4. ใช้ผมเป็นไม้กันหมาได้นะ
‘นี่เขาเป็นบ้าอะไรไปแล้ววะเนี่ย’
แจ็คหงุดหงิดตัวเองที่เอาแต่คิดเรื่องเธอคนนั้นซ้ำไปซ้ำมา ตอนนี้เขากำลังขับรถกลับคอนโดหลังจากไปมหาลัยคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องสถานที่ฝึกงาน เรื่องคืนนั้นผ่านมาหลายวันแล้ว แต่มันกลับมีบางอย่างดึงดูดให้เขากลับไปหวนคิดถึงอยู่เสมอ แจ็คคิดว่าอาจเพราะเรื่องที่เธอคิดว่าเขาเป็นเด็กขายนั่นด้วย เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครมองตัวเองในแง่นั้นมาก่อน อย่างเขานี่นะ นอกจากแม่บังเกิดเกล้าก็ไม่เคยขอเงินผู้หญิงที่ไหนใช้ มีแต่ยื่นของขวัญให้พวกเธอเหล่านั้นเพิ่มนะสิ
วันนั้นเขาต้องยอมรับว่าร่างเล็กๆ ของเธอมีเสน่ห์น่าดึงดูดมาก เธอมีหลายอย่างที่น่าสนใจ ทั้งที่คืนนั้นเธอดูสวยเซ็กซี่ชวนน้ำลายหก หนุ่มๆ แทบทุกคนในงานต่างมองกันจนเหลียวหลังรวมทั้งเขาด้วย เขานึกว่าเธอเป็นคนประเภทเดียวกันกับเขา ตอนนั้นเขาคาดหวังแค่มีความสัมพันธ์ฉาบฉวยคืนเดียวหรือถ้าถูกใจก็อาจหลายคืน แต่เธอเซอร์ไพรส์เขาด้วยเวอร์จิ้น แถมแม่สาวบริสุทธิ์อย่างเธอยังฮึดสู้เรียนรู้แบบหัวไวเต็มที่ การตอบสนองอย่างเต็มใจแต่ก็ไร้เดียงสาปลุกปั่นให้อารมณ์เขาพลุกพล่าน แจ็คประทับใจเธอมากถึงขั้นอยากจะทำความรู้จักกับเธอต่อ เอาใจใส่เธออย่างดี อย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ด้วยการเตรียมชุดไว้ให้ เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ แต่เธอกลับตบหน้าเขาด้วยการถามถึงค่าตัว
แจ็คถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยายามลบภาพผู้หญิงคนนั้นทิ้ง เขาเป็นคนคิดมากแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หนุ่มเสเพลอย่างเขาไม่มีสมองสำหรับการคิดเล็กคิดน้อยเรื่องผู้หญิงหรอก
แต่ขณะกำลังจะเลี้ยวรถเข้าคอนโด ตาคมของเขาก็เหลือบไปเห็นเหตุการณ์วุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นมุมหนึ่งของโรงจอดรถ ผู้ชายนั่นเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ผู้หญิงร่างบางคนนั้นเขาจำได้ดีว่าคือคนที่เขากำลังคิดถึงซ้ำไปซ้ำมาในสมองก่อนหน้านี้
วันนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ในชุดสวยเซ็กซี่เหมือนวันแรกที่เจอกัน แต่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวย้วยกับกางเกงวอร์มขายาว รวบผมหางม้าไว้ด้านหลังแบบลวกๆ ส่วนใบหน้าก็มีแว่นตาหนาเตอะที่เขาเห็นเธอสวมในเช้าวันนั้น
“เชนมาทำไม” เสียงเล็กของเธอถามอย่างไม่พอใจ
“เชนมาเพราะเป็นห่วงขวัญไม่ได้เหรอ ยังไงเราก็เคยสนิทกัน”
“ขวัญโตแล้ว ตัดสินใจเองได้ทุกเรื่อง เชนไม่ต้องมาคอยเป็นห่วง”
“ขวัญ คืนนั้นเชนดูก็รู้ว่าหมอนั่นไม่ธรรมดา ซื่อๆ อย่างขวัญจะไปทันผู้ชายได้ยังไง” อีกฝ่ายเหมือนไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด กลับพูดสิ่งที่ตัวเองคิดไปเรื่อย
ก็จริงของเขา ซื่อๆ อย่างเธอจะไปทันคนได้ยังไง เพราะถ้าทันคน เธอคงไม่เลือกผู้ชายที่เจอคนใหม่ที่ทั้งสวยและรวยกว่าแล้วทิ้งเธอด้วยเหตุผลเพียงเพราะเธอมันน่าเบื่อ
ครองขวัญสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามระงับความโกรธที่พุ่งขึ้นมา เธอกับเขาเลิกรากันมาหลายเดือน เขาควงแฟนใหม่เปิดเผยออกนอกหน้า ทุกคนในที่ทำงานล้วนเห็นกันหมด เขาไม่เคยแม้กระทั่งปรายตามาแลด้วยซ้ำว่าคนอื่นนินทาหรือพูดถึงเธอว่ายังไง แต่พอมีผู้ชายเข้ามาหาเธอ เขากลับมาวอแวทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเชนยังคงทำตัวกับเธอปกติเมื่ออยู่ที่ทำงานคือไม่พูดคุยไม่ทักทาย เหมือนเป็นเพื่อนร่วมงานธรรมดาหนึ่งคนก็เท่านั้น แต่เขากลับมาดักรอเธอที่คอนโดแทบทุกวัน
ก่อนหน้านี้ทำไมเธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยว่าเขาน่ารำคาญขนาดนี้
“เลิกมาดักรอขวัญเสียทีได้ไหม” เธอพูดกับเขาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ นอกจากรำคาญแล้วตอนนี้เธอก็เริ่มกลัวเหมือนกัน ที่เขาทำตัวเหมือนเป็นโรคจิตแบบนี้
“ถึงไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ความเป็นเพื่อนระหว่างเราก็ไม่เหลือเลยเหรอ เชนแค่เป็นห่วงขวัญในฐานะเพื่อน”
ครองขวัญพยายามอย่างมากที่จะไม่กลอกตาใส่เขา ตอนคบกันเป็นแฟน เขาไม่เคยแสดงความห่วงใยเธอมากมาย ไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปกินข้าวเธอล้วนไปกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานได้โดยที่เขาไม่เคยถามเซ้าซี้ แต่พอเลิกกันแล้วมาทำตัวเหมือนห่วงเธอมากมายแบบนี้ มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ
“อย่าทำแบบนี้เลย แฟนเชนจะไม่สบายใจเปล่าๆ” เธอพยายามใช้คำที่ละมุนละม่อมมากที่สุดเกลี้ยกล่อมเขา เพราะถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่สบายใจก็จะมาอาละวาดลงกับเธอ ทีนี้แหละชีวิตสงบสุขในที่ทำงานของเธอก็จะหายไป
“เรากลับไปเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอก” เธอบอกเขาตามตรง
ครองขวัญไม่ใช่นางฟ้าขนาดนั้น เวลาเห็นคนทั้งคู่อยู่ด้วยกันเธอก็ยังรู้สึกโกรธ ยังรู้สึกสะอิดสะเอียนจนแทบจะอาเจียนออกมา เธอเคยคิดเหมือนกันว่าเวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง คงมีสักวันที่เธอเห็นคนทั้งคู่แล้วจะไม่รู้สึกอะไร แต่ไม่ใช่เร็ววันนี้
“ถึงโกรธเชน ก็ไม่ควรประชดด้วยการออกไปกับผู้ชายประเภทนั้น”
“ประเภทไหนครับ” คราวนี้คนแอบฟังอยู่นานรู้สึกทนไม่ไหว จึงปรากฏตัวขึ้น
คนทั้งคู่มองไปยังผู้มาใหม่พร้อมกัน ครองขวัญไม่ได้ตกใจมากนักที่เจอเขา เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาอยู่คอนโดเดียวกัน แต่เชนนั้นตะลึงค้างไปชั่วขณะเมื่อพิจารณาหนุ่มหล่อ ผิวสีแทนที่ปรากฏตัวขึ้นก็จำได้ว่าเขาคือใคร