บทที่ 13 คนเก่าที่ไม่เคยลืม [3]
พริมาเม้มปากพยักหน้าลงพลางหลบเลี่ยงการสบสายตากับเจ้านายหนุ่มในเวลานี้ เธอไม่อยากให้เขาจับได้ว่ากำลังหึงหวงซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น เธอเป็นคู่นอนของเขา ไม่มีสิทธิ์แสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เพราะฉะนั้นต้องเจียมตัวอยู่ในที่ของตน
“ค่ะ สวยมากด้วย”
“พรีมหึง หน้าพรีมกำลังฟ้องว่าหึงผมจนหน้าดำหน้าแดงแล้ว”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยค่ะ พรีมไม่ได้หึงคุณโยเลยสักนิด”
“คนปากแข็ง”
ชายหนุ่มทำหน้าบึ้งคว้าตัวเลขาสาวมากอดแน่น หลังจากหมุนตัวเธอให้หันหลังแล้วสวมกอดร่างอรชรไว้พลางเกยคางบนไหล่บาง สูดกลิ่นหอมเย้ายวนน่าหลงใหลที่โชยมาจากซอกคอขาวเนียน มือซุกซนของเขาแตะต้องทรวงอกอิ่มอย่างอดไม่อยู่ บีบเคล้นนวดคลึงเล่นปลุกปั่นอารมณ์หญิงสาวให้ตื่นเพริดร่ำร้องหาการเติมเต็มจากเขา
พริมาเม้มริมฝีปากแน่นพยายามข่มกลั้นความต้องการของร่างกายไว้ เธอเข้ามาในห้องนี้ก็เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่ามีคนขอเข้าพบ ไม่ใช่มาทำเรื่องอย่างว่ากับเขาสักหน่อย เธอสูดลมหายใจเข้าลึกตัดใจดึงมือหนาของเขาออกจากหน้าอก กว่าจะงัดแงะออกได้ก็ใช้เวลาเกือบห้านาที เพราะมือคุณโยเกาะหนึบเหนียวแน่นราวกับตีนตุ๊กแก เล่นเอาเหนื่อยหอบเกือบเข่าทรุดลงไปกองกับพื้น
“อย่ามือซนนักสิคะ”
“ถ้าผมห้ามได้คงห้ามไปแล้ว แต่กับพรีมมันยากมากรู้ไหม”
โยธินกกกอดร่างนุ่มนิ่มหอมหวานของเลขาสาวไม่ยอมปล่อย ยิ่งได้ใกล้ชิดกันก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงเสน่ห์บางอย่างที่ผู้หญิงคนอื่นไม่มี อยู่ด้วยแล้วเขาสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความคิดฟุ้งซ่านถูกปัดเป่าจนเบาบาง ความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันก็ผ่อนคลายลง
“คุณโยหื่นเองต่างหาก แล้วที่ไม่ห้ามเพราะไม่อยากห้ามมากกว่า”
“รู้ทันผมเข้าไปอีก คนสวยของผมฉลาดที่สุด”
“เลิกแซวพรีมได้แล้วค่ะ” พริมาดันตัวออกจากอ้อมแขนอบอุ่นของชายหนุ่มตรงหน้า ดวงตาเฉี่ยวคมฉายแววจริงจังมองใบหน้าบึ้งตึงของคนโดนขัดใจแล้วก็หลุดขำ
“พรีมใจร้าย ให้ผมกอดนานกว่านี้อีกนิดก็ไม่ได้”
“พรีมไม่ได้ใจร้ายค่ะ แต่นี่มันเวลางานคุณโยควรเลิกอู้สักที”
“แต่ผมหิวอยากกินพรีมอีกแล้ว เนื้อนุ่มๆ กลิ่นหอมๆ ของผมทำผมปวดร้าวไปทั้งตัว ไม่คิดจะรับผิดชอบที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้บ้างเหรอ”
“ไม่ใช่ความผิดของพรีมนี่คะ ทำไมพรีมต้องรับผิดชอบด้วย ตอนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอเข้าพบคุณโยค่ะ เธอชื่อดาราพร คุณโยจะอนุญาตให้เข้าพบไหมคะ”
“ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าอะไรนะ” โยธินถามซ้ำเหมือนได้ยินไม่ถนัด
“ดาราพรค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบซ้ำอีกครั้งสีหน้าของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปทันที ใครจะลืมชื่อของผู้หญิงที่เป็นรักแรกของตัวเองได้ ต่อให้นานแค่ไหนก็ลืมไม่ลง นึกไปว่าชาตินี้จะไม่ได้ยินชื่อนี้อีกแล้ว
พริมาลอบสังเกตอาการของเจ้านายหนุ่มโดยไม่พูดอะไร รอยยิ้มหยอกเย้าอารมณ์ดีเลือนหายไปจนหมด เผลอแสดงสีหน้าเจ็บปวดให้เธอได้เห็นชั่ววูบอย่างไม่ตั้งใจ แต่หลังจากนั้นเขาก็กลบเกลื่อนยิ้มจืดชืดบนใบหน้ามองเธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่าทางผิดปกติของเขาทำให้เธอสังหรณ์ใจว่าผู้หญิงคนนั้นอาจเกี่ยวข้องกับเจ้านายเธอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนหรือว่าแฟนเก่า?
“ไปเรียกเธอให้เข้ามาพบผมได้”
“ค่ะ”
พริมาเดินออกมาจากห้องทำงานก็เห็นผู้หญิงคนเดิมยืนรออยู่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะเธอหายเข้าไปนานกว่าห้านาทีจนนึกว่าจะถูกปฏิเสธถูกไล่ให้กลับไป แต่เมื่อเธอบอกว่าท่านประธานยอมให้เข้าพบได้ สีหน้าของอีกฝ่ายก็ดูดีขึ้นฉีกยิ้มกว้างรีบสาวเท้าเดินผ่านหน้าเธอเข้าไปในทันที
ปัง
เสียงประตูปิดลงพร้อมกับที่หัวใจเธอเจ็บแปลวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เหมือนกับว่าสิ่งที่เธอกลัวที่สุดได้มาถึงแล้ว และอีกไม่นานฝ่ายที่ต้องยอมล่าถอยไปต้องเป็นเธอ
หญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว แล้วเดินกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง เรื่องของอนาคตถึงคิดมากไปตอนนี้จะทำอะไรได้ ถ้าตัวจริงของคุณโยกลับมาแล้ว อย่างเลวร้ายที่สุดก็แค่ต้องลาออกไปหางานทำใหม่ เพราะเธอคงทนเห็นภาพบาดตาบาดใจไม่ไหว ทนเห็นคุณโยไปสนิทชิดเชื้อกับผู้หญิงอื่นไม่ได้
เธอรู้ตัวนานแล้วว่าหลงรักคุณโย เคยแอบคาดหวังว่าวันหนึ่งเขามีความรู้สึกแบบเดียวกันกับเธอ แต่สิ่งที่เห็นในวันนี้กลับทำลายหวังของเธอจนหมด ตราบใดที่ในใจเขายังมีเงาของผู้หญิงคนอื่นอยู่ เธอก็คงไม่มีวันก้าวเข้าไปใกล้กว่านี้ได้
เคยคิดว่าคุณโยไม่มีหัวใจ แต่จริงๆ แล้วเขาก็มีมันเหมือนคนอื่น เพียงแต่หัวใจของเขาไม่ได้มีไว้เพื่อเธอเท่านั้นเอง