บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 ญาณินสงสัย

ธิชาทนขัดขืนทุบตีไม่ได้ นอกจากความเจ็บ เธอยิ่งกังวลว่าคอจะถูกเขากัดจนเป็นรอยอันคลุมเครือที่สุดจะทนได้

แต่ทว่าธาวินตั้งใจจะทรมานเธออย่างชัดเจน กัดแทะอย่างกับจะกลืนกินเธอเข้าท้อง จนกระทั่งหญิงสาวใต้ร่างเจ็บจนขอบตาแดงแล้วเขาถึงยอมปล่อย

ธาวินลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า ดูแล้วสะอาดเรียบร้อย ไม่มีอาการตื่นตระหนกแม้แต่น้อย

ธิชากลับอยู่ในสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยสถานะอับอายเจอคนไม่ได้

มุมปากของเขายิ้มอย่างเหยียดหยามอย่างที่สุด ไม่พูดสักคำก็หันตัวเดินออกจากห้อง

......

ญาณินถูกทิ้งไว้ชั้นล่างนานมาก เห็นธาวินเดินลงมาก็เบ้ปากเดินเข้าไปหา “วิน วันนี้คุณยุ่งมากเหรอ นานขนาดนี้ถึงลงมา.......”

ธาวินแตะจมูกเธอด้วยท่าทางรักใคร่

“อืม เมื่อกี้มีธุระต้องจัดการ”

ญาณินแสดงสีหน้าที่แปลกใจ “แต่ว่าเมื่อกี้ฉันเหมือนเห็นคุณออกมาจากห้องธิชา.......”

ธาวินขมวดคิ้วอย่างเห็นไม่ชัด กอดไหล่ของญาณินไว้ พูดอย่างปกติ “อืม ธิชาทำผิดนิดหน่อย ถูกผมสั่งสอนไปไม่กี่คำ ตอนนี้คงกำลังเช็ดน้ำตาอยู่”

สำหรับญาณินแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาสองพี่น้องยังคงอยู่ในภาพสมัยเด็ก ธาวินรักใคร่ธิชามาก น่าจะเป็นเพราะว่าอายุมากกว่าเธอค่อนข้างเยอะ มีความรักอย่างลุ่มหลงเกินกว่าความเป็นพี่น้อง

ญาณินแอบรักธาวินมานานหลายปี ตอนที่มองอยู่ข้างหลังพวกเขาอย่างเงียบๆ จนกระทั่งบางครั้งก็มีความอิจฉาต่อธิชา........

“นิสัยของธิชาอ่อนโยนกว่าฉันอีก อยู่ดีๆคุณไปตำหนิเธอทำไม่?”

ธาวินกอดญาณินนั่งลงบนโซฟา เอื้อมมือป้อนเชอร์รี่ให้เธอกิน

เขาหรี่ตา มุมปากโค้งขึ้นมีความหยอกล้อเล็กน้อย “เธอเหรอ ชอบแกล้งทำเป็นเชื่อฟังเท่านั้น นิสัยที่แท้จริงไม่รู้ว่าดื้อรั้นขนาดไหน ไม่สั่งสอนหน่อยเกรงว่าจะขี่ขึ้นมาถึงหัวผมแล้ว”

ถึงแม้จะเป็นเพียงคำพูดปกติประโยคเดียวเท่านั้น ญาณินกลับฟังจากน้ำเสียงของเขาได้ยินถึงความสนิทสนมที่ไม่ธรรมดาบางอย่าง ทำให้ในใจเธอเกิดความบาดหมางอย่างอ่อนไหว

ไม่นานธิชาก็ลงมาจากห้อง ญาณินดึงเธอไปช่วยตัวเองเลือกชุดราตรีในงานหมั้น

สีหน้าของญาณินดีใจอย่างยากจะปิดปัง “เมื่อก่อนฉันไม่รู้เลย งานหมั้นก็มีเรื่องพิถีพิถันมากมายขนาดนี้ แค่ชุดราตรีก็ต้องเลือกห้าหกชุดแล้ว ยุ่งยากมากเลย”

ธิชาช่วยเธอเลือกไปหลายชุดอย่างตั้งใจ ญาณินกลับชำเลืองมองคอของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ธิชา ทำไมคอของเธอดูเหมือนบาดเจ็บล่ะ?”

เธอยื่นมือไปจับ ธิชารีบหลบ

ธิชาพยายามแสดงอย่างสงบสติ “ถูกยุงกัด คันมาก ก็เลยถูกฉันเกาจนถลอกอย่างไม่ได้ตั้งใจ”

ญาณินจ้องรอยแดงนั้นอยู่นานมาก ธิชาดีกับเธอขนาดนี้ ไม่โกหกเธออะไรโดยไร้เหตุหรอก แต่ญาณินรู้ว่ารอยแตกร้าวในใจของตัวเองยิ่งกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ การคาดเดาที่ไม่ควรมีแต่เดิมก็ยิ่งเต็มมากขึ้นเรื่อย.......

.......

เมื่อวานดนัยกฤตใช้เส้นสายมาสอนในคณะกฎหมายวันนี้ยังคงเป็นข่าวพาดหัวในโรงเรียน ธิชาเพิ่งเข้าห้องเรียนก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ซุบซิบที่เกี่ยวข้องมากมาย

ในใจเธอก็อดตื่นเต้นไม่ได้ คิดว่าทางที่ดีต่อจากนี้ต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้ไกลหน่อย

เข้าไปในเว็บไซต์ของโรงเรียนเช็กตารางเรียนทั้งหมด แน่ใจว่าดนัยกฤตมีสอนแค่อาทิตย์ละสองวันเท่านั้น วันนี้น่าจะไม่มาปรากฏตัวที่โรงเรียน เธอจึงรู้สึกโล่งใจ

วันนี้เป็นวันไปเยี่ยมแม่ หลังเลิกเรียนแล้วธิชาเตรียมตัวนั่งรถไฟใต้ดินไปโรงพยาบาล

เพิ่งเดินถึงหน้าโรงเรียน รถBugatti Veyronสีดำคันหนึ่งก็จอดขวางหน้าเธอไว้ ทำให้เธอตกใจ

กระจกค่อยๆเลื่อนลง เผยใบหน้าอันชัดเจนของผู้ชาย

พอธิชาเห็นสายตาเหมือนเหยี่ยวคู่นั้นของดนัยกฤตแล้วสีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นมา หันหน้ารีบเดินหนี

ผู้ชายในรถน้ำเสียงเคร่งขรึม มีความน่าเกรงขามอย่างไม่ให้ขัดขืน

“คุณธิชา ขึ้นรถ ผมส่งคุณไปโรงพยาบาล”

ธิชาไม่ได้หยุดเดิน แต่กลับเดินเร็วขึ้น

รถชะลอความเร็วจนช้าที่สุด อยู่ข้างกายรักษาความเร็วจนเกือบเท่ากับเธอ

ดนัยกฤตยิ้มอยากหยอกล้อ “ถ้าหากไม่เชื่อฟัง ผมก็จะตามคุณตลอด ถนนหลายเส้นรอบมหาลัยJมีแต่นักศึกษา ให้ทุกคนมาล้อมดูว่าคุณหนูตระกูลธนาภูวนัตถ์ถือตัวสูงส่งขนาดไหน กลับให้ศาสตราจารย์ขับรถตามอยู่ตั้งหลายซอย”

ธิชาขมวดคิ้วเล็กน้อย เปิดประตูรถข้างคนขับขึ้นไปนั่งอย่างโมโห

“คุณดนัยกฤต คุณต้องการทำอะไรกันแน่?”

จุดอ่อนของเธอถูกเขาจับไว้ในกำมือ ทันใดนั้นเหมือนสัตว์ประหลาดตัวเล็กที่ตัวโมโหร้าย

ปกติเธอถ่อมตัวตลอด ไม่อยากสร้างปัญหา ถ้าหากเรื่องที่ดนัยกฤตขับรถตามเธอถูกลือออกไป ไม่รู้ว่าจะมีผู้หญิงที่รักใคร่ชื่นชมต่อเขามากมายแค่ไหนจะมาหาเรื่องเธอ

ผู้ชายยิ้มเฉื่อยๆ “ก็คุณไง”

“........” ธิชาขมวดคิ้วแน่น ถูกการหยอกล้อของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ดนัยกฤตไม่ได้พูดอะไรอีก แค่ขับรถมาถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งนอกเมือง

ใบหน้าธิชาเต็มไปด้วยความสงสัย หลังลงจากรถก็อดถามไม่ได้ “คุณรู้ที่อยู่ของโรงพยาบาลนี้ได้ยังไง?”

เขารู้แม้กระทั่งวันนี้เธอไม่ไปทำงานที่ร้านกาแฟ แต่ไปเยี่ยมคนที่โรงพยาบาล

ผู้ชายยื่นมือไปขยี้ผมของเธอ การกระทำดูสนิทใกล้ชิดเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ

“คำถามเยอะขนาดนี้ ไปถามณิชานาฎโดยตรงดีกว่า”

.......

ภายในห้องผู้ป่วย ณิชานาฎทำเคมีบำบัดของวันนี้เสร็จแล้ว สีหน้าแย่มาก ดูแล้วอ่อนเพลียมาก

แต่คนสวยไม่ได้ดูเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ถึงแม้จะป่วยหนัก เสน่ห์และความสวยงามบนใบหน้ายังคงอยู่เหมือนเดิม

ณิชานาฎเห็นดนัยกฤต สายตาชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้แปลกใจ

น้ำเสียงของเธออ่อนโยน “ดนัย ทำไมวันนี้คุณถึงพาธิชามาพร้อมกัน......”

ธิชาตื่นตะลึง “แม่ แม่รู้จักเขาเหรอ?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel