บท
ตั้งค่า

ผู้หญิงตัวหอมคนนั้น

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นตัวเลขที่เข็มนาฬิกาชี้

“งั้น… ผมขอตัวก่อนนะครับ”

เขากล่าวลาพนักงานต้อนรับอย่างเรียบง่าย แล้วหันหน้าเดินออกนอกประตูไปเพื่อเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งหน้าผับ แล้วค่อยขับรถเครื่องของตนกลับบ้านต่อ

เมื่อแท็กซี่จอดเข้าจอดในขณะที่เขาเอื้อมมือไปจะเปิดประตู ก็มีคนผลักประตูรถสวนทางเขาเพื่อออก รติกาลชักมือกลับและถอยหลังหลีกทางให้คนที่กำลังลงมาไปสามก้าว มองดูชายสองหญิงหนึ่งที่กำลังดันกันลงแท็กซี่ดวงตาเขาถึงกับเบิกโพลง

‘นั่นมัน... เธอคนนั้นนี่’

เขาจำเธอได้เธอคือผู้หญิงตัวหอมคนนั้น

‘อะไรกันเล่นที 2 คนเลยเหรอ’

ชายหนุ่มคิดแบบนั้น แต่เมื่อรติกาลสังเกตเห็นสีหน้าของเธอดีๆ เขากลับรู้สึกว่าเธอนั้นไม่ได้เต็มใจ ตัวอ่อนมือไม้ของเธอดูอ่อนปวกเปียกไปหมดเหมือนคนควบคุมร่างกายไม่ได้

“ปล่อย”

เธอพูดแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินเหมือนคนไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะเปล่งเสียงออกมา เธอพยายามรั้งตัวเองไว้สุดฤทธิ์แต่ชายอีกคนก็ดันหลังเธอลง ทั้งหัวเราะอย่างเย้ยหยัน รติกาลเริ่มผิดสังเกตกับเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าและรู้สึกถึงกลิ่นแปลกๆ

เมื่ออีกคนลงมาได้ก็ดึงเธอลุกขึ้น อีกคนตามลงมาเพื่อหิ้วปีกเธอเดินเข้าโรงแรม หญิงสาวพยายามใช้เท้าดันตัวเองเอาไว้ ไม่ให้ถลาไปตามแรงฉุดจากชายสองคนนั้น เธออ่อนแรงมากจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เธอเหลือบไปเห็น รติกาลที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี

“ชะ ช่วยฉันด้วย”

เสียงเธอแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน รติกาลลังเลสงสัยอยู่ว่าเธอพูดอะไร แล้วเสียงหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัวเสียงนั้นเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคย

“ช่วยเธอสิเจ้าเด็กบ้า เธอโดนโปะยา”

“ห๊ะ!!!”

เขาหันไปมองชายหญิงสามคนนั้น เดินเข้าโรงแรมไป รติกาลจึงตัดสินใจเดินตามแล้วแวะไปบอกจีนส์

“คุณจีนส์ช่วยตาม รปภ. มาช่วยผมหน่อยด่วนเลย เช็กด้วยนะว่าลูกค้ากลุ่มนั้นอยู่ชั้นไหน แล้วรีบตามผมไปด้วยนะครับ”

จีนส์เห็นท่าไม่ดี และด้วยความที่เธอนั้นเป็นผู้หญิงหัวไวคิดไวตัดสินใจเร็วเธอจึงคว้าเอาวิทยุสื่อสารขนาดเล็กแล้ววิ่งตามรติกาลไป เมื่อทั้งสองเข้าลิฟต์ รติกาลก็กดขึ้นไปชั้นที่ลิฟต์ของสามคนนั้นหยุด ส่วนจีนส์ก็วอลไปที่ซีเคียวริตี้ขอกำลังเสริมจาก รปภ. ตามมาด่วน และแจ้งชั้นที่ลิฟต์จะจอด เธอวอลบอกเพื่อนอีกคนที่อยู่หน้าฟร้อนท์ให้รอแจ้งความหากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ทุกคนตกลงตามที่จีนส์ร้องขอ พอประตูลิฟต์เลื่อนเปิดออกสามคนนั้นก็ลับตาไปแล้วไม่รู้เข้าห้องไหน

“งานยากล่ะไอ้กาลเอ๊ย”

เขาบ่นอุบพยายามถามเสียงที่คุ้นเคยเขาก็ไม่ตอบ เขารู้สึกเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นมาก จนผิดวิสัยคนที่เพิ่งเคยเจอกัน เขากังวลกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจนน้ำตาซึม

‘เอาไงดี เอาไงดี’

“คุณจีนส์ช่วยแยกกันหาด้วยครับ”

เขาหลอกล่อให้จีนส์แยกตัวจากเขาไปอีกทางเพื่อใช้พลังของเขาช่วยค้นหา เมื่อหญิงสาววิ่งห่างออกไปรติกาลก็หลับตาลงแล้วปล่อยพลังออกตั้งจิตถามสรรพสิ่งที่สิงสถิตอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ แล้ววิญญาณเก่าแก่ดวงหนึ่งก็ปรากฏ รติกาลจึงลืมตาขึ้น

“ช่วยผมหน่อยครับ ผมต้องรีบช่วยเธอบอกผมที ว่าสองคนนั้นพาเธอไปห้องไหน”

วิญญาณของผู้เฒ่าผมขาวหนวดหนาได้ยินที่เขาขอให้ช่วย จึงได้ชี้บอกทาง

“ทางนั้น ชั้น 5”

“ห๊ะ ชั้น 5 เหรอครับ”

วิญญาณพยักหน้าแล้วก็หายวับไป ในขณะเดียวกันกับที่ จีนส์ วิ่งมาเจอเขายังยืนอยู่ที่เดิม

“อะไรกันคะคุณกาล นี่คุณไม่ได้ตามหาเธอเหรอ”

จีนส์ร้องถามมาแต่ไกล

“ทางนี้ครับคุณจีนส์”

เขาคว้าแขนเธอแล้วออกตัววิ่งไปทางที่วิญญาณดวงนั้นชี้บอก

“ชั้น 5 ครับ พวกนั้นพาเธอไปชั้น 5”

“จริงเหรอคะ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาขึ้นไปชั้น 5”

เธอถามด้วยความสงสัย ชายหนุ่มหันมามองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ดูเลิ่กลั่ก

“อะ เอ่อ.. คือ เดี๋ยวสะดวกจะอธิบายนะครับ ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้วเรารีบไปเถอะครับทางนี้”

“ค่ะๆ ไปค่ะ”

เธอวิ่งตามเขาไปยังทางที่วิญญาณชี้ มันเป็นทางหนีไฟขึ้นชั้น 5 พวกนั้นกดลิฟต์ผิดชั้นทำให้รติกาลเองก็สับสน และเป็นเวลาเดียวกันกับตอนที่เขาเรียกลิฟต์ลงชั้นล่าง พวกนั้นไม่อยากรอเพราะกลัวคนอื่นมาเจอเข้าจึงตัดสินใจฉุดลากหญิงสาวเดินขึ้นไปตามทางหนีไฟ เพื่อขึ้นไปยังชั้น 5 แทน

ขณะที่ทั้งสองกำลังวิ่งขึ้นบันได จีนส์ ก็วอลเรียก รปภ. ให้ตามมาส่วนรติกาลวิ่งนำหน้าเธอไปไกลโข

หญิงสาวพยายามฝืนสุดฤทธิ์ เพื่อถ่วงเวลาหวังว่าจะมีใครสักคนผ่านมาเจอเผื่อเธอมีโอกาสรอด เผื่อว่าใครก็ตามที่ผ่านมาเห็นจะช่วยเธอไว้ได้ แต่ระหว่างทางกลับไร้วี่แวว จนเธอคิดว่าตนเองคงไม่รอดแล้วคืนนี้ เมื่อสายตาที่เริ่มพล่าเรือนเหลือบเห็นชายหนึ่งคนล้วงเอาคีย์การ์ดออกจากกระเป๋ากางเกงรีบเดินนำไปรูดปลดล็อกประตูแล้วกลับมาช่วยลากเธออีกแรง

ในขณะที่ความหวังอันริบหรี่ของเธอใกล้จะดับวูบลง และสองคนนั้นกำลังลากเธอถูไถไปจนเกือบถึงประตูห้อง อยู่ๆ ก็มีมือใหญ่ของใครสักคนมาดึงเธอออกจากการฉุดรั้งของสองคนนั้นอย่างแรง

เธอถลาเข้าหาเขาทำเขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว หญิงสาวแหงนหน้ามองคนที่ดึงเธอก็เห็นว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามแต่ทว่าตอนนี้สติเธอไม่เหลือแล้ว เธอวูบหลับไปทันที รติกาลโอบประคองร่างเธอเอาไว้และถอยห่างออกจากสองคนนั้น

เมื่อเหยื่อหลุดมือทั้งสองก็เริ่มโมโห ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วหันมากะจะเล่นงานรติกาล เขาถอยหลังห่างออกไปอีกพลางยกมือขวาขึ้นหวังใช้พลังปีศาจทำให้สองคนที่ยืนจังก้าจะเอาเรื่องเขาอยู่เบื้องหน้าหลับไปสักพัก แต่เวลานั้น รปภ. 4 คน ก็วิ่งกรูเข้ามาพอดี

“หยุดนะ”

พวกเขาตะโกนแล้ววิ่งเข้าชาร์จทันที รติกาลจึงรีบลดมือลงและกอดประคองหญิงสาวไว้ มีเสียงโหวกเหวกโวยวายเกิดขึ้นไม่น้อยเพราะสองคนนั้นอ้างว่าซื้อบริการมาแต่รติกาลบอกไปว่าไม่จริงและอ้างว่าตนเองรู้จักเธอ พวกนั้นจึงหุบปากตกใจจนหน้าเหวอ

“คุณกาลคะเป็นยังไงบ้าง” จีนส์ที่วิ่งตามหลัง รปภ. มาร้องถาม

“รีบพาสองคนนั่นเข้าห้องนั้นไปก่อนครับ เดี๋ยวแขกคนอื่นๆ จะตื่น มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่” เขาบอกเธอ

“โอเคค่ะ พี่ๆ คะ พาสองคนนั้นเข้าห้องก่อนค่ะ เดี๋ยวเราไปสอบสวนกันในนั้น” จีนส์หันไปบอก รปภ.

“ครับ”

พวกเขารับคำแล้ว รปภ. ก็ลาก ทั้งสองเข้าห้องไป

ซ่า.. ตึ๊ด!! เสียงคลื่นวิทยุสื่อสารดังขึ้น

“จีนส์ เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น”

ตึ๊ด!!

“เรียบร้อยแล้วค่ะ เรากำลังจะสอบสวนพวกเขา รบกวนพี่ช่วยเช็กห้องว่างให้ด้วยนะคะ คุณกาลต้องการเปิดห้องพัก 1 ห้องค่ะ”

เธอไม่ลืมบอกเพื่อนร่วมงานเช็กห้องว่างให้ตามคำขอของ

รติกาลก่อนหน้านี้

“ได้เลย รอสักครู่นะ”

ตึ๊ด!!

อีกฝั่งเงียบไปสักพักก็ตอบกลับมา

ซ่าา ตึ๊ด

“ว่างห้อง 524 นะจีนส์ เดี๋ยวพี่ให้คนเอาคีย์การ์ดขึ้นไปให้”

“ขอบคุณค่ะพี่”

เธอตอบและตัดสายไปแล้ว รปภ. คนหนึ่งก็เดินออกมาถามจีนส์

“เอาไงต่อครับคุณจีนส์ เราใส่กุญแจมือ ไว้ในห้องก่อนครับ”

“เดี๋ยวผมจัดการเองครับพี่อั๋น จะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่ เดี๋ยวโรงแรมจะเสียชื่อเสียงเอาครับ” รติกาลแทรกขึ้น

“ครับคุณกาล”

อั๋นตอบแล้วเดินกลับเขาไปในห้อง

“คุณจีนส์ครับ ผมรบกวนอยู่เป็นเพื่อนเธอสักพักนะครับ เดี๋ยวผมสอบสวนเสร็จ ผมจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอเองครับ”

“ได้ค่ะคุณกาล”

จีนส์ตอบตกลง

“คุณจีนส์คะ”

จีนส์หันไปตามเสียงเห็นแม่บ้านกำลังเดินมาทางเธอ

“นี่คีย์การ์ดค่ะ”

“ขอบคุณค่ะน้าวาด”

เธอรับคีย์การ์ดมาแล้วยิ้มให้แม่บ้านด้วยไมตรีจิต แม่บ้านหันไปมองหญิงสาวในอ้อมแขนของรติกาลด้วยสายตาสงสัยและเป็นห่วง

“น้าวาดกลับไปทำงานเถอะค่ะ ทางนี้หนูจัดการต่อเอง”

“ค่ะคุณจีนส์”

จีนส์บอกกับแม่บ้านเมื่อเห็นเธอกำลังมองอยู่ และเธอตอบรับแล้วก็เดินจากไป

จีนส์เดินไปเปิดห้องในขณะที่รติกาลอุ้มหญิงสาวขึ้นแนบอกแล้วเดินตามจีนส์เข้าไปด้านใน เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง โดยไม่รู้ตัวรติกาลยกมือขึ้นไปเกลี่ยปอยผมที่ปิดบังใบหน้าเธอออกอย่างอ่อนโยน จีนส์เฝ้ามองเขาอยู่ด้านข้างเธอเห็นเขาแสดงท่าทางห่วงใยหญิงสาวจนจีนส์เองยังแอบคิดว่าเขาตกหลุมรักเธอแบบรักแรกพบ

“อะแฮ่ม”

จีนส์ส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าเธอดูอยู่จนรติกาลสะดุ้งโหยง

“เอ่อๆ”

เขาเขินจนไปไม่เป็น จีนส์เห็นดังนั้นก็แอบขำเขาคิกคัก รติกาลยืนขึ้นหันหน้าไปทางเธอ เลิกคิ้วกางแขนผายมือออกยกไหล่สูงเชิงถามเธอว่า ‘อะไร’ เธอหุบยิ้มทันทีแต่ก็สะกดอารมณ์ขันนั้นไว้ไม่อยู่เธอพูดไปหัวเราะไปกับท่าทีของรติกาล

“คุณรติกาล ไม่ไปสอบสวนผู้ต้องหาของคุณเหรอคะ”

เธอเรียกชื่อเขากึ่งประชด ทั้งกลั้นขำจนลมพ่นออกจมูกพรืด เธอยกมือปิดปากทั้งเม้มริมฝีปากไว้แทบไม่ทัน

“โอเค ไปก็ได้”

รติกาลพูดเสียงสูงแล้วเดินค้อนออกไปรู้สึกอายที่โดนจีนส์แซว ก่อนออกจากห้อง เขาหันมามองจีนส์แล้วบอกกับเธอว่า

“เดี๋ยวผมมา”

จีนส์เอียงคอเลิกคิ้วเล็กน้อยเชิงรับคำ แล้วเขาก็ทำปากงุ่ยค้อนใส่เธอสะบัดหน้าเดินออกจากห้องไปจีนส์กลั้นขำพ่นลมออกจมูกดังพรืดอีกครั้ง

“อะไรกันเนี่ย ผู้ชายคนนี้ น่ารักจริงๆ เลย”

พูดจบเธอก็หันไปมอง หญิงสาวที่นอนไร้สติด้วยฤทธิ์ยาสลบ

“เธอเป็นใครกันนะช่างโชคดีจริงๆ ตั้งแต่รู้จักเขามาฉันยังไม่เคยเห็นเขาเฝ้ามองผู้หญิงคนไหนด้วยสายตาแบบนี้มาก่อนเลย”

เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินผ่านเตียงไปยังอีกมุมของห้อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel