ปล่อยผ่านไป Ep.2
หลังจากพิธีมงคลสมรสเสร็จสิ้น ทุกคนในกลุ่มก็ได้มารวมตัวกันที่มุมเครื่องดื่ม ตอนนี้แขกในงานพากันกลับจนแทบไม่เหลือคนนอกแล้ว นับว่าพิธีเป็นอันเสร็จสมอย่างราบรื่น
"คุณแอมนี่...อยู่เฉยๆก็สวยอยู่แล้ว พอมาใส่ชุดเจ้าสาวแบบนี้ยิ่งเป็นนางฟ้าไปเลย" วินล้วงกระเป๋าอีกมือเหวี่ยงแก้วไวน์เบาๆเอ่ยชมภรรยาหมาดๆของเพื่อนรักอย่างเฟิร์ส
"ชมอย่างเดียว สายตาไม่ต้องเจ้าชู้สัสวิน!" เฟิร์สรีบกอดคอว่าที่ภรรยาพลางดุเพื่อนที่ชอบยั่วยวนกวนประสาทเขา
"แล้วนี่ลูกกับเมียมึงล่ะไอราม?" ปืนเอ่ยถามเมื่อเห็นข้างกายเพื่อนว่างเปล่าไร้ภรรยาคนสวยที่ควรจะอุ้มลูกน้อยยืนข้างๆ ไม่เหมือนเขาที่มีแฟนสาวตัวน้อยอย่างพิชชาอยู่ด้วยตลอดเวลาแถมมีเจ้าตัวเล็กลูกชายของบ่าวสาวอุ้มอยู่ในอ้อมอก
"แพรรุ้งงอแงว่ะ ต้องอุ้มเดินตลอดเวลา กูก็ปลีกตัวแวะมาคุยกับพวกมึงแค่แป๊บเดียวแหละ เดี๋ยวจะไปดูพิงค์แล้ว"
"อืม ก่อนมึงจะไป กูมีเรื่องจะบอกพวกมึงนิดหน่อย" ไบร์ทเอ่ยขึ้นท่าทางจริงจัง ทำเอาทุกคนต้องหยุดฟังแล้วหันมามองหน้าเขาพร้อมๆกัน
ฝั่งของขวัญ ตอนนี้เธอกำลังเฝ้ามองชายหนุ่มในดวงใจตาเป็นประกาย ไม่ว่าเขาจะอยู่ในอากัปกิริยาท่าไหนก็ช่างหล่อราวกับเทพบุตร และแน่นอนว่าคนในกลุ่มไม่มีใครสังเกตเห็นหญิงสาวที่กำลังยืนยิ้มหลงใหลใคร่รักคนนี้ เพราะถึงแม้แขกในงานจะทยอยกันกลับ แต่ก็มีบางส่วนที่ยังอยู่เดินแวะไปเวียนมาที่มุมเครื่องดื่มอยู่บ่อยๆ และของขวัญเองก็ยืนหลบหลังพิชชาด้วยจึงไม่มีใครสนใจ
"กูต้องไปฝึกงานที่เมกาเร็วๆนี้ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคืออีกสองสามวันกูจะบินแล้ว" เสียงของไบร์ทหยุดการกระทำของทุกๆคน แม้กระทั่งเสียงหัวเราะของวินก็ยังหยุดชะงักไป สายตาทุกคู่จ้องมาที่เจ้าของคำพูดดวงตาคมสีดำสนิท และคนที่เหมือนจะช็อกมากกว่าคนอื่นก็คือของขวัญ เพราะตอนนี้หญิงสาวกำลังยืนขาแข็งแต่มือดันอ่อนแรงเผลอปล่อยแก้วไวน์ตกแตกซะงั้น
เพล้ง!
เสียงแก้วไวน์เรียกความสนใจจากทุกคนให้หันมามองพร้อมๆกันโดยอัตโนมัติ ของขวัญได้สติทันทีที่ได้ยินเสียงแก้วแตก ร่างบางทรุดลงไปนั่งยองๆหวังจะเก็บทำความสะอาด แต่เพราะความตกใจจึงลืมไปว่านี่มันเศษแก้วที่ไม่สามารถใช้มือเปล่ารวบเก็บได้
"ขวัญเก็บไม่ได้นะ!"
หมับ!
เสียงของพิชชาดังขึ้นพร้อมๆกับมือหนาของใครอีกคนคว้าเข้าที่ข้อมือของขวัญไว้ จึงหยุดมือบางที่กำลังจะสัมผัสกับเศษแก้วไว้ได้ทัน
"ระวังหน่อยครับ นี่เศษแก้วไม่ใช่ใบไม้" เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับจ้องดวงตากลมโตด้วยสีหน้าราบเรียบไร้ความเป็นห่วงใดๆ ราวกับว่าเขาเพียงแค่ไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายๆในงานมงคลสมรสของเพื่อนก็เท่านั้น
"ขะ..ค่ะ!" เสียงหวานสั่นเครือก่อนจะก้มหน้าซ่อนดวงตาสั่นระริกคู่นั้น ของขวัญยืนขึ้นทำตัวไม่ถูกเพราะตอนนี้ทุกคนเริ่มจะเห็นเธอมีตัวตนขึ้นมา พิชชารู้งานจึงรีบเอ่ยแนะนำเพื่อนรักให้พี่ๆในกลุ่มได้รู้จัก
"เอ่อ...ของขวัญเป็นเพื่อนพิชชาเองค่ะ พิชชาเป็นคนพามางานแต่งพี่เฟิร์ส เอ่อแล้วก็...นี่คือพี่เฟิร์ส และนั่นก็คือ....บลาๆๆ" พิชชาเอ่ยแนะนำพี่ๆในกลุ่มให้ของขวัญได้รู้จักบ้าง ถึงแม้ของขวัญจะยิ้มกว้างทักทายทุกคนที่เธอแนะนำ แต่ดวงตาคู่สวยคู่นั้นก็มิอาจจะซ่อนความเศร้าเอาไว้ได้ เพราะเธอมองออก
"แนะนำซะช้าเชียวนะพิชชา" เสียงวินแซวขึ้น ไม่พลาดที่จะสาดสายตาเจ้าชู้มองของขวัญเหมือนเคย
"โทษทีค่ะพี่วิน"
"เออ! ต่อเลย มึงบอกว่าพูดง่ายๆเหรอ อีกสองสามวันจะบินเนี่ยนะ! มึงไม่บอกตอนลงจากเครื่องที่เมกาซะเลยล่ะ" วินเข้าเรื่องต่อเพราะตกใจกับเรื่องนี้มาก
"พ่อมึงจะลงจากตำแหน่งแล้วเหรอ?" ปืนถาม
ของขวัญยืนนิ่งตั้งใจฟังคนในกลุ่มพูด ความรู้สึกตอนนี้มันดำดิ่งย้อนกลับไปเหมือนตอนหกขวบอีกครั้ง โชคชะตาคล้ายกลั่นแกล้งกันให้เจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็มีเรื่องดีอยู่อย่าง ครั้งนี้ที่เขาจะจากไปเธอได้ยืนฟังเหตุผลจากปากของเขาด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปฟังจากปากคนอื่นเหมือนตอนนั้น
"เปล่า ท่านจะดูแลแค่สาขาในต่างประเทศอย่างเดียว ให้กูดูในไทยทั้งหมด กูจะกลับมาบริหารในฐานะรองประธาน ประจำอยู่ที่โรงแรมสาขาใหญ่ในกรุงเทพนี่แหละ"
"เห้ออ ก่อนไปต้องจัดเหล้าให้มึงหนักๆ" วินกอดอกถอนหายใจ
"หาเรื่องแดกเหล้าอีกแล้วสิ" ปืนส่ายหน้าละอาให้เพื่อน
ฝั่งพิชชา เมื่อหันไปเห็นเพื่อนรักยืนทำหน้าเศร้า เธอจึงหวังดีอยากจะประกาศให้ไบร์ทได้รับรู้ว่าของขวัญเป็นใคร แต่เมื่อกำลังจะอ้าปากส่งเสียงออกมาก็ถูกของขวัญคว้าหมับเข้าที่มือเพื่อห้ามเธอไว้ซะก่อน
ใบหน้าสวยแอบส่ายหน้ารัวๆให้เพื่อนรักอย่างพิชชาเพื่อปรามเธอไว้ไม่ให้พูดในสิ่งที่กำลังคิด ของขวัญกุมมือเพื่อนไว้แน่นพลางก้มหน้า อุตส่าห์หาชายหนุ่มจนเจอแต่เขากลับจะจากไปอีกรอบ แต่แล้วยังไง ถึงจะเศร้ามากแค่ไหนเธอก็ไม่อาจห้ามเขาไม่ให้ไปได้ ตัวตนของเธอเขายังจำไม่ได้เลยแล้วจะเอาอะไรไปอ้าง คงทำได้แค่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป ถ้าฟ้าลิขิตให้เธอและเขาคู่กันจริงๆสักวันเราทั้งคู่ต้องได้กลับมาพบกันอีกเป็นแน่ และต้องได้เจอกันแน่ๆเพราะเธอจะไม่หยุดตามหาเขา
เสียงรองเท้าหุ้มส้นรัดข้อส้นเตารีดสีครีมดังขึ้นเป็นจังหวะช้าๆอย่างไร้ชีวิตชีวาตามเจ้าของรองเท้า ตอนนี้ของขวัญกำลังเดินอยู่ข้างถนน หญิงสาวทนความเย็นชาเมินเฉยของชายหนุ่มในดวงใจไม่ไหวจึงขอพิชชากลับมาก่อน จิตใจที่บอบช้ำมันหมองหม่นจนไม่มีอารมณ์แม้กระทั่งจะโบกแท็กซี่นั่งกลับบ้าน ร่างกายห่อเหี่ยวเดินเอื่อยเฉื่อยไปตามทางอย่างเหม่อลอย ก่อนจะหยุดเดินแล้วย่ำเท้ารัวๆคล้ายคนเจ็บใจราวกับคนบ้า
ตึกๆๆๆๆ!!
"โอ๊ยย...ฮือๆๆ...ยัยขวัญยัยบ้า! ทำไมไม่ลองบอกความจริงกับพี่ไบร์ทไปว่าแกคือน้องสาวข้างบ้านที่เขาเคยรักมากๆ อะไรนะ! ไปเมกาสี่ปีงั้นเหรอ? ถ้าเขาแต่งงานกับสาวที่นู่นล่ะ? หรือว่าควงแฟนกลับมาด้วยจะทำไง โอ๊ยยย!!!" มือบางถูหัวตัวเองเบาๆเพราะกลัวผมที่มัดเกล้าขึ้นไปจะยุ่ง แต่เธอใส่ความรู้สึกลงไปที่มือจนเต็มเปี่ยม ยืนกระฟัดกระเฟียดจนรถที่ขับผ่านไปมาต้องพากันมอง โชคดีที่ไม่มีป้ายรถเมล์อยู่แถวนี้ ไม่งั้นคงถูกคนที่มารอรถมองว่าเธอเป็นคนบ้าแน่ๆ