ตอนที่ 3
ในช่วงพักกลางวัน บริษัทของเนยที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทำให้มีร้านอาหารมากมายให้เลือก หญิงสาวเดินออกจากบริษัทพร้อมกับแพรและเจี๊ยบ น้องฝึกงานคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสองเดือน
เนยเอ็นดูเจี๊ยบมาก เพราะนิสัยและบุคลิกหลายอย่างคล้ายกับตัวเธอ ทั้งในเรื่องความเก่งและความน่ารักสดใส การที่ทั้งสามคนเดินไปไหนมาไหนด้วยกันก็มักจะดึงดูดสายตาของผู้ชายที่เดินผ่านไปมาอยู่เสมอ แต่สิ่งที่ทำให้แพรรู้สึกตลกทุกครั้งคือ พวกเขามักมองแพรด้วยสายตาอิจฉา เพราะคิดว่าเธอเป็นสาวห้าวที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน
“เฮ้อ... ฉันล่ะไม่อยากเดินกับเธอสองคนเลยจริงๆ” แพรแสร้งถอนหายใจออกมาหนักๆ ขณะที่พวกเธอนั่งในร้านอาหารประจำ
“ทำไมล่ะ?” เนยเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย หลังจากสั่งอาหารเสร็จ
“ก็ดูเธอสองคนสิ คนหนึ่งก็สวยสง่า อีกคนก็น่ารักอ่อนหวาน ส่วนฉัน...ดูเหมือนผู้ชายชัดๆ” แพรทำหน้าเหมือนทุกข์ใจ พลางย่นจมูก
“ผู้ชายที่เดินผ่านพวกเราก็มองฉันอย่างกับจะฆ่าฉันให้ตายคาที่เลยล่ะ คงอยากกินเลือดฉันกันหมดแน่ๆ”
คำพูดของแพรทำให้เนยกับเจี๊ยบระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทั้งคู่คุ้นเคยกับมุกตลกแบบนี้ของแพรดี เพราะเธอพูดแบบนี้เกือบทุกครั้งที่ออกไปด้วยกัน
“ฮะฮะ ถ้าอย่างนั้นเธอคงต้องตายวันละหลายรอบเลยล่ะ ยัยแพร” เนยหัวเราะและหยอกล้อด้วยการใช้หลอดดูดน้ำสะบัดไปทางแพรเบาๆ
“เฮ้อ... ทำไมฉันไม่เกิดมาสวยเหมือนพวกเธอบ้างนะ” แพรพูดด้วยน้ำเสียงแสร้งโศกเศร้า แต่ก็ทำเอาเพื่อนๆ หัวเราะขำในท่าทางของเธอ
แต่แล้วเสียงหัวเราะก็เงียบลง เมื่อเนยเหลือบไปเห็นคนคู่หนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน
“เฮ้ย! แพร ดูนั่นสิ” เนยพูดด้วยความประหลาดใจ พร้อมบุ้ยใบ้ให้แพรหันไปมอง
“อะไรเหรอ?” แพรถามออกมาด้วยความสงสัย ก่อนจะหันไปมองตาม เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา เธอเบิกตากว้างทันที
“เฮ้ย! นั่นมันพี่เจกับน้องไอซ์นี่นา”
แพรลดเสียงลงกระซิบกระซาบกับเนย ขณะที่เจี๊ยบนั่งมองด้วยความงุนงง เพราะเธอเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน จึงยังไม่ค่อยรู้จักใครมากนัก
“ข่าวลือเป็นจริงสินะ”
แพรกระซิบ ขณะที่เนยพยักหน้าเบาๆ สีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีนัก เมื่อรู้ว่าข่าวที่เล่าลือกันในบริษัทเกี่ยวกับพี่เจและน้องไอซ์อาจจะเป็นเรื่องจริง
“แบบนี้พี่เหมยคงเสียใจมากแน่ๆ” แพรพึมพำออกมาเบาๆ ขณะที่เนยนิ่งไปสักพัก เพราะเธอรู้ดีว่าความรู้สึกของพี่เหมยที่มีต่อพี่เจนั้นมากแค่ไหน
พี่เจ เป็นชายหนุ่มที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในบริษัท รูปร่างผอมบาง แต่ใบหน้าคมเข้ม นัยน์ตาของเขาดูเจ้าเล่ห์และมีเสน่ห์ในแบบที่ทำให้สาวๆ ในออฟฟิศหลายคนต้องใจเต้น แต่ด้วยบุคลิกที่เงียบขรึมและไม่เปิดเผยมากนัก ทำให้ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้เขามากนัก นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าเขามีแฟนอยู่นอกบริษัทแล้วด้วย
ช่วงหลังมานี้ พี่เจมักมาป้วนเปี้ยนที่แผนกของเนยบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาที่เขาเข้ามาคุยกับพี่เหมย ทุกคนรวมถึงเนยเองก็รู้ดีว่าพี่เหมยแอบชอบพี่เจ ใบหน้าของพี่เหมยจะแดงก่ำทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา และพี่เจก็ดูเหมือนจะรู้ว่าเธอชอบ แต่ยังคงเล่นเกมหว่านเสน่ห์ใส่เธอ ทั้งๆ ที่เขาไม่คิดจริงจังเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เนยรู้สึกไม่ชอบพี่เจนัก
และแล้วก็มีข่าวลือจากแผนกของพี่เจว่า เขากำลังตามจีบน้องไอซ์ สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักที่เป็นน้องสาวของเลขาผู้ช่วยสายสนับสนุน ข่าวนี้ทำให้พี่เหมยซึมเศร้าไปมาก แต่กลับทำให้พี่พีรพล หนุ่มฝ่ายช่างที่แอบชอบพี่เหมยยิ้มออก เพราะแม้พี่พีจะแอบห่วงใยพี่เหมยมาตลอด แต่เธอกลับไม่เคยสังเกตเห็นความรู้สึกของเขาเลยสักครั้ง
“อืม...แบบนี้พี่พีก็มีโอกาสทำคะแนนแล้วสิ” แพรพูดขึ้นลอยๆ ขณะที่กำลังเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ยอย่างไม่สนใจอะไร
“ไม่รู้สิ...เธอก็รู้ว่าพี่เหมยแอบชอบพี่เจมานานมาก ฉันว่าคงยากที่พี่เหมยจะยอมเปิดใจให้พี่พีหรอก” เนยตอบ พลางใช้ส้อมเขี่ยหัวหอมในสลัดไปไว้ข้างๆ จาน สายตาเธอแฝงความครุ่นคิด
“ฉันว่าไม่ยากหรอก ตอนนี้พี่เหมยกำลังอกหักพอดี พี่พีต้องมีโอกาสแน่ๆ” แพรยักไหล่พลางหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม เพราะรู้สึกว่าข้าวผัดที่เธอสั่งมันฝืดคอ
เจี๊ยบที่นั่งฟังอยู่ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“นิสัยไม่ดีเลยนะคะพี่เจเนี่ย มาทำให้พี่เหมยหลงรัก แล้วตัวเองกลับไปจีบผู้หญิงคนอื่นเฉยเลย” เธอพูดพลางเหล่มองไปที่พี่เจกับน้องไอซ์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งของร้านอย่างหงุดหงิด
แพรยิ้มขำกับท่าทีของเจี๊ยบ ก่อนจะพยักหน้าไปทางพี่เจและน้องไอซ์
“ก็ลองดูสิ คิดว่าอย่างพี่เจจะเลือกใครล่ะ ระหว่างพี่เหมยกับน้องไอซ์?”
เจี๊ยบนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง สีหน้าเธอดูหนักใจ พี่เหมยเป็นผู้หญิงรูปร่างขาว อวบ และตัวเตี้ย เรียกได้ว่า "อ้วนเตี้ย" ก็ไม่ผิด ส่วน น้องไอซ์ เป็นสาวตัวเล็ก รูปร่างผอมบาง ใบหน้าหวานสดใสที่ทำให้หนุ่มๆ ในบริษัทหลายคนต้องมองตาม
“พูดไม่ออกเลยสิ ฮะฮะ”
แพรหัวเราะ เมื่อเห็นสีหน้าของเจี๊ยบที่คิดไม่ตก เพราะเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว น้องไอซ์มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่า ส่วนพี่เหมยนั้น มักจะถูกล้อในเรื่องรูปร่างอยู่เสมอ เจี๊ยบจึงเริ่มเข้าใจว่าถ้าเธอเป็นพี่เจ เธอก็คงเลือกน้องไอซ์อย่างไม่ลังเล
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเนยก็ดังขึ้นพร้อมจังหวะเพลง "A little Bit" ขณะที่เธอกำลังจะรวบช้อนเพราะเริ่มอิ่ม เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับและนิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจ
แพรที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เห็นท่าทางของเพื่อนสาวก็รู้ทันทีว่าเป็นพี่เหมยที่โทรมา คงเป็นเพราะลูกค้าคนสำคัญที่พี่เหมยไม่สามารถจัดการได้ แล้วต้องการให้เนยไปช่วยเกลี้ยกล่อมให้สมัครบัตรเครดิตแน่นอน
“ฮื้อ...อีกแล้ว” สาวสวยวางสายและบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
“ฮะฮะ พี่เหมยโทรให้เธอไปช่วยเกลี้ยกล่อมลูกค้าอีกล่ะสิ” แพรหัวเราะออกมา พลางเรียกพนักงานมาเก็บเงิน
เนยถอนหายใจเบาๆ
“ก็ใช่น่ะสิ ขนาดเวลากินข้าวยังไม่เว้นเลย”
เจี๊ยบยิ้มให้กำลังใจ “แหม...ก็พี่เหมยเห็นว่าพี่เนยเก่งในการเกลี้ยกล่อมลูกค้าไงคะ เจี๊ยบก็อยากเป็นอย่างพี่เนยบ้างจัง”
“โฮ่ย ถ้าได้เป็นอย่างพี่แล้วจะรู้ว่า...ไม่น่าเป็นเลยซักนิด”
เนยบ่นพร้อมลากเสียงยาวอย่างเหนื่อยหน่าย เธอย่นจมูกใส่ด้วยความขัดใจ แต่ท่าทางของเธอกลับดูน่ารักมากกว่าที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกกลัว แพรกับเจี๊ยบหัวเราะขำกับท่าทีของเนย
“ไปเถอะ เดี๋ยวโดนพี่เหมยกลิ้งทับ” เนยพูดหน้าตายก่อนจะลุกขึ้นและเดินนำออกจากร้าน ปล่อยให้แพรกับเจี๊ยบเดินตามไปพร้อมเสียงหัวเราะที่กลั้นไม่อยู่
เมื่อกลับมาถึงออฟฟิศ เนยเดินตรงเข้าไปหาพี่เหมยที่กำลังรอเธออยู่ในห้อง พี่เหมยรีบอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้ารายสำคัญทันที พร้อมกับยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ เนยรับไปตรวจดูครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าเข้าใจ แล้วเดินออกจากห้องไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง
เธอหยิบบัตรพนักงานขึ้นมาติดที่อกเสื้อ สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเตรียมใจ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องรับรองลูกค้า เมื่อมาถึงหน้าห้อง เนยสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้ง ผ่อนออกช้าๆ แล้วผลักประตูเข้าไป
“สวัสดีค่ะ” เนยทักทายชายหนุ่มวัยกลางคนที่นั่งสบายอยู่บนโซฟา เขารีบลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นเธอ
“ดิฉัน อมลวัทน์ ภานิชกุล ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
เนยแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มหวาน พลางยื่นมือไปจับ ชายหนุ่มดูประหม่ากับเสน่ห์ของเธอเล็กน้อย แต่ก็ยื่นมือมาตอบรับอย่างเก้ๆ กังๆ
เนยยิ้มในใจอย่างพอใจเมื่อเห็นท่าทางที่แสดงออกของเขา
“เสร็จฉันล่ะ” เธอคิดพลางอมยิ้มเล็กน้อย รู้ดีว่าการเกลี้ยกล่อมครั้งนี้จะต้องได้ผลอย่างแน่นอน