี่กลิ่นอะไร”
“คุชชั่นค่ะ แต่งหน้าอ่อน ๆ จะได้ดูไม่น่าเกลียด”
“ไม่เห็นต้องแต่งเลย ไปทำงานไม่ได้ไปอ่อยผู้ชายสักหน่อย”
“อ่อยได้สักคนก็ดีสิคะ”
“อาย เธอยังอยากไปทำงานอยู่ไหม”