บทที่ 2
เสียงเพลงจังหวะเร้าใจดึงกระหึ่มไปทั่วทั้งบริเวณ เหล่าบรรดานักท่องราตรี ต่างขยับโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน
เช่นเดียวกับสองสาวสวยสุดเซ็กซี่ ที่ต่างก็โยกย้ายไปตามจังหวะเสียงเพลงอย่างสุดเหวี่ยงไม่ต่างกับคนอื่นๆ
เนตรทรายมาในชุดสายเดี่ยวสีดำรัดรูป เผยสัดส่วนสวยๆ อกอวบอิ่ม ที่โผล่พ้นออกมานอกเสื้อพอสวยงามไม่ดูโป๊ เอวคอดกิ่วรับกับสะโพยพาย เพิ่มความเซ็กซี่ ด้วยการผ่าข้างขึ้นมานิดๆ เผยเรียวขาขาวล่อตาพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด ได้เป็นอย่างดี
ส่วนภัสสรก็ไม่น้อยหน้ากัน มาในชุดเดรสสายเดี่ยวสีเมทัลลิคสีชมพูอ่อน ที่ด้านหน้านั้นมองดูเรียบร้อยสุดๆ แต่ด้านหลังคว้านลึกลงมาจนถึงเอวคอด เรียกได้ว่าสองสวยคือที่หมายปองของเหล่าบรรดาผู้ชายในค่ำคืนนี้
“สนุกจังเลยลูกศร นี่ฉันไม่ได้ออกมาเที่ยวแบบนี้นานเท่าไหร่แล้วเนี่ย” เนตรทรายพูดขึ้นหลังจากที่กลับมานั่งพักที่โต๊ะพร้อมกับยกแก้วน้ำสีสวยขึ้นดื่ม
ลูกศรหรือภัสสร คือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเนตรทรายที่ประเทศไทย แม้จะต้องห่างกันเราะไปเรียนต่อแต่ทั้งสองคนก็ยังติดต่อกันเสมอๆ และวันนี้ทั้งคู่ก็นัดกันออกมาปาร์ตี้ เพื่อเป็นการเลี้ยงต้อนรับที่เนตรทรายกลับมาจากต่างประเทศ
“เว่อร์ไปล่ะ ไปอยู่ต่างประเทศตั้งหลายปีไม่เคยออกไปล่าเลยรึไงย่ะ” ภัสสรเอ่ยแซวเนตรทรายยิ้มๆ ยกแก้วน้ำสีสวยขึ้นมาจิบแก้กระหายไม่ต่างจากเนตรทราย
“บ้า! ล่าอะไรของแก ฉันไม่เคยย่ะ... แต่ถ้าเป็นแกอ่ะไม่แน่ ได้ข่าวว่าออกล่าบ่อยไม่ใช่รึไง ยัยแม่เสือสาวพราวเสน่ห์ ดูนั่นดิ ผู้ชายโต๊ะนั้นเขามองแกตาเป็นมันเลย” เนตรทรายพยักพเยิดให้ภัสสรดู ผู้ชายโต๊ะถัดไปจากเธอสองสามโต๊ะ ที่มองเพื่อนของเธอตาเป็นประกายวิบวับอย่างชัดเจน
“มองแกด้วยนั่นแหละ... ก็ช่วยไม่ได้อ่ะเนาะก็คนมันสวยก็ต้องมีผู้ชายสนใจเป็นธรรมดา” จบประโยคสองสาวก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันทันที
“ขอโทษครับ ผมขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ” ชายหนุ่มผู้มาใหม่เอ่ยขึ้น พร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ตัวที่ว่างอย่างถือวิสาสะ โดยไม่รอฟังคำตอบจากสองสาวเลยสักนิด
ใบหน้าหล่อเหลาไม่เป็นสองรองใครส่งยิ้มให้สองสาว เพื่อเป็นการทักทาย ก่อนจะเอ่ยถามสองสาวสวยตรงหน้าอีกครั้งเมื่อทั้งสองยังคงนั่งเงียบไม่พูดอะไร
“มากันสองคนเหรอครับสาวๆ ผมชื่อภาสกรนะครับเรียกสั้นๆ ว่ากรก็ได้”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ภัสสรตอบกลับไปเพื่อเป็นการักษามารยาท
“นี่ไม่คิดจะแนะนำชื่อให้ผมรู้จักบ้างเหรอครับ... ใจร้ายจังคนสวย” ภาสกรพูดเสียงอ่อยแสร้งทำหน้าเศร้า
“ฉันชื่อลูกศรค่ะ ส่วนเพื่อนฉันชื่อเนตร”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณลูกศรคุณเนตร... แต่ดูเหมือนคุณเนตรจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมเท่าไหร่เลยนะครับไม่พูดกับผมเลยสักคำ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เพียงแต่เนตรแค่ไม่รู้จะพูดอะไร” เนตรทรายยิ้มบางส่งไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“ยัยเนตรก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ถ้าไม่สนิทกันก็จะไม่ค่อยคุย จนคนอื่นมองว่ามันหยิ่ง แต่ถ้าสนิทนะคะยัยนี่พูดจนลิงหลับเลยล่ะค่ะ... แล้วนี่คุณกรมาคนเดียวเหรอคะ”
“เปล่าครับ ผมนัดเพื่อนไว้เดี๋ยวสักพักมันคงมาถึง... อะ! นั่งไงพูดถึงก็มาพอดีเลย ไอ้นี่ตายยากจริง” พูดจบภาสกรก็ลุกขึ้นโบกไม้โบกมือไปให้ผู้ชายที่เพิ่งจะเดินเข้ามา
เนตรทรายและภัสสรหันไปมองเพื่อนของภาสกรเป็นจุดเดียว สองสาวถึงกับนั่งอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่าเพื่อนของภาสกรคือใคร
โลกกลมจริงๆ แฮะ
“สวัสดีค่ะ พี่คิม” ภัสสรเอ่ยทักทายคิมหันต์ พร้อมกับยกมือไหว้ เมื่อชายหนุ่มเดินมาถึงโต๊ะ ส่วนเนตรทรายไม่ได้พูดอะไร เอาแต่มองชายหนุ่มด้วยสายตาชื่นชม เพราะแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดาที่ปลดกระดุมออกสองสามเม็ดเผยให้เห็นอกแกร่งเล็กน้อย และแขนเสื้อที่ถูกพับขึ้นจนเกือบถึงข้อศอก กับกางเกงทำงานสีดำแค่นี้ ก็ทำให้ชายหนุ่มเป็นจุดเด่น ดึงดูดสายตาของผู้หญิงในนี้ให้หันมามองได้ไม่น้อย
เช่นเดียวกับคิมหันต์ ที่มองคนนั่งอยู่บนโต๊ะด้วยความสงสัยปนแปลกใจ ที่เห็นน้องสาวกับเพื่อนสนิทของเขาอยู่ด้วยกัน
“ครับ” คิมหันต์ตอบรับสั้นๆ แต่สายตากับมองมาที่น้องสาวของตัวเอง ยิ่งเห็นชุดที่เนตรทรายใส่อยู่ในตอนนี้ ความหงุดหงิดและไม่พอใจก่อตัวขึ้นมาทันที
แต่งตัวให้มันมิดชิดกว่านี้ไม่ได้รึไงวะ
“นี่คุณลูกศรรู้จักไอ้คิมด้วยเหรอครับเนี่ย” ภาสกรมองหน้าภัสสรสลับกับคิมหันต์อย่างงุนงง
“เออ ลูกศรเป็นเพื่อนน้องกู แล้วนี่ยัยเนตรน้องสาวกู แบบนี้เรียกว่ารู้จักมั้ยวะ” คิมหันต์ตอบเสียงห้วน พร้อมกับนั่งลงข้างๆ เนตรทราย ที่ตอนนี้นั่งทำตัวไม่ถูก ก็เพราะสายตาคมกริบที่มองมาที่เธอน่ะสิ มันน่ากลัวจนเธอไม่กล้าสบตา
แต่พอนึกถึงภาพที่เธอเจอเขานัวเนียกับผู้หญิงในห้องทำงานและความเฉยชาที่แสดงออกมาวันนี้ อารมณ์น้อยใจก็หวนกลับเข้ามาอีกครั้ง
“โลกกลมอะไรขนาดนี่วะ มีน้องสาวสวยขนาดนี้ไม่บอกกันเลยนะไอ้คิม... ไม่สิต่อไปนี้กูต้องเรียกมึงว่าลุงถึงจะถูก”
“อย่ามากวนไอ้กร เจ้าชู้อย่างมึงอย่าคิดมายุ่งกับน้องกู” คิมหันต์สวนกลับทันทีด้วยความหงุดหงิด
ยิ่งเห็นสายตาของภาสกรที่มองมายังเนตรทรายยิ่งหงุดหงิด สายตาที่ผู้ชายด้วยกันดูกันออกว่ามันหมายความว่ายังไง มือหนายกแก้วเหล้าที่เด็กเสิร์ฟเพิ่งเอามาเสิร์ฟกระดกเข้าปากทันที
“ทำมาเป็นหวงไอ้นี่ มึงถามน้องเนตรก่อนมั้ย ไม่แน่นะน้องเนตรอาจจะชอบกูก็ได้ จริงมั้ยครับน้องเนตรคนสวย”
“ก็ไม่รู้สิคะ” เนตรทรายตอบทีเล่นทีจริง พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ภาสกร หวังจะยั่วโมโหคนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ
“ไม่ได้นะ ไอ้กรมันเจ้าชู้จะตาย เนตรห้ามไปยุ่งกับมันเด็ดขาด” คิมหันต์รีบพูดห้ามออกมาอย่างหัวเสีย ที่ได้ยินคำตอบของเนตรทราย และไหนจะรอยยิ้มหวานๆ ที่ยิ้มไปให้เพื่อนเขาอีก
“ลูกศรออกไปเต้นกันเถอะเพลงกำลังสนุกเลย ไปด้วยกันมั้ยคะพี่กร” พูดพร้อมกับยิ้มให้ภาสกรอย่างเชิญชวน ก่อนจะเดินนำคนทั้งสองออกไปยังฟลอร์กลางร้าน โดยมีสายตาของคิมหันต์มองตามไปอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
คิมหันต์นั่งดื่มไปเงียบๆ เพียงคนเดียว แต่สายตาก็ยังจับจ้องที่น้องสาวตัวเองอย่างไม่วางตา ส่วนเนตรทรายก็แอบมองคิมหันต์เป็นระยะๆ เห็นเขามองมาที่เธอด้วยสายตาดุ ก็อยากจะแกล้งชายหนุ่มให้โมโหบ้าง
เฉยชากับเธอดีนักใช่มั้ยไม่สนใจเธอดีนักใช่มั้ย
ได้! เดี๋ยวเนตรทรายคนนี้จัดให้ แขนเรียวยาวยกขึ้นคล้องคอผู้ชายคนที่ยืนกะลิ้มกะเหลี่ยเธออยู่ตรงหน้า ใบหน้าสวย ยิ้มหวานออกมาอย่างเชิญชวน
ทำเอาผู้ชายคนนั้นรีบโอบเอวคอดกิ่ว ดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดกับลำตัว ก่อนจะโน้มใบหน้าลงต่ำเข้าใกล้กับริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า
แต่ยังไม่ทันจะได้ลิ้มรสความหอมหวานจากสาวสวยในอ้อมกอด ก็มีแรงกระชากจากทางด้านหลัง ดึงผู้ชายคนนั้นออกไปอย่างแรงจนเกือบล้ม ทำให้คนบริเวณนั้นแตกฮือออกด้วยความตกใจ
ภัสสรรีบเดินเข้ามาหาเนตรทรายทันที่ด้วยความเป็นห่วง แต่คนก่อเรื่องกับยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจในผลงานของตัวเอง
“อย่า มา ยุ่ง กับ น้อง สาว กู” เสียงเข้มพูดออกไปชัดๆ ทีละคำ สายตาดุดันมองผู้ชายคนนั้นด้วยความโมโห
“น้องมึงมายุ่งกับกูก่อน” ลอยหน้าลอยตาตอบออกไปอย่างไม่กลัว ทำเอาคิมหันต์ขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนมองผู้ชายตรงหน้า อย่างเอาเรื่อง
“กูขอเตือนมึงด้วยความหวังดี รีบออกไปก่อนที่มึงจะได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล” เป็นภาสกรที่พูดขึ้นเพราะรู้จักนิสัยของเพื่อนรักดี ว่าเวลาที่โกรธนั้นคิมหันต์น่ากลัวขนาดไหน ประเมินจากรูปร่างผู้ชายคนนี้แล้วแค่นี้ไม่คณามือเพื่อนเขาหรอก
“เออ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” ผู้ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างคาดโทษ มองหน้าคิมหันต์กับภาสกรสลับกันไปมา ก่อนจะรีบเดินหนีออกจากร้านไป เพราะประเมินสถานการณ์แล้วเขามีแต่เสียกับเสีย
“มานี่” พูดพร้อมกับกระชากร่างบางให้เดินตามออกมาโดยไม่ฟังเสียงร้องของอีกคนเลยสักนิด
“พี่คิมปล่อยเนตรนะ พี่คิมเนตรเจ็บ” เนตรทรายทั้งดิ้น ทั้งยื้อ ทั้งแกะมือหนานั้นออกจากมือเธอ แต่ก็ดูเหมือนยิ่งดิ้นยิ่งขัดขืนเธอก็ยิ่งเจ็บตัว จึงปล่อยให้คิมหันต์ฉุดกระชากลากถูเธอออกมานอกร้านก่อนจะปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ
"ทำบ้าอะไรของเธอเนตรทราย ถ้าพี่ไม่เข้าไปดึงไอ้นั่นออก ป่านนี้ถูกมันจูบไปแล้ว" คิมหันต์พูดออกมาอย่างหัวเสีย พลันนึกไปถึงภาพที่ผู้ชายคนนั้นกำลังจะจูบเนตรทรายก็ยิ่งโมโห
เป็นผู้หญิงทำไมไม่รู้จักหวงเนื้อหวงตัวบ้างวะ
"เหรอคะ เนตรไม่เห็นรู้ตัวเลยว่าเขากำลังจะจูบเนตร" เนตรทรายลอยหน้าลอยตาพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ นั่นยิ่งทำให้คิมหันต์โมโหหนักเข้าไปอีก
"เนตรทราย อย่ามายั่วโมโหพี่" เรียกคนตรงหน้าเสียงดัง พร้อมกับดึงร่างบางเข้ามาประชิดตัว ทำให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับเซถลาเข้ามาชนกับอกแกร่งอย่างจังจน เนตรทรายต้องยกมือขึ้นมาโอบกอดคิมหันต์ไว้ด้วยความตกใจ ซึ่งดูเผินๆ เหมือนคนทั้งคู่กับกำลังยืนกอดกัน
"อ้ะ! พี่คิม เนตรเจ็บนะ ปล่อยเลย แล้วเนตรก็ไม่ได้ยั่วโมโหพี่ด้วย" เนตรทรายเถียงออกมาอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งที่ตัวเองตั้งใจยั่วโมโหอย่างที่ชายหนุ่มว่าจริงๆ
คิมหันต์ก้มลงมองคนในอ้อมแขนนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆ
"แล้วดูซิ ใส่ชุดอะไรมาเนี่ย มันโป๊ไม่รู้หรือไง" พูดพร้อมกับผละคนในอ้อมกอดออก มองชุดที่เนตรทรายใส่อย่างขัดใจ
เสื้อสายเดี่ยวรัดรูปเผยส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน ไหนจะมีผ่าขึ้นมาโชว์ขาเรียวอีก แล้วไอ้คอเสื้อที่คว้านลึกลงมาโชว์อกอวบอิ่มนั่นอีก
ใส่ชุดแบบนี้มาได้ยังไงวะไม่รู้หรือไงว่าที่แบบนี้มันมีแต่ผู้ชายหน้าหม้อทั้งนั้น
"ไม่เห็นจะโป๊เลยค่ะ ใครๆ เขาก็ใส่กันทั้งนั้น บางคนใส่สั้นกว่าเนตรอีกก็มี" เนตรทรายแย้งออกไปทันทีใครๆ เขาก็ใส่กันแบบนี้ทั้งนั้นใส่สั้นใส่แหวกมากกว่าเธอก็ยังไม่เลย
"มันก็ใช่ แต่พี่ไม่ชอบให้เนตรแต่งตัวแบบนี้ พี่ไม่ชอบสายตาที่ผู้ชายพวกนั้นมันมองเนตร” ใจที่ห่อเหี่ยวฟองฟูขึ้นมาอีกครั้ งเมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม
ใบหน้าสวยฉีกยิ้มหวาน ก่อนจะเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าคิมหันต์ก็เป็นห่วงเธอเหมือนกัน
สองมือยกขึ้นคล้องลำคอแกร่งเล่นอย่างยั่วยวน สายตาหวานจ้องมองเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้นนิ่ง ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปกระซิบข้างใบหูของชายหนุ่ม ซึ่งถ้าใครมาเห็นก็คงคิดว่าเนตรทรายหอมแก้มคิมหันต์เป็นแน่
"พี่คิมหวงเนตรเหรอคะ" พูดจบก็มองหน้าคิมหันต์นิ่งอย่างรอคอยคำตอบ ส่วนคนถูกถามถึงกลับไปไม่เป็นกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอไปเอือกใหญ่
นี่น้องสาวของเขากำลังเล่นอะไรกันแน่เนี่ย
"ไม่หวง... แต่พี่เป็นห่วงเรา เพราะยังไงเราก็คือน้องพี่" ใบหน้าสวยสลดวูบลงทันทีที่ได้ยินคำตอบ ก่อนเจ้าตัวจะรีบปรับให้เป็นปกติยักไหล่อย่างไม่แยแสในคำตอบที่ได้ยิน ทั้งที่จริงๆ มันเจ็บแปลบๆ ที่อกด้านซ้าย
"เหรอคะ... ไม่หวงก็ไม่หวง อันที่จริงเนตรก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วไม่น่าถามเลยนะคะ งั้นเนตรเข้าไปต่อข้างในนะคะ บายค่ะ" พูดจบก็หันหลังเตรียมจะเดินเข้าด้านใน
แต่ก็ถูกอีกคนคว้ามือไว้ ก่อนจะช้อนร่างบางอุ้มพาดบ่าเดินไปยังลานจอดรถ โดยมีเสียงร้องด้วยความตกใจของเนตรทรายดังไปตลอดทาง
"ว้าย! พี่คิม พี่คิมทำบ้าอะไรเนี่ย ปล่อยเนตรลงเดี๋ยวนี้เลยนะคะ พี่คิมเนตรบอกให้ปล่อยไง"
"ไม่ปล่อย แล้วก็เงียบได้แล้ว หนวกหู"
"ไม่เงียบ ปล่อยลงเดี๋ยวนี้เลย เนตรจะเข้าไปสนุกต่อ พี่คิมไม่ได้ยินที่เนตรพูดหรือไง ปล่อยสิ"
"ปล่อยน่ะปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ คิดว่าพี่จะปล่อยให้เรากลับเข้าไปเป็นอาหารตาของพวกผู้ชายในนั้นน่ะเหรอ ไม่มีทาง" เนตรทรายทั้งดิ้นทั้งทุบตีแผ่นหลัง แต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนจะถูกยัดลงไปในรถสปอร์ตคันหรู
โดยทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่า ทุกการกระทำตั้งแต่อยู่ในร้าน จนออกมาด้านนอกมีใครบางคนกำลังบันทึกวิดีโอของคนทั้งคู่ตั้งแต่ต้นจนจบ
ใบหน้าแววตาที่มองไปยังสามคนนั้นเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์พร้อมกับแผนการบางอย่างที่เกิดขึ้นในหัว
“เจ้านายครับ ผมมีอะไรสนุกๆ ให้ดูครับ รับรองงานนี้ไอ้คิมมันได้มีข่าวฉาวกว่าเดิมแน่นอนครับ”