บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 ต้นเหตุของเรื่อง 1.8

“เมื่อกี้เธออาจจะไม่มีสติเลยจดจำเซ็กส์ครั้งแรกของเราไม่ได้ แต่ต่อจากนี้ไปเธอจะต้องจำได้ทุกท่า ทุกจังหวะ จำไปจนวันตาย”

เขาถอนร่างกายออกจากกลีบสาว ปล่อยร่างบางให้นอนแผ่หราบนเตียง ดึงเครื่องป้องกันออกแล้วโยนไปไม่สนใจว่าจะไปตกอยู่ตรงจุดไหนของห้อง กระโดดลงมายืนริมเตียง ปลดปมที่ผูกปลายเนกไทไว้กับหัวเตียงออกมาหนึ่งเส้นแล้วฉุดข้อมือสาวที่นอนไร้เรี่ยวแรงให้ลุกขึ้น ลากจูงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล

“โอ๊ย!!” เธอร้องออกมาทันทีที่เท้ายืนอยู่บนพื้นพรม เนื่องจากเธอก้าวขาไม่ออก ไม่ใช่สิเธอหุบขาไม่ได้ต่างหาก ความเป็นอิสตรีเพศระบมบวม ขยับขาก้าวไม่ได้ แต่เขาก็ไม่สนใจลากจูงร่างเล็กที่น้ำตาไหลพรากอย่างไม่ปรานี และในที่สุดเธอก็มายืนอยู่ใต้ฝักบัว

สายน้ำเย็นฉ่ำที่พร่างพรายลงมากระทบกับเรือนกายเปล่าเปลือยของจันยาวีร์ ส่งผลดีต่อระบบประสาทของเธอ สติที่ถูกครอบงำด้วยฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ความร้อนรุ่มที่อยู่ในอณูเนื้อภายในร่างลดลงไปเรื่อยๆ ความปรารถนาที่เคยสุมกายแทรกซึมลึกถูกขับไล่ออกไปจากเนื้อเยื่อขึ้นสู่ผิวหนังชั้นบน พลันสติก็กลับคืนมา เธอเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เข้ามาในห้องชุดสุดหรูแห่งนี้

นวดตัวให้เจ้าของห้อง

ป้ายยาจนรัฐภูมิสลบเหมือด

เดินเข้าไปค้นหาพระเครื่องเบญจภาคีในห้องนอนของเขา

พอได้ของที่ต้องการเธอก็ตั้งใจว่าจะเดินออกไปจากห้องนี้

แต่แล้ว..ก็ต้องพบกับเจ้าของห้องที่ยืนถมึงทึงจังก้าอยู่หน้าประตูห้องนอน วินาทีนั้นจันยาวีร์จำได้แม่นยำว่า เธอนิ่งงันเป็นหุ่น ทำอะไรไม่ถูกยืนดูร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหาเธออย่างน่ากลัว ก่อนที่เขาจะคว้าตัวเธอไว้แล้วจับโยนลงบนเตียงอย่างไม่มีความปรานี มัดข้อมือทั้งสองข้างของเธอด้วยเนกไท โดยผูกปลายเนกไทติดกับหัวเตียง สิ่งที่เธอจำได้ไม่มีลืมก็คือ เขานำยาเม็ดเล็กๆ ใส่เข้าไปในปากของเธอ และนั่นเองที่ทำให้เธอไม่อาจยับยั้งฤทธิ์ยาได้ ถูกครอบงำจนไม่มีสตินึกคิด ไม่มีแรงต่อต้านใดๆ

...ยาปลุกเซ็กส์..

แล้วหลังจากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับเธอ เกิดอะไรขึ้น ความเย็นจากสายน้ำจากฝักบัวที่ไหลลงมาปะทะกาย มันทำให้เธอรู้อย่างหนึ่งว่า ร่างกายของตัวเองนั้นไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้นเดียว เพื่อความมั่นใจม่านตาสาวที่มีน้ำเกาะติดอยู่ก้มมองดูร่างกายของตนเอง ดวงตาคู่หวานเบิกกว้างทันทีที่รู้ว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่ติดกายมา บัดนี้ได้อันตรธานหายไปหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว ปลายเท้าของใครคนหนึ่งที่เธอเห็น ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นถี่แรงขอให้ทุกอย่างอย่าเป็นดั่งที่เธอคิด จันยาวีร์จึงไล้สายตาขึ้นสูงไปตามน่องของเจ้าของปลายเท้า หน้าขาแล้วต้องหลับตาแน่นเมื่อเห็นสิ่งหนึ่งโยกไหวไปมา ลืมตาเมื่อเงยหน้าขึ้นไปถึงแผงอกและถึงใบหน้าของชายคนหนึ่ง

“คุณ...” จันยาวีร์พูดไม่ออก ประสาททุกส่วนชาดิก ตกอยู่ในอาการอึ้ง ตะลึงงัน มองหน้ารัฐภูมิที่กระตุกยิ้มเหี้ยม ภาพตรงหน้ากับสภาพของเธอไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงระยะเวลาที่เธอไม่อาจควบคุมสติได้

“มีสติแล้วเหรอจ้ะ...เมียจ๋า” เขาพูดเสียงเย้า ดวงตาพราวระยับ

“ไม่จริง ไม่ใช่” จันยาวีร์พูดเสียงสั่น ส่ายหน้าจนน้ำกระเซ็น

“ไมจริงอะไร ไม่ใช่อะไร ไม่จริงที่ว่าฉันไม่ได้นอนกับเธอ ไม่ใช่ที่ว่าเธอได้เสร็จฉันใช่หรือเปล่า ย้ำให้ฟังชัดๆ ตรงนี้เลยว่า จริง เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เรามันส์กันแค่ไหนเธอคงไม่รู้หรอก..มันส์หยดติ๋งเลยล่ะ เธอร้องครางจนดังทั่วห้อง แต่ถ้าเธออยากจะดูหลักฐานก็ได้นะ เลือดบริสุทธิ์ของเธอมันหยดลงบนที่นอน เพื่อความมั่นใจเธอจะไปดูก็ได้นะ ฉันไม่ว่า แต่ฉันแนะนำเธออย่างนึง ก้มมองดูที่หน้าอกของเธอเองน่าจะดีที่สุด เพราะมันบอกอะไรได้หลายอย่าง”

รัฐภูมิกล่าวขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปปิดปุ่มหยุดน้ำที่ไหลออกมาตามฝักบัว เพื่อให้เธอมองเห็นในสิ่งที่เขาต้องการให้อีกฝ่ายเห็น

จันยาวีร์ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่ทำไมใบหน้าสาวจึงก้มมองที่ทรวงอกของตัวเองตามที่เขาบอก และแล้วหัวใจของเธอมันเหมือนมีน้ำกรดมาราด มันแสบร้อนไปทั้งทรวง รอยฝ่ามือ รอยฟันและรอยดูดจ้ำกระจายไปทั่วบงกชทั้งสองข้าง ไม่เพียงแต่ทรวงอกเท่านั้น เธอยังมองเห็นรอยจ้ำปรากฏขึ้นตามบ่า ไหล่และเหนือเนินอก อีกทั้งลำแขนทั้งสองข้างก็ยังมีร่องรอยนั้นๆ

“ชัดมั้ย?” เขาถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่สะใจ จันยาวีร์หน้าซีดเผือด ปากสั่นระริก ดวงตาของเธออัดแน่นไปด้วยความเสียใจ เสียใจและเจ็บปวดใจเมื่อความสาวถูกพรากไปด้วยฤทธิ์ยา ถูกพรากไปด้วยเงื้อมมือของชายที่ไม่รู้จัก ถูกพรากไปอย่างไม่เห็นคุณค่า

“ทำไมคุณถึงทำกับฉันขนาดนี้ สร้อยคอเส้นนั้นฉันก็เอาไปไม่ได้ ฉันขโมยของของคุณ คุณก็ไปแจ้งตำรวจมาจับฉันสิ ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย คุณมันเลว...เลวที่สุด”

เธอบริภาษเขาทั้งน้ำตา ใช้ลำแขนปิดทรวงอกเอาไว้ แต่ก็ถูกมือใหญ่กระชากลำแขนเรียวเล็กออก ดันร่างสาวให้ชิดติดฝาผนังห้องน้ำ ก่อนที่เขาจะใช้เนกไทมัดข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ จันยาวีร์ไม่ยอมง่ายๆ สะบัดข้อมือหนีจากการกอบกุมของมือหนา ใช้เท้ากระทุ้งไปตามร่างกายของเขา ไม่ว่าจะเป็นขา ลำตัวและตั้งใจจะกระแทกเข้าไปที่ใจกลางร่างกายหนุ่ม ทว่าเขาใช่ร่างกายสูงใหญ่ให้เป็นประโยชน์ ทาบติดลำตัวของสาวเจ้าเอาไว้ ทำให้เธอไม่สามารถดิ้นรนได้

“ปล่อยนะ คุณจะทำอะไรฉันอีก แค่นี้ยังไม่พออีกหรือไง?”

จันยาวีร์พูดขึ้นเมื่อรู้ว่าตนเองไร้สิ้นอิสรภาพ ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ด้วยเนกไท โดยปลายเชือกเนกไทผูกติดไว้กับราวเหล็กที่ยึดติดกับฝาผนัง ราวเหล็กมีไว้สำหรับแขวนผ้าขนหนู

“มันไม่พอหรอก เธอกล้ามากที่คิดจะขโมยของรักของหวงของฉัน เจอแค่นี้มันยังน้อยไป ฉันจะให้เธอจำคนที่ชื่อ รัฐภูมิ อัครธนากุลไปจนวันตาย” เขากระซิบพูดเสียงเข้มชิดริมฝีปากสวย กัดกลีบปากคู่นั้นไม่แรงมากแต่ก็เรียกน้ำตาสาวได้อย่างไม่ยาก

“ฉันกลัวแล้ว พระของคุณก็ยังอยู่ คุณไม่มีอะไรต้องเสีย ไม่เหมือนฉัน...ฮือ...ฉันสูญเสียสิ่งที่ฉันหวงแหนไปแล้ว คุณปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ”

จันยาวีร์พยายามร้องขอต่อไป อ้อนวอนทั้งน้ำตา หวังว่าเขาจะเห็นใจ สำหรับเขาน้ำตาของเธอคือชัยชนะ ถ้อยคำอ้อนวอนคือความสะใจ ริมฝีปากหนายกยิ้ม ดวงตาคมเข้มประกายความพอใจ

“ปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันมีอะไรเล่นสนุกๆ กับเธออีกเยอะ รับรองถึงใจ...จำไปจนวันตาย”

น้ำเสียงของเขาเป็นน้ำเสียงที่เธอไม่ชอบฟังเลย มันเต็มไปด้วยน่ากลัว ความสะใจ ความแค้น ความเยาะเย้ยอยู่ในที ถ้อยคำประโยคนี้สร้างความหวาดระแวงให้กับคนที่ได้ฟัง เขาจะทำอะไรเธออีก...จะทำอะไรอีก

“คุณจะทำอะไรฉันอีก จะทำอะไร?”

เสียงสั่นที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวถามออกไป ขยับข้อมือที่ถูกพันธนาการเอาไว้ หาทางดิ้นรนเอาตัวรอด เขาไม่ตอบก้าวถอยหลังมาสองก้าวแล้วยิ้มเย็น

“เดี่ยวก็รู้” พูดจบก็เดินออกไปจากห้องอาบน้ำทันที เธอมองตามร่างหนาที่เดินหายออกไปจากห้องน้ำอย่างไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไร และเธอก็ไม่ต้องการรู้ เธอคิดเพียงอย่างเดียวว่าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร เมื่อเขาไม่อยู่ในห้องน้ำมันจึงเป็นโอกาสเดียวที่จะหาทางออกไปจากที่นี่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel