บทที่ 3 ดอกเบี้ยแสนหวาน 1.1
“โอ๊ย!!..” เสียงร้องตะโกนดังลั่นเมื่อฟันคมของเธอ กัดเรียวลิ้นที่กำลังสำรวจโพรงปากของเธออย่างเพลิดเพลิน กัญติญากัดอย่างไม่ยอมปล่อยจนรัฐศาสตร์ต้องใช้มือบีบแก้มเธออย่างแรง ฟันคมจึงปล่อยลิ้นของเขาให้เป็นอิสระ รสชาติความเค็มของเลือดที่เขาได้ลิ้มรส ทำให้ชายหนุ่มเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ อารมณ์โกรธมีมากขึ้นเป็นเท่าตัว สติที่อยู่กับกับตัวเริ่มเตลิดไปไกลด้วยความโกรธ
“ซาดิสต์เหรอ เดี๋ยวรัฐศาสตร์จัดให้ชุดใหญ่เลย”
พูดลอดไรฟันด้วยความโมโห กรามทั้งสองข้างขบกันแน่น กัญติญาจึงถอยร่นอีกครั้งเพื่อตั้งหลักสู้ รัฐศาสตร์ถอดเสื้อนอกของเขาออกตามด้วยเสื้อกล้าม หญิงสาวมองร่างกายที่สมส่วนดั่งชายชาตรีด้วยความตื่นตะลึง แผงมัดกล้ามที่ขึ้นเป็นมัดๆ บอกได้ว่าเจ้าของร่างกายดูแลสุขภาพตัวเองมากแค่ไหน สายตาเธอมองระเรื่อยลงมาถึงหน้าท้องที่เป็นลอนนูนดูแข็งแกร่ง รู้สึกหวั่นไหวกับสรีระที่สวยงามยิ่งกว่าชายใดที่เธอเคยเห็นมา
กัญติญาหมายจะก้าวลงจากเตียงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ร่างแน่งน้อยถูกเขากระชากอย่างแรงจนล้มลงบนที่นอน
“ชอบกัดเหมือนหมานักใช่ไหม ดี!..ฉันจะเอาไอ้นี่อุดปากของเธอ”
รัฐศาสตร์เอาเสื้อกล้ามของเขายัดใส่ปากเธอ เพื่อไม่ให้เธอร้องหรือใช้ฟันมาทำร้ายเขาต่อไปอีก แต่มีหรือที่เธอจะยอมให้เขาทำร้ายฝ่ายเดียว มือทั้งสองข้างของเธอที่ว่างอยู่จึงทั้งทุบทั้งหยิกไปตามร่างกายของเขาไม่ว่าจะเป็นศีรษะ ใบหน้า ลำแขนและลำตัว รัฐศาสตร์จึงต้องจัดการกับมือทั้งสองข้างของเธอเป็นลำดับต่อไป
“ยังไม่สิ้นฤทธิ์ใช่ไหม อยากเจ็บตัวมากกว่านี้ก็เอา อย่าหาว่าฉันรังแกเธอไม่ได้นะ”
เขาถอดเข็มขัดของเขาออกก่อนจะนำมามัดข้อมือของเธออย่างแน่นหนาพร้อมกับยกวางไว้เหนือศีรษะของเธอ กัญติญายังมีขาทั้งสองข้างของเธอที่จะเป็นอาวุธ เธอจึงใช้ขาทั้งสองข้างยันร่างของเขาและยังพยายามกระทุ้งไปที่หน้าท้องแกร่ง แต่เป็นเพราะเขาทาบทับร่างของเธอไว้ เธอจึงไม่ถนัดในการทำร้ายร่างกายเขามากนัก แต่ก็สามารถทำให้เขาเจ็บตัวบ้างแม้ไม่มากเท่าที่เธอต้องการ
“คิดจะสู้เรอะ ฝันไปเถอะ”
เขาพูดเสียงลอดไรฟัน ก่อนจะล็อคขาทั้งสองข้างของเธอด้วยท่อนขาของเขา เธอจึงไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นแขนทั้งสองที่ถูกเขามัดด้วยเข็มขัด ริมฝีปากที่ถูกเสื้อกล้ามของเขาอุดไว้ เรียวขางามทั้งสองข้างที่ถูกท่อนขาแข็งแรงทาบทับพันธนาการไว้อย่างแน่นหนา
“หมดฤทธิ์ซักทีนะ เธอทำฉันมามากถึงตาฉันเอาคืนบ้างแล้ว”
พูดพลางเสื้อผ้าสีสวยของเธอถูกมือหนาของเขากระชากอย่างแรง ก่อนที่จะฉีกด้วยมือเพียงข้างเดียว ทรวงอกที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้อย่างดีสีฟ้าอ่อนจึงถูกเขาโลมไล้ด้วยสายตา กัญติญามองสายตาร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงของเขาแล้วรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
“อ้ายอ๊ะอ่อยอั๋น..อย่าอำอั๋น” ( ไม่นะปล่อยฉัน อย่าทำฉัน)
เสียงที่เปล่งเล็ดรอดออกมาไม่ชัดเจนและฟังไม่ได้ศัพท์ หากทว่ารัฐศาสตร์หาได้สนใจไม่ สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้ก็คือทรวงอกที่ขาวอวบใหญ่เกินตัวตรงหน้ามากกว่า มือหนาสอดไปที่ด้านหลังของเธอ ก่อนจะปลดตะขอบราตัวสวยออกอย่างชำนาญ เมื่อตะขอแยกออกจากกันรัฐศาสตร์จึงเลิกบราขึ้นสูง ทรวงอกที่หลบอยู่ก็พลันเบ่งบานทันทีที่ได้เป็นอิสระ ตาคมกล้าของเขาจ้องมองทรวงอกเต่งตึงขาวอวบและมาหยุดที่ยอดอกสีแดงอ่อนของเธออย่างหิวกระหาย สายตาของเขาที่ลุกโชนด้วยเพลิงปรารถนาที่ไม่มีอะไรมาหยุดเขาได้ในขณะนี้
กัญติญาส่ายหน้าและมองเขาด้วยสายตาตื่นตระหนก พยายามดิ้นรนหนีใบหน้าของเขาที่กำลังก้มต่ำลงมาที่ทรวงอกของเธอ
“อ้ายนะอ้าย” ( ไม่นะไม่) เธอส่ายหน้าไปมาพร้อมกับพูดคำนี้ตลอดเวลา แต่สำหรับรัฐศาสตร์ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าทรวงอกที่กำลังชูช่องดงามอยู่ตรงหน้าเขา ทันที่เรียวปากของเขาครอบครองยอดอกสีสวยของเธอและดูดกลืนกินหายเข้าไปในเรียวปากพร้อมกับใช้ลิ้นสากเกี่ยวกระหวัดเล่นที่ยอดอกเป็นบางครั้ง ร่างของกัญติญาก็กระสับกระส่ายเหมือนร่างของเธออยู่ในกองเพลิง มันทั้งร้อนและวูบวาบไปทั่ว และยิ่งเมื่อไรฟันครูดเม้มที่ยอดอกของเธอ หญิงสาวก็สั่นสะท้านไปทั่วสรรพางค์กาย เส้นขนตามร่างกายลุกชัน ดวงตาคู่งามของเธอเหม่อลอยเหมือนอยู่ในห้วงของความฝัน ยอดอกทั้งสองข้างถูกเขากลืนกินไม่ยอมหยุด มันเปียกชุ่มด้วยสัมผัสรัญจวนใจของเขา มือหนาข้างหนึ่งกอบกุมทรวงอกของเธอ บีบเคล้นเบาบ้างหนักบ้าง บางครั้งก็ใช้นิ้วมือเรียวสากคลึงเคล้นยอดอกที่แข็งเป็นตุ่มไตของเธอเบาๆ
รัฐศาสตร์เพลิดเพลินกับยอดอกที่เขาดูดกลืนอยู่ ปวดร้าวกับส่วนที่พองขยายของใจกลางแก่นกายของเขา หัวใจเต้นเร็วแรงราวกับไม่เคยแตะต้องผู้หญิงมาก่อน ร่างกายบอบบางที่หอมกรุ่นด้วยกลิ่นกายสาวแสนซาบซ่านเมื่อเขาได้สูดดม มันนุ่มนิ่มและนวลเนียนยามเมื่อเขาได้สัมผัส ทำให้เขาไม่อาจทานทนกับเพลิงปรารถนาอีกต่อไป มือของเขาเลื่อนมาที่ขอบกางเกงผ้าของเธอ ก่อนจะกระชากออกอย่างแรงด้วยความใจร้อน อันเดอร์แวร์สีฟ้าอ่อนตัวสวยชุดเดียวกับบราก็ถูกกระชากขาดไปพร้อมกับกางเกง ร่างงามลออของเธอไม่มีส่วนไหนที่ปิดบังอีกต่อไป สายตาของเขาจ้องมองร่างเปลือยของเธอด้วยความหิวกระหาย กัญติญาใช้จังหวะที่เขาเผลอถีบไปที่หน้าท้องแบนราบของเขาอีกครั้ง ก่อนจะใช้หน้าผากของเธอกระแทกไปที่ปลายจมูกของเขาอย่างแรงสุดจนเรียกเลือดไหลออกมาจากโพรงจมูก
“ฉันเตือนเธอแล้วนะ ชอบให้ฉันใช้ความรุนแรงใช่ไหม ในเมื่อเธอไม่ยอมฉันดีๆก็อย่าหาว่าฉันโหดร้ายไม่ได้นะ”
กัญติญารู้สึกกลัวกับคำพูดของเขามาก เพราะเธอเองไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากนัก หญิงสาวกำลังจะกระเถิบถอยไปที่อีกด้านของเตียง แต่ถูกมือหนาของเขาลากที่ข้อเท้า ก่อนจะลากมาที่กลางเตียงแล้วใช้ร่างบึกบึนของตนทาบทับร่างเธอไว้
“อย่าทำเป็นผู้หญิงบริสุทธ์หน่อยเลย รู้ๆกันอยู่ว่าเธอผ่านศึกมาแล้วแค่ไหน”
กัญติญาส่ายหน้ากับคำพูดของเขา อยากบอกเขาเหลือเกินว่าเธอไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนไหนในโลกนี้เลย แต่เธอไม่สามารถพูดออกมาได้ สิ่งที่เธอทำได้ก็คือส่ายหน้าไปมาเท่านั้น
“ฉันคงไม่ต้องเสียเวลาโอ้โลมเธอนานหรอกนะ เพราะว่าของของเธอมันคงจะหลวมไปหมดแล้ว” รัฐศาสตร์ปลดกางเกงของเขาออกจากร่างกายด้วยมือเพียงข้างเดียว ไม่นานร่างสูงใหญ่แข็งแกร่งของเขาก็เปลือยเปล่าเหมือนกับเธอ กัญติญาร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว แต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว
ชายหนุ่มจับเรียวขาทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นก่อนจะแยกออกจากกันแล้ว ความเป็นชายของเขาก็สอดแทรกเข้ามาในกลีบกุหลาบของเธอด้วยความแรงและรวดเร็ว กัญติญาสะดุ้งเฮือกสุดตัวเมื่อรับรู้ว่าบางสิ่งที่ใหญ่โตคืบคลานเข้ามาในกลีบกุหลาบของเธอ ความเจ็บปวดที่มีมากมายมหาศาลทำให้เธอส่งเสียงกรีดร้องออกมาแม้ว่ามีเสื้อกล้ามของเขาปิดเรียวปากของเธออยู่ก็ตาม
“อี๊ดดดดดดดด” (กรี๊ดดดดดด)
ความคับแน่นที่เขาได้สัมผัสและรับรู้ เยื่อบางๆ ที่เขาเพิ่งทำให้มันฉีกขาด ทำให้เขารู้ว่าเธอไม่เคยมีอะไรเกินเลยกับเคนจิโร่เลย แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไม่ยอมเขา รัฐศาสตร์จึงมองข้ามคำว่าปรานีไป เขาเคลื่อนไหวบนร่างกายเธอด้วยความหนักหน่วง แต่ละครั้งที่เขาขยับหมือนมีมีดมาทิ่มแทงร่างกายของเธอจนเธอเจ็บปวดไปหมด ทรวงอกถูกเขาบีบและขยำจนรอยมือของเขาขึ้นกระจายเต็มไปทั่ว ยอดอกสีสวยถูกเขาครอบครองอย่างไม่หยุดหย่อน ร่างกายสาวต้องรับกับความแปลกใหม่ที่เขาเป็นผู้มอบให้ ซึ่งแม้จะเจ็บร้าวแต่ก็แฝงไว้ด้วยความสุขสมจนเธอแทบจะแยกแยะไม่ออก
“อือ อือ” เสียงครางของเธอดังออกมาเป็นระยะ ความเจ็บปวดเริ่มจางหายและมีความสุขเข้ามาแทนที่ เสียงของรัฐศาสตร์ดังกระหึ่มเป็นระยะด้วยความอิ่มเอมเพราะความคับแน่นที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจอและมันกำลังบีบรัดหัวใจเขาอยู่ ชายหนุ่มก้มมองใบหน้างามที่มีทั้งเหงื่อและน้ำตา มือหนาดึงเสื้อกล้ามที่อุดอยู่ที่ปากของเธอออกก่อนจะใช้เรียวปากของตนประกบกับเรียวปากสวยแทน เพลิงปรารถนาที่มีมากล้นเกาะกินหัวใจของเขาและเธอให้ทะยานขึ้นสูง เสียงครางของหญิงสาวยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ลิ้นสากหนาเกี่ยวรัดและดูดดึงเรียวลิ้นของเธอ กายสาวแอ่นดุจคันศรรับความเสียวกระสันที่เขามอบให้แม้ว่ามันจะควบคู่มากับความเจ็บปวดก็ตาม
“เรียกชื่อฉัน..มิโกะเรียกชื่อฉัน” รัฐศาสตร์สั่งเสียงกระเส่าเมื่อถอนริมฝีปากออก หญิงสาวเหมือนคนละเมอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออก สมองของเธอขาวโพลน
“คุณเล็ก..อ๊า” กัญติญาเปล่งชื่อเขาออกมาในที่สุด มือทั้งสองข้างที่ถูกเขามัดด้วยเข็มขัด ถูกประสานมือเข้าหากันแน่น ริมฝีปากบางขบเม้มกลั้นเสียงครางเต็มที่เมื่อเขาดูดกลืนยอดอกทั้งสองข้างอีกครั้ง แต่เธอไม่สามารถอัดอั้นเสียงไว้ได้ ต้องปลดปล่อยเสียงนั้นออกมาในที่สุด
“อืม..อ๊า” ยิ่งร้องดังมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเคลื่อนไหวบนร่างกายเธอมากเท่านั้น เสียงครางของเขาและเธอดังประสานไปทั่วห้อง ขาเธอข้างหนึ่งถูกมือหนาของเขาจับมาพาดไว้ที่บ่ากว้าง ก่อนจะจับตะแคงร่างของเธอ แรงขับเคลื่อนของเขาเพิ่มมากขึ้นจนร่างน้อยกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงถาโถมของเขา มือหนาของเขากอบกุมทรวงอกเต่งตึงเกินกว่าที่ฝ่ามือของเขาจะกอบกุมหมด เคล้นคลึงอย่างวาบหวิวไม่แรงมาก ในขณะที่เขายังคงขับเคลื่อนร่างกายอย่างต่อเนื่อง
แสงเรืองรองที่ส่องประกายอยู่ตรงหน้าอยู่บนฟากฟ้าที่สูงเกินมือเอื้อม แต่น่าแปลกทำไมร่างกายของเธอถึงลอยขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบถึงหมู่ดวงดาวที่ส่องแสงประกายเจิดจรัส ร่างกายและความเสียวกระสันที่มีมากมายเกินกว่าที่เธอจะต่อต้านได้ บริเวณท้องน้อยคล้ายกับมีทอร์นาโดลูกใหญ่หมุนอยู่ในร่างกายของเธอ ก่อนที่จะสาดใส่หน้าผาสูงชันและแข็งแกร่งที่ขวางกั้นอยู่ และทอร์นาโดลูกนั้นก็ดำดิ่งสู่กลีบดอกกุหลาบที่มีภมรชื่อรัฐศาสตร์ครอบครองอยู่
“กรี๊ดดดด..อ๊า..” เสียงกรีดร้องของเธอดังยาวเมื่อเธอเดินทางผ่านเมฆหมอกผ่านทะลุไปถึงหมู่ดาวนั้นได้สำเร็จ โดยมีเขาจับจูงมือของเธอก้าวเดิน แรงตอดรัดในกลีบกุหลาบของเธอทำให้เขาต้องเพิ่มจังหวะเร็วและแรงมากยิ่งขึ้น
“โอ้ว..อืม” เสียงครางกระเส่าของเขาดังขึ้นตลอดเวลาก่อนที่จะกระแทกกายสูงใหญ่เข้ากลีบกุหลาบของเธอรุนแรงหลายครั้ง และหยุดแช่นิ่งในครั้งสุดท้าย ปลดปล่อยความต้องการที่อัดแน่นออกมาเป็นน้ำฝนสีขาวขุ่น ผสมกับน้ำหวานจากกลีบกุหลาบของเธอจนทะลักทลายออกมาจากร่างสาว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อจากเพลิงปรารถนา ซบลงที่แผ่นหลังของเธอที่ชื้นเหงื่อเช่นกัน เสียงลมหายใจของทั้งคู่หอบดังอย่างไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งทุกอย่างกลับมาเป็นปกติในเวลาถัดมา
“ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เคนจิมันยังไม่เคยแตะต้องตัวเธอ” เขาพูดพร้อมกับจูบที่หัวไหล่เปลือยเปล่าของเธอ ก่อนจะลากไล้ไปตามลำแขน ตอนนี้อารมณ์ปรารถนาของเขาเริ่มลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ไม่มีคำตอบออกมาจากปากของกัญติญา ไม่มีหยาดน้ำตารินไหลเมื่อเธอต้องสูญเสียสิ่งที่มีค่าไป ให้กับคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น มือของเขาเริ่มสำรวจไปทั่วร่างของเธออีกครั้ง กัญติญาหลับตาลงและพร้อมยอมรับสิ่งที่เขาจะมอบให้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการแต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธเขาได้ เธอต้องกลายเป็นดอกเบี้ยที่หอมหวานของเขา จนกว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เคนจิโร่เอาไปผลาญในคาสิโนของเขา ความเจ็บปวดจากผู้ชายที่ทำร้ายเธอทั้งสองคน เธอจะจดจำไว้ในใจ สักวันหนึ่งเธอคงจะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดนี้ แม้ว่าเธอจะไม่มองเห็นทางนั้นก็ตาม
“มิโกะ” เสียงของมานพทำลายภวังค์ความนึกคิดของเธอ กัญติญาหันมามองตามเสียงเรียกชื่อเธอ กัญติญาส่งยิ้มให้มานพนิดๆ ที่มุมปากก่อนจะเอ่ยถาม
“มีอะไรคะ” มานพมองใบหน้าที่ซีดเซียวของกัญติญา ตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำจางบ้างเด่นชัดบ้าง เขารู้ว่าเป็นฝีมือของใคร รู้สึกสงสารและเห็นใจกัญติญาเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เพราะถ้าเขาแสดงความห่วงใยกับเธอ นั่นหมายถึงกัญติญาต้องเจ็บตัวจากอาการหวงจนออกนอกหน้าของเจ้านายหนุ่ม
“คุณเล็กเรียกครับ” คำพูดของมานพทำให้สีหน้าของกัญติญาซีดลง
“ค่ะ” กัญติญารับคำก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักส่วนตัวที่อยู่บนเรือสำราญ เพื่อทำหน้าที่ดอกเบี้ยให้คุ้มกับจำนวนเงินที่เขาสูญเสียไป โดยมีสายตาของมานพที่มองมาด้วยความเห็นใจ