ตอนที่ 4 ไม่เอานิ้วค่ะหมอ (NC)
จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้เป็นเวลาสองปีครึ่งแล้วที่เธอและเขาใช้ชีวิตกันแบบนี้ ไม่มีสถานะ เธอไม่เคยถามหาความรับผิดชอบจากเขา และอยากหนีจากสภาพนี้เต็มทีติดอยู่ก็แค่ พ่อของเธอ…..
“คุณท่านมีพระคุณที่ส่งเสียอายนะลูก อย่าได้ลืมบุญคุณคุณท่านกับคุณเจษเด็ดขาด”
“ค่ะพ่อ”
เพราะคำว่า “บุญคุณ” ที่ทำให้เธอยอมทนอยู่กับเขา จะใช้คำว่าอดทนก็ไม่จริงเท่าไหร่นักเพราะหมอเจษเองก็ไม่ได้ให้เธออยู่อย่างลำบาก ทั้งของใช้ส่วนตัว เงินทองและเครื่องอำนวยความสะดวกที่ดูจะมากเกินไปด้วยซ้ำที่ให้เธอแต่เขาไม่พูดอะไรนอกจากหาแต่สิ่งที่ดีที่สุดมาให้เธอ….จนน่าอึดอัด
“ไปไหนมาล่ะวันนี้”
“ไปซื้อของค่ะ เตรียมจะฝึกงาน”
“ที่ไหน”
“บริษัทโฆษณาค่ะ”
“ไม่ต้องไป มาฝึกที่โรงพยาบาล”
“คุณหมอคะ แต่งานที่นั่นไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายงานของอายนะคะ”
หมอเจษหันมามองถุงที่เธอต้องเดินถือมาด้วยอย่างจำเป็นเพราะเขาสั่งให้เธอขึ้นมา เขาเดินมาและดึงถุงนั้นไปตรวจดูทีละถุง
“เสื้อผ้าอะไรเนี่ย ทำไมซื้อแต่ของแบบนี้ แล้วชุดที่ฉันซื้อให้เธอล่ะ”
“ชุดพวกนั้น….ไม่เหมาะสำหรับเด็กฝึกงานค่ะ”
“นี่มันชุดอะไร สก๊อยส์หรือไง กางเกงขาสั้นนี่อะไรเสื้อกล้ามเสื้อแขนกุด ผ้าแบบนี้ปิดหมดเหรอ เอาไปทิ้งให้หมด”
“ไม่ค่ะ”
“อาย!!”
“หมอมีธุระอะไรคะ อายจะรีบเอาของไปเก็บ ข้างล่างกำลังยุ่งกับ….”
ถุงในมือเธอที่เหลือถูกปัดลงพื้นพร้อมกับเขาที่คว้าตัวเธอลงไปที่เตียงนุ่มทันทีพร้อมกับเริ่มปลดกระดุมชุดนักศึกษาที่เขาเห็นเมื่อใดก็เหมือนจะยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของหมอหนุ่มวัยกำหนัดอย่างเขาได้โดยที่เธอไม่ต้องเสียเวลายั่วยวนเขาเลยสักนิด
“อย่านะคะหมอ เดี๋ยวคนมาเห็นเข้า”
“อยู่เฉย ๆ”
“ไม่!! หมอเจษ อ๊ะ อย่าดึงนะ!! อายไม่อยากซื้อใหม่แล้ว”
“ทำไมล่ะ ฉันซื้อให้อีกสิบชุดยังได้เลย ชุดนี้ก็เล็กเกินไปแล้ว มันปริที่หน้าอก ฉันไม่ชอบ”
“แคว่ก!!”
“อ๊าา….หมอ อื้อ….”
เขาทำกับเธอเกือบทุกอย่างเมื่อพบกันทั้งโลมเลียทุกส่วนแม้ว่าเธอจะไม่อยากให้ทำ แม้แต่นิ้วเท้าเขาก็ชอบจูบมัน เพียงแค่ริมฝีปากเท่านั้นที่ตลอดเวลาสองปีกว่านี้เขาไม่แตะต้องเลย ใช่….ทั้งคู่ไม่เคยจูบกันเลยสักครั้ง และอายก็ไม่เคยปริปากถาม
“อาย…หอมจัง เปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมเหรอ”
“อายใช้ยาสระผมที่คอนโดค่ะไม่ใช่น้ำหอม หมอก็รู้ว่าอายไม่ใช้น้ำหอม”
“อืม…กลิ่นเดียวกันแต่พอเธอใช้กลับหอมมาก อาา….”
“อึ๊ย!!….อื้อ…..”
อายแทบจะทนไม่ไหวแม้ว่าเขาจะทำเช่นนี้หลายครั้งแต่ความเสียวที่เขามอบให้มันกลับไม่ลดน้อยลงเลย เธอเองก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ทำให้เธอติดเซ็กส์
แม้ว่าจะไม่ได้พูดได้เต็มปากว่าเป็นอะไรกันแต่เธอเองก็ไม่ได้สนใจ แค่แต่ละคนมีความสุขก็พอแล้ว เพราะในอนาคตเธอเองก็ไม่ได้หวังจะให้เขามาปกป้องหรืออยู่เคียงข้าง เพราะเธออยากได้อิสระและไปจากเขามากกว่า
“อ๊าา หมอ แรงกว่านี้ค่ะ อ๊าา…”
“แรงกว่านี้ งั้นขึ้นมาร่อนเองเลยสาวน้อย”
เขาจับเธอขึ้นมานั่งคร่อมพร้อมกับจับผมยาวสลวยของเธอเอาไว้ให้และดึงยางรัดมารวบให้เธอก่อนที่คนตัวเล็กจะเริ่มร่อนเอวเข้าหาเขาอย่างเคยชินพร้อมกับลิ้นที่นัวเนียไม่ห่างหน้าอกของเธอ
“อื้อ…เสียว หมอขา….อ๊าา จะแตกแล้ว”
“เสร็จเร็วอีกแล้ว คิดถึงก็ร่อนแรง ๆ สิเร็วเข้า อาา…เร็วหน่อย อาา…..อาย…จะแตกแล้วเร็วเข้า”
“หมอ อายอยากโดนแทง อ๊าา….”
“เอางั้นเหรอ อมให้ก่อนสิ”
เขาท้าทายเธออีกครั้งมีหรือที่อายจะยอมแพ้เขา เธอใช้นิ้วกรีดไปที่ริมฝีปากของเขาอย่างยั่วยวน เขาปฏิเสธไม่ได้ว่านับวันเขาเองก็จะหลงเธอเข้าไปมากทุกที เธอมีเสน่ห์มากขึ้นจนห้ามใจไม่อยู่
อายเริ่มเลื่อนตัวลงเพื่อจัดการลำเอ็นที่ตั้งตรงอยู่ตรงหน้า เธอใช้ผ้าเช็ดออกนิดหน่อยก่อนจะอมมันเข้าไปพร้อมกับรูดขึ้นลง
“อาา…เสียว…อาย…..อาา!!! อาย…ขอแตกใส่ปากนะ”
อายไม่ตอบเขาเธอทำเพียงแค่ให้เขาพอใจเพราะตอนนี้เธอเองก็ต้องการเขาเช่นกัน ไม่มีครั้งไหนที่เขาเชื้อเชิญแล้วเธอจะปฏิเสธนอกจากวันที่เธอป่วย
“อาา….แตก…แตกแล้วว”
ตัวเขาเกร็งจนอายรู้สึกได้ เธอชอบเวลานี้ที่สุด เวลาที่เขาร้องขอชีวิตจากเธอ มันเหมือนกับเป็นช่วงเวลาที่เธอชนะเขาได้ แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะคุมเกมทั้งหมดก็ตาม
“ได้เวลาแล้วสาวน้อย ขอเลียหน่อย”
เธอหันไปหอมแก้มเขาก่อนจะโค้งตัวลงและแอ่นบั้นท้ายไปให้เขา หมอเจษราวกับหิวมานานเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ลิ้นหนาพุ่งเข้าไปทันทีพร้อมกับกระดกลิ้นรัว อายครางเสียงหลงพร้อมกับเสียงฟาดที่บั้นท้ายแรง ๆ จากเขาอีกที
“อ๊าา…เสียวจัง หมอขาา….เร็ว ๆ เข้า จะเสร็จอีกแล้ว”
“อยากโดนแล้วเหรอ ขอร้องสิ ตาเธอแล้วอาย”
“หมอคะ ได้โปรด….เสียบเข้ามาเร็ว ๆ ค่ะ อายอยากได้ อ๊าา….ไม่เอา…ไม่เอานิ้วค่ะหมอ”
เขารู้ว่าเธอชอบท่านี้มากเพราะมันทำให้เธอออกัสซั่มได้บ่อยและทำให้เธอยอมตามใจเขาและไม่ชักสีหน้าเย็นชาราวแผ่นน้ำแข็งเหมือนในเวลาปกติ เขาชอบที่จะทำให้เธอพอใจมากกว่าเธอที่นิ่งและทำตัวเย็นชา แต่ก็นั่นแหละ เขาเองก็ไม่เคยจะพูดกับเธอดี ๆ สักเท่าไหร่
“อ๊าา แรงอีกขอถี่กว่านี้…หมอ!!”
“ยัยคนดื้อ….อยากได้ขนาดนี้แล้วยังปากแข็ง อ้าปาก…”
“อ๊าาา…อ๊อก…อ๊อก….แคก แคก หมอ ขออีก อ๊อก…”
นิ้วมือของเขาล้วงเข้าไปในปากเธอ นึกไม่ถึงว่านานวันเซ็กส์ระหว่างพวกเขาจะเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด และเขาเองก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรกับผู้หญิงแค่คนเดียวมาตลอดเวลาเกือบสามปีโดยไม่มองคนอื่นเลย
“อาบน้ำไหม”
“ไม่ค่ะ อายจะลงไปเลย”
“ชุดขาดหมดแบบนั้นอ่ะนะ เอาเสื้อนี่ไปสวมทับสิ”
“ค่ะ”
เธอจะคว้าถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาแต่เขากลับฉวยกลับมา
“หมอคะ หมายความว่ายังไงคะ”
“ไม่ต้องใส่ ชุดอะไรขยะทั้งนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พาออกไปซื้อใหม่ เอาแบบที่คนเขาใส่กัน”
“ไม่นะคะ นี่มัน…..”
“ทำไม หรือว่ามีใครซื้อให้ เธออย่าบอกนะว่ามีคนอื่นซื้อให้น่ะ มันเป็นใคร”
สีหน้าและแววตาที่แสดงออกว่าไม่พอใจกึ่งโกรธนั้นทำให้อายกลัว เพราะหลังจากที่หมอเจษโกรธนั้น ไม่เคยมีเรื่องดีเกิดขึ้นสำหรับเธอ
“ไม่ใช่นะคะ ชุดนี่อายไปซื้อกับรินมาค่ะ ถ้ารินไม่เห็นก็จะว่าให้หมออีก อายไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจหมอผิด ๆ”
ข้ออ้างนี้ทำเอาคนตรงหน้าเริ่มหักมุมปากขึ้นนิดหน่อย นั่นเขายิ้มหรือเปล่านะ แต่ทำไมดูแปลก ๆ แบบนั้น
“งั้นเหรอ เธอกลัวว่า…คนอื่นจะว่าฉันงั้นเหรอ”
“ค่ะ แล้วเสื้อผ้าที่คุณหมอซื้อให้ มันมีแต่แบรนด์เนมซึ่งไม่เหมาะที่เด็กฝึกงานจะใส่ไปทำในบริษัท คนอื่นจะพูดได้ว่าไม่มีกาลเทศะนะคะ”
“ก็บอกแล้วว่าให้มาทำที่โรงพยาบาล ให้เพื่อนเธอมาทำด้วย”
“ไม่ได้ค่ะอายไม่อยากใช้เส้น งานที่โรงพยาบาลไม่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพของอาย”
“งั้นก็เอาไปทิ้ง”
“คุณหมอคะ”
อายมองเขาและเริ่มสายตาที่เริ่มน้อยใจกึ่งโกรธ สายตานี้แหละที่เขาแพ้ แต่เขาจะเบือนหน้าหนีอีกครั้งเพื่อให้เธอยอม
“ไม่มีเงื่อนไข เลือกมาจะเปลี่ยนที่ฝึกงานหรือว่า…..”
อายเดินเข้าไปหอมแก้มเขาทำเอาคนตัวโตหน้าร้อนผ่าว เขาเองก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วสักหน่อยแต่เมื่อถูกเธอทำแบบนี้บ่อย ๆ กลับเริ่มรู้สึกดีขึ้นจนต้องยอมแพ้
“อายขอนะคะ แค่นี้อายก็ถูกสงสัยว่าเป็นเด็กเสี่ยแล้ว อย่าให้มันดูแย่กว่านี้เลยนะคะ นะคะคุณหมอ”
เจษข่มใจยากอยู่ไม่น้อยเมื่อเธอเข้ามากอดแขนเขาพร้อมกับใช้หน้าอกนุ่มนั่นมาแนบที่แขนของเขา แต่มีหรือที่เขาจะยอมง่าย ๆ ปราศจากข้อแลกเปลี่ยน
“ก็ได้ตามใจเธอ แต่คืนนี้เธอ….ต้องตามใจฉัน”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ขออีกรอบหนึ่งนะ ข้างล่างคนเยอะแล้วอยู่กับฉันดีกว่า”