บทที่ 8 ไม่เชื่อ
“ตอนแรกรัตน์ก็ไม่เชื่อเหมือนพี่ภาแต่ฟ้ายืนยันกับรัตน์ว่าหายแน่รัตน์เชื่อยัยฟ้าค่ะพี่ก็ต้องเชื่อถ้าอยากให้ตาวรรธหาย เราต้องพาตาวรรธมารักษาที่นี่นะคะ”
เมื่อไม่มีทางอื่นที่ดีไปกว่านี้ประภาจึงยอมรับฟังและยินดีให้ลูกชายมารักษาตัวตามวิธีของคนโบราณแต่วรรธนัยไม่ยอมรับฟังเช่นมารดารับฟัง
“พ่อกับแม่แล้วก็อาแกไปดูวิธีการรักษาของเขามาแล้วนะลูก คนที่ขาหักเขาเดินได้ตาปกติ พ่อก็เลยจะพาวรรธไปรักษา”
“ผมไม่ไป ผมไม่เชื่อทั้งนั้น คุณพ่ออย่ามายุ่งกับผมเลยครับปล่อยผมอยู่ยังงี้แหละถ้าคุณพ่อไม่อยากเห็นลูกชายเป็นง่อยก็พาผมไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ ผมพร้อมครับ”
“ตาวรรธทำไมพูดยังงั้นล่ะลูก พ่อกับแม่รักลูกนะ เชื่อพ่อเถอะลูกไปรักษากับหมอส่งนะ”
“ไม่ครับ ยังไงผมก็ไม่ไปถ้าคุณพ่อคุณแม่บังคับผม ผมจะไปจากที่นี่แล้วจะไม่กลับมาอีกเลย”
ชายหนุ่มเสียงดังใบหน้าเครียดเข้ม เขากำลังโกรธแต่ไม่ใช่โกรธบิดามารดา เขาโกรธตัวเองที่เป็นเช่นนี้ เกลียดตัวเองที่ต้องพิการจนคนรักตัดเยื่อใย ความแค้นในตัวหญิงสาวคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา สุธาสินีทำให้เขาเจ็บปวดอย่างที่สุด ความเจ็บปวดครั้งนี้ไม่มีใครลบให้มันจางหายไปได้นอกจากตัวของเขาเอง เขาจะพยายามลืมผู้หญิงหลายใจรักเพียงเงินของเขาและต่อไปนี้เขาจะไม่เชื่อใจผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว
“ตาวรรธ ใจเย็นๆ นะลูก อากับพ่อแม่หวังดีกับวรรธนะลูก” ยุพารัตน์ช่วยพูดอีกคน
“ไม่ครับ คุณอาอย่าพูดอีกเลยยังไงผมก็ไม่ไป ผมจะนอนครับเชิญทุกคนออกไปด้วยครับ”
วรรธนัยทิ้งตัวลงบนหมอนดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงอกหลับตานิ่ง วรทัตเหลียวมองภรรยาแล้วถอนใจยาว ยุพารัตน์มองหลานชายพร้อมกับส่ายศีรษะช้าๆ
“พี่คะให้ตาวรรธพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ” สาวใหญ่เดินออกจากห้องหลานชายเป็นคนแรก วรทัตตามออกไปประภายืนมองลูกครู่หนึ่งจึงก้าวตามสามี วรรธนัยไม่ยอมรับอะไรในตอนนี้ขอเวลาให้เขาอีกนิดก็ดีเหมือนกัน
ทุกคนกลับออกไปแล้ววรรธนัยจึงลืมตาขึ้นมองเพดานห้อง ชีวิตของเขาไม่เหลือความฝันอะไรอีกแล้ว เมื่อเขาพิการเขาจะทำอะไรได้ออกนอกบ้านก็มีแต่คนมองด้วยสายตาสมเพชและรังเกียจ เขายังจะกล้าออกไปเสนอหน้าให้คนดูถูกหัวเราะเยาะหยันเขาอีกหรือ เขาจะไม่ไปไหนเขาจะอยู่ในบ้านจะไม่พบใครทั้งนั้นแม้แต่เพื่อนที่เขารู้จักสนิทสนมด้วย เขากลัวคำถามและสายตาเหยียดหยันของเพื่อนเหล่านั้น เขาคงทนไม่ได้เพียงแค่คิดเขาก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว
“โอ๊ย ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ ไอ้บ้า ไอ้บ้า”
ชายหนุ่มร้องตะโกนด้วยความคลั่งแค้น หยาดน้ำตาเอ่อล้นขอบตาหยดออกทางหางตาไหลลงสู่หมอนนุ่ม เขาตกอยู่ในห้วงของความโศกเศร้าเสียใจมานานนับเดือนแล้ว เขาจะต้องทนอยู่กับมันอีกนานเท่าไรกัน เขาตั้งคำถามอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่ากระทั่งหลับไป
ความหวังของวรทัตริบหรี่ลงทุกขณะเมื่อวรรธนัยไม่คิดสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ประภาร่ำไห้ทุกครั้งที่ลูกชายโวยวายใส่หล่อน ยุพารัตน์นั้นเลิกหวังจะเปิดบริษัทสีรุ้งสมุนไพรไทย ทุกคนคิดเพียงอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้วรรธนัยยอมรักษาตัวเองให้ดีขึ้นแค่นั้น
“พี่ทัต ถ้าตาวรรธเป็นยังงี้บริษัทของเราก็เปิดไม่ได้ถ้าจะเปิดพี่ทัตต้องขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานบริหารเอง”
“พี่ตั้งใจทำให้ตาวรรธ พี่จะไม่นั่งเก้าอี้แทนลูกหรอกรัตน์ ยังไงตาวรรธต้องหาย”
วรทัตเดินหนีน้องสาว เขาไม่อยากพูดเรื่องบริษัทอีกถ้าวรรธนัยไม่ยอมรักษาตัว เขาสร้างบริษัทสีรุ้งขึ้นมาเพื่อวรรธนัยโดยเฉพาะเมื่อเจ้าของไม่ยินดีรับเขาก็จะยังไม่เปิดสีรุ้งเป็นทางการ
“พี่ภา เราหมดทางช่วยตาวรรธแล้วเหรอพี่” ยุพารัตน์เอ่ยออกมาแล้วถอนใจยาว
“พี่จะปรึกษาหมออีกที ยังไงเราต้องพาตาวรรธไปผ่าตัดที่ต่างประเทศ”
“ตาวรรธไม่ยอมไปค่ะเชื่อรัตน์เถอะ” หญิงสาวเดินออกมาจากห้องรับแขก ประภามองตามแล้วถอนใจบ้างหล่อนไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไรเช่นกัน
ยุพารัตน์นั่งนิ่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เฟื่องฟ้านั่งมองอยู่ที่โต๊ะของหล่อนนานหลายนาทียุพารัตน์ก็ยังนั่งเงียบ เฟื่องฟ้าจึงลุกจากเก้าอี้ของหล่อนเดินไปนั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของนายสาว