บทที่ 4 รักหาย
“บุรีแกพูดยังงี้หมายความว่าไง” วรรธนัยถามเสียงเบาดวงตาที่จ้องมองมานั้นไหวระริก
“ก็หมายความว่าแฟนแกมาเยี่ยมแกตอนแกหลับ หมอบอกว่าแกจะเดินไม่ได้ยัยนั่นก็เลยเผ่นฉันพูดแค่นี้แกคงเข้าใจ”
บุรีไม่คิดปิดบังเพื่อนอีกในเมื่อวรรธนัยเจ็บปวดทางร่างกายแล้วให้เจ็บปวดทางใจไปพร้อมกันจะได้มีภูมิคุ้มกันช่วยกระตุ้นให้สู้เพื่อตัวเองและตาที่เคยมองสุธาสินีเป็นหญิงสาวผู้เลิศเลอนั้นจะได้เปลี่ยนมุมมองและรู้จักนิสัยอันแท้จริงของหล่อนเสียทีที่หล่อนบอกรักวรรธนัยเพราะเงินที่เขาปรนเปรอให้หล่อนต่างหาก
“ทำไมแกพูดยังงั้น นายวรรธป่วยอยู่นะบุรี พูดให้กำลังใจเพื่อนไม่เป็นรึไง นายพูดแบบนี้เท่ากับซ้ำเติมเพื่อนนะ” ไลลาหาข้อแก้ต่างให้สุธาสินีแต่ไม่รู้จะหาวิธีไหนจึงหันมาเล่นงานบุรีแทน
“ฉันให้กำลังใจไอ้วรรธไงล่ะให้มันแข็งแกร่งขึ้นในเมื่อคนที่มันรักทำกับมันยังงี้มันก็ควรคิดใหม่ได้แล้ว”
“พอเถอะฉันไม่อยากฟัง ไลลากลับไปได้แล้ว ไอ้บุแกก็เหมือนกัน” วรรธนัยตวาดเพื่อนดวงตาเป็นประกายวาววับความโกรธแล่นพล่านในหัวใจ
“หายเร็วๆ นะวรรธ ฉันไปนะ” ไลลาถอยกรูดหล่อนไม่กล้ายืนใกล้วรรธนัยหล่อนรู้ว่าเขากำลังโกรธ
หล่อนวิ่งออกจากห้องไปไม่เหลียวกลับมามองเขาอีกเลย
“แกเชื่อฉันเถอะวรรธ ยัยสุหนีแกไปแล้วจริงๆ ไอ้วิกกี้มันยืนยันได้เดี๋ยวพวกมันจะมาเยี่ยมแก” บุรีมองเพื่อนรักบนเตียงคนไข้อย่างเห็นใจ
“ทำไมเธอรังเกียจฉันวะไอ้บุ” วรรธนัยถามน้ำเสียงเจ็บปวด
“เพราะเธอรู้ว่าแกจะพิการน่ะสิแต่ฉันเชื่อว่าแกไม่พิการ เมื่อกี้ฉันถามคุณพ่อคุณแม่แกแล้ว ท่านบอกว่ามีทางรักษาหายแกอย่าคิดมากนะส่วนเรื่องยัยสุปล่อยหล่อนไป หล่อนรักแกเพราะเงินฉันเตือนแกตั้งแต่แรกแล้วแกก็ไม่เชื่อ”
“แกหยุดใส่ร้ายสุซะทีไอ้บุ สุไม่ใช่คนยังงั้น” คนป่วยตวาดใส่เพื่อนอีกรอบ
“เออๆ บอกก็ไม่เชื่อตามใจละกัน เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่คุณอามารับกับห้องพัก”
บุรีช่วยวรรธนัยเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่วรทัตบอกเขาไว้
วรทัต ประภาและยุพารัตน์เข้าไปปรึกษาคุณหมออีกครั้งเพื่อผ่าตัดช่วยให้วรรธนัยกลับมาเดินได้ตามปกติแต่หมอขอเวลาสักระยะแล้วจะให้คำตอบทีหลัง วรทัตมองเห็นทางตันในการรักษาลูกชายแต่เขาท้อไม่ได้ไม่ว่าจะอย่างไรเขาต้องช่วยลูกให้กลับมาเดินได้ตามปกติอีกครั้ง
วรทัตพาวรรธนัยกลับห้องพักโดยมีบุรีตามมาส่งถึงห้องและเพื่อนๆ ในกลุ่มซึ่งเป็นชาวต่างชาติมาเยี่ยมวรรธนัยเต็มห้อง วิกกี้ยืนยันคำพูดของบุรีก่อนจะกลับไป วรรธนัยเจ็บปวดหัวใจจนแทบยั้งสติไม่อยู่ บุรีช่วยปลอบเขาเพราะบิดามารดาและอาของเขาไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
“ผมจะกลับบ้าน อารัตน์พาผมกลับบ้านที ผมจะกลับบ้าน” ชายหนุ่มร้องเหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็งอแงพาลผู้ปกครองจนต้องพากลับบ้าน
“ได้ๆ อาจะพากลับนะ บุรีกลับกรุงเทพฯพร้อมอามั้ย” ยุพารัตน์หันมาถามบุรี
“ยังครับ ผมทำงานที่ร้านอาหารขาดไม่ได้ รอจนกว่าจะเรียนจบนั่นแหละครับ เอาไว้ผมจะไปเยี่ยมไอ้วรรธตอนผมกลับครับ”
“ขอบใจนะลูกที่ช่วยดูแลตาวรรธ พ่อกับแม่ไม่รู้จะตอบแทนบุรียังไง พ่อให้บุรีเข้ามาอยู่ห้องตาวรรธก็แล้วกันนะช่วยดูแลห้องให้ด้วย” วรทัตเอ่ยอย่างขอบคุณชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับคุณพ่อ” บุรียกมือไหว้บิดาของเพื่อน
“ไม่เป็นไร ตาวรรธให้ตาบุรีอยู่ที่นี่นะลูก” วรทัตหันมาถามลูกชาย
“ครับ ไอ้บุถ้าสุมาฝากบอกด้วยว่าที่นี่ไม่มีฉันอยู่แล้ว” วรรธนัยเสียงเครียดใบหน้าของเขาเครียดขรึมตามน้ำเสียง
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ให้เข้ามาเหยียบห้องนี้อีก แกเดินทางปลอดภัยนะถึงบ้านแล้วบอกฉันด้วย”
วรรธนัยเจ็บแปลบที่หัวใจเมื่อมองไปทุกมุมของห้องพักเห็นภาพสุธาสินีหยอกล้อกับเขาอย่างมีความสุข หล่อนนอนกับเขาบ้างเป็นบางคืนและกลับไปนอนที่ห้องพักของหล่อนบ้าง ความรักของเขาไม่มีปิดบังเพื่อนในกลุ่ม
บุรีเคยเตือนให้เขาระวังสุธาสินีบ้างกลัวว่าหล่อนจะหลอกใช้เงินของเขาหมดแต่เขาไม่เชื่อเพื่อนมีเท่าไหร่ทุ่มเทให้หล่อนทุกอย่างตามที่หล่อนต้องการเขามั่นใจว่าหล่อนรักเขาที่ตัวไม่ใช่ที่น้ำเงินแต่บัดนี้เขารู้แล้วว่าหล่อนไม่ได้รักเขาเลยเพียงแค่หล่อนเห็นเขานอนอยู่บนเตียงคนไข้และรู้ว่าเขาจะเดินไม่ได้หล่อนก็ตีจากอย่างไม่เหลือเยื่อใยอย่างนี้หรือที่หล่อนบอกว่ารักเขาทุกลมหายใจ หล่อนโกหกเขาหล่อนรักเพียงเงินของเขาเท่านั้น