บทย่อ
เขาคิดว่าสาวสวยเซ็กซี่อย่างเธอเป็นผู้หญิงประเภทวันไนต์สแตนด์ ส่วนเธอคิดว่าหนุ่มหล่อสุดฮอตอย่างเขาคือหนุ่มเชียร์เบียร์เลยเลี้ยงดริ้งเสียเยอะ นึกว่าจบคืนนั้นก็จบกันที่ไหนได้เขากลับตามวอแวเธอไม่เลิก
บทนำ: แรกพบสบตา
“เธอมาเสียเวลาทำบ้าอะไรที่นี่” ครองขวัญคิดพลางกระดกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบอย่างเซ็งๆ วันนี้เป็นวันครบรอบการก่อตั้งบริษัท ออฟฟิศเธอมาฉลองที่ผับแห่งนี้เพราะเจ้าของบริษัทกับเจ้าของผับเป็นเครือข่ายเดียวกัน ถ้าเป็นงานเลี้ยงฉลองธรรมดาแต่งกายยังไงก็ได้เธอคงไม่เซ็ง แต่ใครก็ไม่รู้ดันคิดหัวข้อว่าจะต้องแต่งตัวตามธีมที่ทีมจับฉลากได้ ทีมอื่นก็จับได้ ตลก เนิร์ด สุภาพ แต่งกายกันสนุกสนานแต่รุ่นพี่ในทีมเธอนี่สิดันจับได้ธีมเซ็กซี่
สาวออฟฟิศวัย 30 อย่างเธอห่างไกลกับคำว่าเซ็กซี่มานานมาก ปกติเธอไม่เคยสนใจเรื่องแฟชั่น ชุดที่ใส่เน้นสีสุภาพ สีขาว สีน้ำเงิน สีเทาคุมโทน สีที่ไม่ฉูดฉาด จะได้ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ หน้าตาของเธอก็ห่างกับเครื่องสำอางมานาน สายตาที่สั้นมาก ทำให้ต้องใส่แว่นหนาเตอะ ส่วนผิวเธอก็ขาวจนซีดห่างจากคำว่าผิวขาวอมชมพูของผู้หญิงสมัยนี้ไปไกล ถ้าเป็นการแต่งกายปกติของเธอย่อมห่างไกลจากธีมวันนี้มาก ดังนั้น ‘จันทร์เจ้า’ รุ่นน้องคนสนิทวัย 27 ปี จึงลากเธอไปซื้อชุดใหม่เพื่อมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ
ชุดที่จันทร์เจ้าเลือกให้เป็นมินิเดรสเกาะอกสีดำ รัดร่างบางให้ดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งขึ้นมา แต่มันทำให้ครองขวัญรู้สึกอึดอัดจนขยับตัวลำบาก ริมฝีปากของเธอถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงที่ดูแล้วเหมือนไปกินเลือดคนมา แต่จันทร์เจ้าก็ยืนยันว่ามันเหมาะกับเธอมาก มันขับให้ผิวขาวของเธอดูผ่องขึ้น ครองขวัญไม่มีความรู้เรื่องแฟชั่นถ้าใครว่ายังไงก็ว่าตามแล้วกัน
หญิงสาวหลบมานั่งที่บาร์มุมมืดที่สุดของงาน เธอพยายามเดินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะรองเท้าส้นเข็มสูงสองนิ้วทำให้ปวดเท้าไปหมด ส่วนสาเหตุที่ต้องหลบมานั่งมุมที่มืดที่สุดก็เพราะว่าหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในแผนกที่ปกติก็เห็นหน้าเห็นตากันทุกวัน วันนี้กลับเทียวมาชนแก้วทักทายอย่างกับไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน เธอรำคาญจนต้องหลบมานั่งคนเดียว ครองขวัญคิดว่าถ้าหมดแก้วนี้เธอก็จะแอบกลับแล้ว เธอพอจะดื่มได้บ้างเวลาต้องเข้าสังคม เวลาต้องไปเจอลูกค้าแต่ดื่มมากไปก็ไม่ไหว และตอนนี้ก็ชักจะเริ่มมึนๆ แล้วด้วย
“นั่งคนเดียวไม่เหงาเหรอครับ”
ครองขวัญแอบกลอกตาเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้นเหนือศีรษะ นึกว่าหนีพ้นแล้วก็ยังมีคนตามมาก่อกวน เมื่อหันหลังกลับไปมองกลับพบว่าเขาไม่ใช่หนุ่มๆ ในออฟฟิศ เป็นหนุ่มแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาเป็นชายหนุ่มที่รูปร่างดีมาก ดูออกว่าเจ้าตัวคงดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนเสื้อมาจนถึงข้อศอก กระดุมเม็ดบนปลดออกจนเห็นขนอ่อนบริเวณหน้าอก ส่วนผิวของเขาเป็นสีน้ำผึ้งสวยต่างกับผิวขาวจนซีดของเธอ
หนุ่มแปลกหน้าอ้อมมานั่งลงข้างๆ กันโดยไม่รอให้เธออนุญาต
“งานไม่สนุกเหรอครับ”
ครองขวัญไม่มีอารมณ์อยากคุยกับใครแม้หนุ่มคนนี้จะหล่อยั่วยวนแค่ไหนก็ตาม เธอกำลังจะบอกคนที่นั่งข้างๆ ว่าปล่อยเธอนั่งคนเดียวเถอะ แต่พอมองเลยไปข้างหลังเขากลับพบว่ามีใครบางคนกำลังมองมา ครองขวัญจึงเปลี่ยนใจให้เขานั่งต่อ
ข้อดีของการมีเขานั่งอยู่ตรงนี้คือไม่มีหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ในแผนกมากวนใจเธออีก แต่ข้อเสียคือเขาคุยเก่งมาก สำหรับคนพูดน้อยรักชีวิตสงบอย่างเธอ เขาไม่ใช่คนที่น่าเข้าใกล้เลย พอชวนคุยแล้วเธอไม่ตอบชายหนุ่มก็หันไปคุยกับบาร์เทนเดอร์แทน ครองขวัญเริ่มสังเกตว่าพนักงานและบาร์เทนเดอร์ต่างก็พูดคุยกับหนุ่มคนนี้ด้วยความสนิทสนม
“คุณทำงานที่นี่เหรอ” เธอถามความน่าจะเป็นที่คิดขึ้นได้
หนุ่มหล่อเลิกคิ้วราวกับประหลาดใจนักหนาเมื่อได้ยินคำถามนั้น แต่เขาก็ยังตอบคำถามเธอ
“ก็...จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ”
ครองขวัญพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงรับรู้ รุ่นน้องที่บริษัทบอกว่าเวลามาร้านแบบนี้จะมีเด็กเชียร์ดริ้งด้วย
“ลองมาการิต้าไหมครับ”
นั่นไงเขาเริ่มเชียร์แล้ว พอเธอลองสั่งเมนูที่เขาแนะนำก็พบว่ารสชาติดีมากทีเดียว ได้รสหวานของเหล้าและรสเปรี้ยวของน้ำมะนาว หลังจากนั้นเขาก็แนะนำเมนูอื่นๆ อีกมากมายให้เธอได้จิบลิ้มลอง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
“คุณเก่งจัง” เธอหมายถึงเขาเชียร์ลูกค้าเก่งดูสมกับเป็นมืออาชีพจริงๆ
หนุ่มเชียร์ดริ้งยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างทะเล้น พอถูกชมแบบนี้เขายิ่งกระตือรือร้นในการแนะนำเมนูใหม่ๆ ให้เธอต่อ ครองขวัญเลี้ยงดริ้งเขาเป็นการตอบแทนบ้าง เลี้ยงไปเลี้ยงมาไม่เห็นเขาจะเมากลับเป็นเธอที่เริ่มมึนๆ เสียเอง
“แต่งตัวมาเสียสวยขนาดนี้ นึกยังไงถึงมานั่งมืดๆ คนเดียวครับ” พอเห็นเธอเริ่มผ่อนคลายเขาก็เริ่มกลับมาชวนคุยอีกครั้ง
“นึกเบื่อ” เธอตอบไปตามตรง ไม่ได้เบื่อหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หัวงูเพียงแค่นั้น แต่ยังเบื่อแฟนเก่าที่คอยมองมาไม่ห่างด้วย ทั้งที่แฟนสาวของเขาก็มาร่วมงานนี้ด้วย
เธอคบกับเชนมาหลายปี ครองขวัญวาดฝันมาตลอดว่าเขาคือคนที่เธอจะฝากชีวิตไว้ด้วย เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขากลับขอเลิกกับเธอไปคบกับหลานสาวเจ้าของบริษัทแทน ให้เหตุผลว่าการคบกับเธอมันจืดชืดเกินไปและเขาหมดแพสชันในตัวเธอแล้ว
เป็นเหตุผลของผู้ชายเห็นแก่ตัวก็เท่านั้น ความจริงเขาพูดสั้นๆ ว่าไม่รักเธอแล้วก็จบ
หนุ่มหล่อมองตามสายตาเธอก็รู้ว่าใครคือคนที่ทำให้เธอนึกเบื่อ เพราะฝ่ายนั้นก็มองมาทางนี้ตาเขียวปัดเช่นกัน
“คุณสวยกว่าผู้หญิงคนนั้นนะ”
ครองขวัญหัวเราะเบาๆ กับความปากหวานของเขา เพื่อเอาใจลูกค้านี่เขาคงทำได้ทุกอย่างจริงๆ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นทั้งสวยและสาวกว่าเธอมาก เขายังเอ่ยปากชมเธอได้อย่างหน้าไม่อาย แต่เขาก็ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมากทีเดียว อารมณ์ดีพอที่จะเลี้ยงดริ้งเขาอีกหลายแก้วโดยไม่เสียดายเงิน
“คุณไม่ดื่มแล้วเหรอครับ” เสียงทุ้มถามขึ้นเพราะเธอเอาแต่สั่งให้เขาฝ่ายเดียว แก้วในมือเธอไม่พร่องลงเลย
“ฉันชักจะเมาแล้วละ”
“ไม่จริงหรอก ไม่มีคนเมาที่ไหนพูดว่าตัวเองเมา”
เขาเชื้อเชิญให้เธอดื่มมากขึ้นด้วยการยื่นแก้วในมือเขาให้ ครองขวัญนึกว่านี่คงเป็นการบริการลูกค้าอีกแบบหนึ่งริมฝีปากอิ่มจึงก้มลงจดริมฝีปากไปที่แก้วที่เขาถืออยู่ รสชาติดีจนต้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากไปอีก ไม่รู้เลยว่าการกระทำแบบนี้มันยั่วยวนเขาแค่ไหน
“ดื่มมากไปแล้วนะขวัญ” เชนเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พยายามฉุดแขนให้เธอลุกขึ้น ตาคมภายใต้แว่นสายตาสีเงินตวัดมองคนเอาเหล้าให้เธอดื่มอย่างไม่พอใจ หนุ่มที่ถูกมองก็จ้องกลับด้วยท่าทางกวนประสาท
“ปล่อย” เธอสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเชน แต่เพราะดื่มไปมาก พอขยับตัวทีก็ทำให้พื้นเอนเอียงไปหมดจนแทบทรงตัวไม่อยู่
“เธอบอกให้คุณปล่อย” หนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวช่วยพยุงเธอไว้เมื่อเห็นเธอถูกดึงจนแทบจะล้มไปกองกับพื้น
“นายนั่นแหละปล่อย” เชนบอกเขาอย่างหงุดหงิด
“ปล่อยเธอเถอะ ผู้หญิงของคุณกำลังเดินมา” เขาพูดทั้งทำปากบุ้ยใบ้ไปข้างหลังให้สัญญาณ
เชนเห็นนิรินแฟนสาวกำลังเดินมาทางนี้เขาจึงยอมปล่อยมือเธอ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายหึงหวงจนไปทำร้ายอีกคนเข้า
“พาฉันออกไปจากตรงนี้ที” ครองขวัญกระซิบข้างหูคนที่กำลังประคองเธออยู่ ไม่อยากเผชิญหน้ากับความหึงหวงของผู้หญิงคนนั้น
“ด้วยความเต็มใจครับ” หนุ่มแปลกหน้าประคองเธอไว้อย่างสุภาพเพื่อพาเธอออกจากผับ แต่เพราะดื่มไปเยอะจนเวียนหัวมาก ครองขวัญจึงโอบแขนเรียวไปรอบเอวสอบของเขาเพื่อพยุงตัว เอวสอบที่ประกอบด้วยมัดกล้ามเนื้อแข็งแรงไร้ไขมันส่วนเกินของเขาเกร็งตัวขึ้น ครองขวัญนึกขึ้นได้ว่าเขาอาจไม่ชอบให้เธอสัมผัส แบบว่าเด็กนั่งดริ้งก็ไม่ได้แปลว่าขายนี่นะ ขณะเจ้าตัวกำลังจะปล่อยมือออก เขากลับเป็นฝ่ายกระชับเอวคอดของเธอเข้ามาแนบชิดเอง
“โอบผมได้ครับเดี๋ยวล้ม” เขาบอกเธออย่างใจดี ทั้งยังก้มหน้าลงยิ้มให้เธอจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มทั้งสองข้าง
“คุณน่ารักจัง”
“อืม ใครๆ ก็บอกแบบนี้ แต่สาวๆ ก็ชอบหักอกผมเป็นประจำ”
“ขอกุญแจรถด้วยครับเดี๋ยวผมขับรถให้” อาจเพราะเธอเมามากจนถูกหลอกล่อด้วยรอยยิ้มน่ารักของเขา ครองขวัญยอมส่งกุญแจรถให้หนุ่มแปลกหน้าอย่างว่าง่าย
“ไปไหนต่อดีครับ” คนหล่อขึ้นมานั่งบนรถแล้วหันมาถามเธอ ทั้งยังเกลี่ยผมที่หล่นมาปรกหน้าคนเมาให้อย่างเอาใจใส่
“ไปโรงแรมได้หรือเปล่า” ไม่รู้ผีตัวไหนผลักให้เธอพูดออกไปแบบนั้น
“ไปคอนโดผมแล้วกัน” หนุ่มหล่อเสนอ ครองขวัญนึกดีใจที่เขาดูแพรวพราวดูทันคนไม่พูดอะไรให้เธอลำบากใจ แบบไม่ไก่อ่อนขนาดจะถามว่าไปทำอะไรกันที่โรงแรม