วันที่รอคอย Ep.4
4 ปีผ่านไป
"จบแล้ว! เย้!!" เสียงแหลมของสี่สาวในชุดครุยดังขึ้นประสานกัน ก่อนที่พวกเธอจะโยนหมวกขึ้นฟ้าพร้อมกันโดยมีมือกล้องอย่างปืนเป็นคนถ่ายภาพเก็บความทรงจำดีๆไว้ให้
"ยินดีด้วยนะสาวๆ" วินถือช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี นอกจากนี้ยังมีราม พิงค์ เฟิร์สและแอมอรมาแสดงความยินดีด้วย และแน่นอนว่าเจ้าตัวเล็กสองคนก็มาด้วยเช่นกัน
"แพรรุ้งไทเกอร์ มาถ่ายรูปกับป้ามา" พิชชาขวักมือเรียกเด็กน้อยทั้งสอง
ไทเกอร์ในชุดสูทสีน้ำเงินและแพรรุ้งในชุดเจ้าหญิงสีชมพูหวานแหววเดินเข้าไปหาพิชชาที่ขวักมือเรียก โดยที่เด็กน้อยทั้งคู่ได้จับมือกันเดินไป ไทเกอร์เป็นเด็กนิ่งขรึม ขี้อาย ไม่ค่อยพูด ผิดกับแพรรุ้งที่ร่าเริงตลอดเวลา ถึงแม้ทั้งคู่จะยังสี่ขวบแต่ความเฉลียวฉลาดของพวกเขาก็มีมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน โดยเฉพาะไทเกอร์
"นี่พวกเธอ อยู่นี่กันนี่เองฉันตามหาตั้งนาน" ลูกพีช เพื่อนในห้องที่เรียนบัญชีด้วยกันเดินเข้ามาควงแขนของขวัญแล้วฉีกยิ้มอย่างสดใส แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นมันมีอะไรซ่อนอยู่
"แล้วเธอไปอยู่ไหนมาล่ะ มาๆถ่ายรูปด้วยกัน" ของขวัญยิ้มตอบ ลูกพีชเทียวไปเทียวมากับกลุ่มพวกเธอ จะนับว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันก็ได้ แต่ถ้าถามถึงความสนิทสนมจนคุยเรื่องส่วนตัวกันได้ทุกเรื่องลูกพีชไม่จัดให้อยู่ในความสัมพันธ์นี้ อาจเป็นเพราะลูกพีชไปๆมาๆไม่ได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มพวกเธอตลอด
"เห้อออ...ในที่สุดก็จบสักที"
"จบแล้วจะแต่งเลยไหมเนี่ย" ของขวัญแซวเพื่อนรักอย่างพิชชา ตอนนี้ทั้งคู่กำลังเดินควงแขนกันโดยมีแฟนหนุ่มของพิชชาเดินนำหน้า ส่วนคนอื่นๆแยกย้ายกันไปเลี้ยงฉลองกับครอบครัวหรือแฟนกันหมดแล้ว
"ใจเย็นๆสิ" พิชชาก้มหน้ากระซิบแล้วหยิกแขนเพื่อนรักที่ทำเธอหน้าแดง
"คิกๆๆ" ของขวัญขำเบาๆพลางมองชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้า ถ้าได้แฟนขี้หวงขี้หึงแบบพิชชาบ้างก็คงจะดี คอยซัพพอร์ตทุกอย่างตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ เวลาเห็นคู่นี้ทีไรอดอิจฉาไม่ได้เลยจริงๆ
"เรามีของขวัญวันเรียนจบให้ขวัญด้วยนะ" พิชชากระเส่าบอก
"อะไรอ่ะ?" ของขวัญเอียงหูเข้าไปใกล้
"พี่ไบร์ทจะกลับมาอาทิตย์หน้า"
"ห๊ะ!!" ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงเมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มที่ทนเฝ้าคิดถึงกำลังจะกลับมา หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักจนมันจะหลุดออกมาจากอก เธอเฝ้ารอประโยคนี้จากพิชชามานาน ไม่คิดว่าจะได้ยินมันจริงๆ
ปืนหยุดเดินทันทีที่ได้ยินเสียงแหลมดังขึ้นอย่างกับมีเรื่องราวอะไรใหญ่โต ก่อนจะหันไปเลิกคิ้วใส่สองสาว
"พี่ไบร์ทโทรมาบอกพี่ปืนเมื่อคืน แล้วก็มีข่าวดีอีกเรื่องนึง"
"อะไรๆๆๆ!!" ของขวัญรีบถามกลับรัวๆอย่างตื่นเต้น
"เหมือนว่าโรงแรมเอ็นชาจะเปิดรับผู้ช่วยเลขาสองตำแหน่ง แกไปสมัครไว้สิเผื่อจะได้ ถ้าแกได้งานนี้เท่ากับแกจะได้เห็นหน้าพี่ไบร์ทวันละหลายๆรอบเลยนะ"
"จริงเหรอแก!"
"จริง แต่รีบหน่อยนะ ตำแหน่งนี้คนสมัครเพียบ" เสียงปืนสมทบขึ้น
"พี่ปืนคะ บอกบุญหน่อยเถอะค่ะสมัครได้ที่ไหน!" ของขวัญรบเร้าอย่างอ้อนวอน ใบหน้าสวยหันมองเพื่อนรักสลับกับชายหนุ่มไปมาไม่หยุด ราวกับต้องการจะสื่อว่าใครก็ได้ช่วยบอกที
"หึ..." ปืนยกยิ้มมุมปาก "เดี๋ยวให้พิชชาส่งรายละเอียดไปให้คืนนี้"
"ขอบคุณค่ะๆ!" หญิงสาวรีบหันไปฉีกยิ้มแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้งกับเพื่อนรัก ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง
ตกดึก
ร่างบางในชุดนอนกางเกงแขนขายาวกำลังนั่งพิงหัวเตียงเพ่งสายตาจดจ่อไปที่หน้าจอมือถืออยู่ภายในคอนโดที่เป็นทรัพย์สินของน้าสาว ปลายนิ้วชี้เรียวยาวจิ้มหน้าจอรูดลงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไร้วี่แววของข้อความใหม่ที่เธอกำลังรอให้มันเด้ง
ตริ๊ง!
"มาแล้ว!" และในที่สุดแชทของเพื่อนรักก็เด้งขึ้น ของขวัญไม่รอช้ารีบเปิดเข้าไปอ่านรายละเอียดทันที เมื่ออ่านดูแล้ว เงื่อนไขในการรับสมัครมันดูขัดๆกับเธอไปสักหน่อย แต่รวมๆแล้วก็ถือว่าผ่านเกณฑ์
Rrrrr
เสียงริงโทนมือถือดังขึ้น ของขวัญไม่รอช้ารีบกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนรักที่คอยส่งข่าวสารของผู้ชายในดวงใจให้เธอตลอด
"ว่าไงแก" เสียงหวานอารมณ์ดีเอ่ยทักทายปลายสาย
(แก! พี่ปืนขอเราแต่งงานแล่วอ่ะ เมื่อกี๊นี้เลย ใจเต้นมากอ่ะขวัญ โอ๊ยยย...) เสียงตื่นเต้นปนดีใจสุดขีดของคนในสายดังขึ้นจนของขวัญต้องรีบดึงมือถือออกห่างเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นก็ไม่พลาดที่จะได้ยินอะไรดีๆที่พิชชาเล่ามา
"โอ๊ยยจริงดิแก เราว่าแล้วเชียว พี่ปืนน่ะจ้องให้แกเรียนจบตั้งนานละ ดูก็รู้ว่าอยากแต่งกับแกใจจะขาด"
(จริงๆเราก็รู้อยู่แล้วเพราะเคยคุยกันตั้งแต่เราพึ่งเข้ามหาลัย แต่พอได้ยินเขาขอเราแต่งงานจริงๆจังๆมันก็อดตื่นเต้นไม่ได้อ่ะขวัญ)
"ดีใจด้วยจริงๆ วันไหนเมื่อไหร่ก็แจ้งให้ทราบด้วยละกันนะคะว่าที่เจ้าสาวป้ายแดง...." ของขวัญเมาท์อยู่กับพิชชาเกือบชั่วโมง ก่อนจะประชุมสายหามินนี่กับสาลี่ จากนั้นทั้งสี่คนก็เมาท์มอยกันจนเกือบครึ่งคืน
หลายวันต่อมา...
สนามบิน
14:00 น.
"ผมถึงแล้วนะครับ....ได้เดี๋ยวผมเดินไป" เสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยบอกปลายสาย ก่อนจะยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงเมื่อคุยเสร็จ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงสแล็คห้าส่วนสีเทากำลังเดินเข็นรถขนสัมภาระไปที่ประตูผู้โดยสารขาออก ซึ่งคนในปลายสายที่ชายหนุ่มสนทนาด้วยเมื่อกี๊กำลังรออยู่ที่นั่น ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นตาดำกวาดมองผู้คนที่กำลังเดินสวนกันไปมาอย่างเร่งรีบ ไม่นานเขาก็เดินโผล่ออกมาจากประตู ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มคุ้นหน้าวัยสี่สิบปีที่หน้าตายังหล่อเหลาราวกับอายุสามสิบต้นๆวิ่งมาแย่งรถเข็นแล้วดันมันไปที่ท้ายรถสปอร์ตคันหรู
"ขอโทษที่ไม่ได้ไปรับนะครับคุณนิพพิชณน์ พอดีรถติดมาก โชคดีที่พอคุณโทรมาผมก็ถึงพอดี" แดน เลขาประจำตัวของท่านประธานใหญ่แห่งเอ็นชาแต่ถูกส่งตัวมาให้ดูแลรองประธานเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเล็กน้อย ขณะที่ขนกระเป๋าสัมภาระขึ้นท้ายรถ
"ไม่เป็นไรครับ อ่อ เรียกผมว่าไบร์ทก็ได้ครับคุณแดน"
"อ่อ งั้นขออนุญาตนะครับคุณไบร์ท เราไปกันเถอะครับ" แดนปิดประตูท้ายรถแล้วรีบไปเปิดประตูให้ว่าที่รองประธานคนใหม่ขึ้น ก่อนที่ตัวเขาเองจะวิ่งอ้อมมาขึ้นฝั่งคนขับ
ระหว่างทาง...
มือหนาดึงแว่นกันแดดออกจากใบหน้าแล้วทอดสายตามองตึกรามบ้านช่องที่ดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นบางๆอย่างตื้นตันใจเมื่อเห็นบรรยากาศที่คุ้นเคย ก้าวแรกที่ลงมาจากเครื่อง หน้าเพื่อนๆในกลุ่มก็ลอยมาให้เห็นเป็นอย่างแรก อยู่ที่นู่นเขายุ่งมากจึงได้คุยกับเพื่อนๆตกเดือนละครั้งได้ สี่ปีที่เรียนรู้งานทำเอาเขาแทบจะกลายเป็นคนยิ้มไม่เป็นเพราะใช้เวลาอยู่กับงานซะเป็นส่วนใหญ่ เขาเหมือนได้กลับมาเป็นอิสระอีกครั้งเมื่อย่ำเท้าลงบนผืนแผ่นดินบ้านเกิด รู้สึกสบายอกสบายใจเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ผ่านมา จนอดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองเบาๆแล้วยกยิ้มบางๆ
"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน"