บทที่ 10 ต้นเหตุของเรื่อง 1.9
จันยาวีร์ใช้แรงทั้งหมดที่มีกระชากเนกไทที่เขาผูกติดไว้กับที่แขวนผ้าขนหนู ทุกครั้งที่เธอออกแรงทำอย่างนั้น ร่างกายสาวมันร้าวระบมไปหมด เนื่องจากหญิงสาวถอยหลังห่างฝาผนัง แล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นสูงจนฝ่าเท้ายันติดกับกำแพง วินาทีที่ยกขาความเจ็บปวดตรงกลางร่างสาวมันจี๊ดขึ้นมาทันทีทันใดและรู้สึกแสบร้อน ความเสียใจล้นอยู่ในอกเมื่อนึกถึงสาเหตุของความปวดร้าวนั้น จันยาวีร์ข่มความเจ็บอย่างแสนสาหัสเอาไว้ในใจ ออกแรงกระชากเนกไทต่อไป
“อย่าหวังว่ามันจะหลุดง่ายๆ อย่างที่เธอคิด กระชากไปก็เจ็บข้อมือเปล่าๆ เรามาสนุกกันต่อดีกว่า”
เสียงเข้มดังขึ้นทำให้คนที่พยายามเอาตัวรอดหันขวับมามองหน้าผู้พูด ดวงหน้าสาวแดงก่ำความแดงเลยเถิดไปถึงลำคอ และลำตัวเมื่อดวงตาคู่สวยมองเห็นสภาพเปลือยเปล่าของเขา
“คุณปล่อยฉันไปเถอะ ฉันรับรองว่าจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย”
“ก็บอกแล้วไงมาสนุกด้วยกันก่อนแล้วฉันจะปล่อยเธอไป เมื่อกี้เธอกินยาเซ็กส์ไป คราวนี้ตาฉันกินบ้าง อยากรู้เหลือเกินว่ายามันจะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน เมื่อกี้เธอร้อนแรงมาก รับฉันได้ทุกกระบวนท่าแม้ว่าบางท่าจะเจ็บและร้องแทบขาดใจ มาลองกลับกันบ้างดีกว่า ฉันไม่รู้ตัวว่ากลัดมันแค่ไหน...ส่วนเธอรู้ทุกการกระทำและความรู้สึก”
รัฐภูมิชูเม็ดยาสีขาวเม็ดเล็กที่มีประสิทธิภาพร้ายเหลือให้จันยาวีร์ดู ก่อนจะปาเข้าไปในปาก บดเขี้ยวรับรู้ความขมของยาอย่างไม่สะทกสะเทือน แล้วกลืนลงไปพร้อ
มกับดื่มน้ำที่เขาถือติดมือมาด้วยไปราวสองอึก การที่เขาเขี้ยวเม็ดยาก่อนดื่มน้ำตาม เป็นเพราะต้องการให้ตัวยาออกฤทธิ์ให้เร็วกว่าเดิม
จันยาวีร์แทบจะเป็นลมอยู่ตรงนั้น การกระทำของเขาทุกขั้นทุกตอนที่เห็นส่งผลตรงถึงหัวใจที่เต้นเร้าด้วยความ
หวาดกลัว ประสาทของเธอทุกสัดส่วนสั่นคลอน เธอไม่ต้องการรับรู้ความรู้สึกหรือการกระทำของเขาเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ต้องการมากที่สุดตอนนี้ก็คือ ออกไปจากที่นี่ แต่ดูว่าความตั้งใจของตัวเองนั้นจะเลือนราง เนกไทไม่ยอมคลายปม ตัวน็อตที่ยึดติดกับฝาผนังไม่ยอมหลุด และเขากำลังก้าวเข้ามาหาเธออย่างเชื่องช้า ก้าวเข้ามาด้วยท่าทางที่เปรียบประดุจดั่งราชสีห์กำลังขย้ำเหยื่อ เธอไม่ยอมแพ้มองหน้าเขาทีก็หันไปมองปลายเนกไทที พร้อมกับเพิ่มความแรงของกระชากให้มากที่สุด
“อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา”
สาวผู้น่าสงสารร้องห้าม หลังจากที่ร่างกายสูงตระหง่านเดินเข้ามาในห้องอาบน้ำ พอเขาเดินเข้ามาในระยะรัศมีขางามจะเหวี่ยงถึง เธอไม่รั้งรอเหวี่ยงขาไปที่ร่างของรัฐภูมิ ป้องกันตัวเองเต็มที่
หมับ...เขาจับขาข้างนั้นของจันยาวีร์เอาไว้ได้ทันท่วงที พับงอหัวเข่าสาวแล้วดันไปจนแผ่นหลังชิดติดกับกำแพงอีกครั้ง นำขาข้างนั้นมาพันรอบเอวใหญ่
“ไม่นะ ไม่...ปล่อย” เธอร้องเสียงดังลั่นห้องน้ำ ดิ้นไปไหนไม่ได้ ขยับหลีกหนีการรุกรานของเขาไม่ได้เช่นกัน
“บอกแล้วไงว่ามาสนุกกันก่อน บทเรียนของเธอยังไม่จบสาวน้อย แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะไว้ชีวิตเธอ ไม่ทำให้เธอถึงตาย แค่คางเหลืองเท่านั้นเอง ฉันจะให้เธอกลับไปบอกแก๊งต้มตุ๋นของเธอว่า ไม่มีวันเอาพระเครื่องเบญจภาคีของฉันไปได้ง่ายๆ หากฉันมีชีวิตอยู่และเธอ...ก็จะต้องจำวันนี้ไปจนวันตาย”
ริมฝีปากของคนที่พูดปิดทับเรียวปากสวยที่กำลังจะเอ่ยวาจาวิงวอน แทรกปลายลิ้นพันเกี่ยวลิ้นนุ่มที่สั่นและพยายามหลบหลีกหนีลิ้นสากใหญ่ของชายใจร้าย ทว่าเธอไม่อาจต้านทานสัมผัสจาบจ้วงได้เลย ถูกกวาดต้อนให้จนมุมด้วยรสจูบที่ไร้ซึ่งคำว่าอ่อนโยน
ร่างกายที่เล็กกว่าแถมยังถูกพันธนาการด้วยเนกไทและร่างกายของรัฐภูมิ ส่งผลให้เธอเปรียบเสมือนคนไร้หนทางสู้ ขยับร่างกายเพื่อผลักหรือต่อต้านเขาไม่ได้เลย จำยอมให้เขาชักจูงไปอย่างกล้ำกลืนและฝืนทน น้ำตาจึงเป็นสิ่งเดียวตอนนี้ที่จะทำให้ความรู้สึกทั้งหลายแหล่หลุดออกไปจากหัวใจดวงนี้ได้บ้าง มันก็ไม่หมดไปจากใจเสียทีเดียว ความหวาดหวั่น ความกลัวยังแทรกซ้อนเข้าไปลึกถึงเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
กลัวฤทธิ์ยานรกนั่น...
อุณหภูมิในร่างกายของรัฐภูมิกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนระอุจากเพลิงพิศวาสกำลังลามเลียเข้าสู่เส้นเลือด...เส้นเลือดน้อยใหญ่ถูกปลุกปั่นจนเขาร้อนรุ่ม กระส่ายกระสับ สมองที่รับรู้ความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงถูกฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์กดทับ ปฏิกิริยาในร่างกายตอบสนอง ความกระหายใคร่วิ่งดิ่งขึ้นสูง ความเป็นชายตื่นตัวเต็มพิกัด
ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวกายนุ่มเนียนลออ บีบขย้ำประโลมจับไปทั่วร่างสาว ทรวงอกเต่งตึงอยู่ในอุ้งมือแข็งแรงในเวลาต่อมา เขาเคล้นคลึงบีบคั้นตามอารมณ์พิศวาสที่โหมเข้ามาในกาย ในขณะที่ปากยังคงบดจูบเรียวปากอิ่มต่อไป ในความรู้สึกที่มีอยู่ไม่มากนัก ตะหนักได้อย่างหนึ่งว่า ช่องปากที่เขานำลิ้นเข้าไปรัดเกี่ยวอยู่นี้ มีทั้งความหอมที่เปรียบประดุจดอกไม้ที่บานในยามเช้า สดชื่นเวลาได้ชื่นชมกลิ่น รสหวานก็เป็นอีกประการหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกจรุงใจ ละมุนลิ้นยามที่ได้แลกรัดพันสัมผัส
คนที่ถูกกระทำขาอ่อนไปโดยพลัน มันสั่นเหมือนร่างกายของเธอ สติที่มีอยู่ครบถ้วนของจันยาวีร์ทำให้เธอรับรู้ถึงความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกาย ความร้อนจากร่างหนาถูกถ่ายทอดเข้ามาในร่างกายของเธอผ่านทางริมฝีปากที่แนบติด ลิ้นที่รัดแลก เนื้อหนังมังสาส่วนหน้าที่แนบสนิท ฝ่ามือใหญ่ที่กอบกุมเต้าทรวง แม้ว่าเขาจะบีบจับหนักมือทว่าความเสียวซ่านก็แทรกผ่านได้ไม่ยาก คงเป็นเพราะเขาใช้ปลายนิ้วหมุนดึงรั้งเม็ดถันสีสวย ความเป็นชายของเขาดิ้นไปมาอยู่ตรงบริเวณหน้าท้องของเธอเป็นอีกอย่างที่นำพาความตื่นเต้นและความกลัวเข้ามาสู่หัวใจสาวได้ในวินาทีเดียวกัน
ใบหน้าคมเข้มเลื่อนต่ำลง ร่างกายจึงเลื่อนต่ำตาม หัวเข่าแข็งแรงทุกเข่าตรงหน้าสาว ใบหน้าของคนที่ถูกฤทธิ์ยาครอบงำอยู่ระดับดอกบัวบานเต็มที่ ชายหนุ่มกลัดมันไม่ปล่อยให้ความสวยงามตรงหน้าล่อตาล่อใจเขานาน รัฐภูมิแนบใบหน้าแนบติดทรวงอกสาว จูบไล้ด้วยริมฝีปาก ประโลมเลียปลายถันที่หดตัวดึงดูดปากและลิ้นให้สัมผัส เขากระดกลิ้นรัวอยู่บนเม็ดถัน ฝ่ามือแข็งแรงไม่ได้หยุดทำงาน กอบกุมดอกบัวทั้งสองข้างให้แนบชิดติดกันจนปลายถันเบียดเป็นคู่
“อา...ไม่...ไม่...อา” จันยาวีร์พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะบังคับไม่ให้อารมณ์สาวไหลร่วมไปกับการโอ้โลมของเขา มันยากนักที่จะทำได้
ไม่เลย...เธอไม่อาจต้านทานสิเน่หาที่ไหลพรากเข้ามาในร่างกายเสมือนกับห้ามไม่ให้ฟ้าฝนตกลงมาได้ เป็นวิถีทางอารมณ์ที่คงจะไม่มีใครห้ามได้ แต่ถึงเธอจะห้ามอารมณ์ปรารถนานั้นได้ จันยาวีร์ก็คงไม่อาจหลุดรอดมือชายใจร้ายคนนี้ไปได้ เนื่องจากเธอถูกพันธนาการอย่างเอาไว้อย่างนี้ มีคำเดียวเท่านั้นที่จะพูดได้เวลานี้...ยอม...แม้ว่าจะไม่เต็มใจ
ทรวงอกสาวแทบจะช้ำและบุบสลายด้วยน้ำหนักมือหนาที่ออกแรงบีบมากขึ้น ปลายถันเริ่มมีอาการแสบและเจ็บจากแรงดูด แรงเลียและแรงขบกัด ซ้ำร้ายมือข้างหนึ่งของเขากำลังลากไล้ต่ำลงไปยังหน้าท้องแบนราบ จนกระทั่งถึงโนมเนื้อสาวที่มียังคงมีอาการบวมอยู่
“อ๊ะ!!!...” เธอร้องสะดุ้ง เมื่อเขาแทรกปลายนิ้วไปตามร่องกลีบสาวแล้วส่งนิ้วเข้าไปในความนุ่มร้อนโดยไม่ทันตั้งตัว ไร้ซึ่งความทะนุถนอม แล้วจึงขยับนิ้วหนาเร็วรี่ประสานการทำงานของปากและลิ้น
“อา...โอ๊ย!!...อา” เสียงครางสลับกับเสียงครวญเจ็บยังคงไหลออกมาจากลำคอสาวตลอดเวลา ขาข้างที่เคยพันอยู่ที่เอวสอบตอนนี้ถูกนำมาพาดอยู่บนบ่าของเขา การขยับนิ้วจึงสะดวกมากขึ้น เขาเมามันส์กับการหาความสุขบนร่างกายของจันยาวีร์ แต่เจ้าของสรีระนั่นเล่า...สุขแบบเจ็บๆ