บทที่ 2 รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่บนเขียงพร้อมเชือด 2
มือเล็กคลายหมัด ก่อนจะทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย นาทีนี้แล้ว ถ้าเธอไม่ทำตามที่เขาสั่ง เธอก็ไม่รู้จะทำอะไรได้อีก อย่าว่าแต่เอาคืนพิทยาเลย ให้เธอหนีไปจากตรงนี้ให้ได้เสียก่อนเถอะ
ไม่นานเสื้อเชิ้ตสีดำของชายหนุ่มก็ถูกปลดกระดุมออกจนหมดทุกเม็ด หญิงสาวทำใจกล้าดึงเสื้อออกจากร่างกายกำยำของเขาด้วยอาการเก้ๆ กังๆ
“ทำไมต้องตัวสั่น” เขาถามเมื่อสัมผัสได้ถึงอาการตัวสั่นของเธอ
ปาลลิลไม่ตอบ เธอได้แต่เม้มปากจนเป็นเส้นตรง ก็จะให้เธอบอกว่าเขาว่ายังไงล่ะ บอกว่าเธอกำลังตื่นเต้นที่จะได้ทำเรื่องบนเตียงกับเขา หรือจะให้บอกว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้น มันเป็นครั้งแรกสำหรับเธอ เพราะต่อให้พูดอะไรออกไป เธอก็ไม่เห็นว่ามันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
“ตื่นเต้นเหรอ?” เขาถาม แล้วค่อยๆ ยื่นมือเข้ามาใกล้กับหน้าอกเธอทั้งสองข้าง ก่อนจะออกแรงบีบเบาๆ อย่างต้องการปลุกเร้าเธอ
“อะ! อื้ม…” เสียงครางหวานมาพร้อมกับอาการขนลุกซู่ไปทั่วร่าง หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งให้เขาบีบเคล้น เป็นจังหวะช้าเร็วอยู่อย่างนั้นด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนเช่นนี้
เรื่องโง่ที่สุดในชีวิตของนักการเงินสาวอย่างเธอ คือการไม่ลองลิ้มชิมรสชาติของการมีเซ็กส์ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่เมืองนอก เพราะที่นั่นนอกจากที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอิสระ ห่างไกลสายตาพ่อแม่แล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่เธอจะได้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ
แต่ก็อย่างว่า การไม่ได้เกิดมาเป็นลูกรัก มักมีความกดดันอยู่ลึกๆ เสมอ ตอนนั้นเธอกลัวว่าถ้าเรียนได้เกรดต่ำ พ่อจะตัดหางปล่อยวัด ไม่ส่งเสียเธออีก อีกทั้งเธอกลัวการทดลองหาประสบการณ์ในเรื่องอย่างว่า เธอกลัวความผิดพลาด กลัวตัวเองจะท้องก่อนเรียนจบ ฉะนั้นเธอจึงไม่เคยสนใจเรื่องแบบนี้เลยจนกระทั่งตอนนี้ วันนี้
และการได้ทดลองกับเขา ชายแปลกนี้ก็คงจะไม่เลวร้ายเท่าไหร่ เขาเป็นคนแปลกหน้าก็จริง แต่อย่างน้อยๆ เขาก็ไม่ใช่ไอ้สารเลวพิทยา ที่หลอกเธอมาขายใช้หนี้!
“เสียวเหรอ?” เขาถามหน้าตาเฉย แต่มือก็ยังบีบเคล้นไม่หยุด
“อยากเสียวกว่านี้ไหม?” เขากระซิบข้างหูแล้วขบเม้มเบาๆ
ปาลลิลพยักหน้ารับอย่างลืมอาย นาทีนี้อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป เสียตัวรักษาชีวิต แล้วค่อยใช้ชีวิตนี้ไปแก้แค้นพิทยา
“หึ!” ชายหนุ่มหัวเราะน้อยๆ ในลำคอ ก่อนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดสวยออกจากเรือนร่างงามสมส่วนตรงหน้า ภายในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที ร่างนุ่มนวลขาวผ่องของเธอก็ปรากฏต่อหน้า
“สวย” เขาเผลออุทานออกมา แม้ไฟในห้องจะสลัว แต่ชายหนุ่มก็มองเห็นเรือนร่างงามตรงหน้าชัดเจน มือใหญ่ค่อยๆ ปลดบราเซียร์สีขาวออกจากร่างกายท่อนบน ก่อนจะเบิกตาค้างด้วยความตกตะลึง เมื่อบัวงามตรงหน้าเต่งตึงอวดสายตาเขา
ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะก้มลงไปชิมรสชาติความหอมหวานตรงหน้า ผลที่ได้เกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มากนัก
จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ!
เสียงริมฝีปากของเขาที่กำลังกลืนกินสองเต้าของเธอ ทำเอาหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั่วสรรพรางค์กาย ร่างบางบิดเอี้ยวลำตัวเล็กน้อยด้วยความซ่านเสียว
“อ๊ะ! อืมมมมม”
“เอาล่ะ หมดเวลาเล่นแล้ว”
ชายหนุ่มพูดขึ้น ละริมฝีปากจากอกอวบ ก่อนจะวนขึ้นไปจูบลึกซึ้งกับริมฝีปากของเธออีกครั้ง มือใหญ่ก็เลื้อยไปปลดแอกพันธนาการเบื้องล่างทั้งของตัวเองและหญิงสาว ก่อนจะจัดการอาวุธของตัวเอง
ชายหนุ่มชักรูดท่อนเอ็นของตัวเองสองสามครั้งก่อนจะนำพามันเข้าไปยังจุดหมายที่อยู่ภายใต้ต้นขาวเนียนสวยของเธอ
สวบ!
“อร๊ายยยยย!”
ทันทีที่อาวุธร้ายของเขาเข้าไปสำรวจพื้นที่ภายในของเธอ เสียงหวีดร้องอย่างเจ็บปวดก็ดังออกมาจากร่างบางที่เขากำลังกกกอด
“อ๊ะ! จะ...เจ็บ” หญิงสาวละล่ำละลักบอก
“แล้วทำไม? ...ช่างเถอะ คุณใจเย็นก่อนๆ นะ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
แม้ในใจอยากถามว่าเหตุใดเธอจึงไม่บอกเขาว่าเธอนั้นยังไม่เคย แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะปัดคำถามนั้นทิ้งไป ถามว่าชีวิตนี้เขาเคยเจอสาวเวอร์จิ้นไหม ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะครั้งแรกที่เริ่มอึ๊บสาว สาวคนนั้นก็ไม่ใช่สาวน้อยวัยใสโลกสวยแล้ว
ชายหนุ่มโล่งใจเมื่อเห็นเธอพยักหน้ารับทั้งที่หลับตาปี๋ เห็นแล้วก็ได้แต่นึกขำปนเอ็นดู แถมสงสารเธออีกนิดหน่อยที่ประสบการณ์ครั้งแรกของเธอคืออนาคอนด้าเจ้าป่าอย่างเขา
แบบนี้เรื่องมันคงไม่จบภายในเร็วๆ นี้แล้วล่ะ แม่สาวน้อย!
ตั่บๆๆๆๆ
“ซี๊ดดดดด”
ชายหนุ่มสูดปาก เมื่อความคับแคบบวกกับความคับแน่นกำลังบุกโจมตีเขา ชายหนุ่มผ่อนจังหวะให้ช้าลง แล้วก้มหน้าลงไปหาเต้าอวบเต่งตึงอีกครั้ง ก่อนจะคลายความสงสัยว่าเหตุใดมันจึงเต็มไม้เต็มมืออวบงามดีนัก แล้วใช้ปลายลิ้นตวัดเลียเบาๆ เรียกเสียงครางจากร่างบางแสนสวย
“อ๊ะ อ๊า อะ อย่าทำ มันสะ สะเสียว” ปาลลิลเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น สติใกล้หลุดลอยเต็มที
“เสียวสิดี ไม่รู้เหรอว่าร่างกายคุณทำผมเสียวขนาดไหน”
ตั่บๆๆๆๆ
“ซี๊ดดด แน่นชิบ!”
ปากร้องครวญครางปานเจ็บปวดออกอย่างนั้น แต่เบื้องล่างกลับกระแทกใส่ร่างบางไม่หยุด นานกว่าสิบนาทีชายหนุ่มจึงค่อยๆ ผ่อนแรงลง ก่อนจะถอนอาวุธร้ายออกช้าๆ แต่ยังออกไม่ทันสุด เขาก็แทงพรวดเข้าไปใหม่ หญิงสาวกรีดร้องจนสุดเสียง ทั้งเจ็บทั้งเสียวปนเปกันไปหมด
“อ๊ะ อ้ายยย / ซี๊ด!... โอ้ววววว”
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเฮือกโผเข้ากอดร่างใหญ่ของเขาอย่างลืมตัว
“จุ๊ๆ อย่ากลัวไป ลูกน้องผมเอง” เขาเอ่ยอย่างนุ่มนวลก่อนจะลูบผมเธอเบาๆ อย่างต้องการปลอบประโลม
“ขะ...เขาจะไม่เข้ามา...ใช่ไหม?” ปาลลิลเอ่ยถามเสียงอู้อี้อยู่ในอ้อมกอดแกร่ง
“ไม่หรอก ไม่มีใครกล้าเข้ามาในนี้” ชายหนุ่มลอบยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างคนโล่งอกจากร่างงามในอ้อมกอด
“เปิ้ล” เขาเอ่ยเรียกเจ้าของร่างหวานละมุน
“คะ?” หญิงสาวแหงนหน้ามองคนที่กำลังโอบกอดเธออยู่
“เรียกชื่อผมหน่อยสิ” คนตัวใหญ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “เรียกชื่อผมให้ฟังหน่อย ผมอยากได้ยิน”
“แล้ว...แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ”
“คีริน ผมชื่อคีริน”
“คุณคีริน?” ปาลลิลแปลกใจเล็กน้อยที่ชายหนุ่มตรงหน้านี้มีชื่อไทย
“ใช่ คีริน ไหนคุณลองเรียกแค่ คีเฉยๆ สิ”
“คุณคี”
“ไม่!” ชายหนุ่มเอ่ยค้านเสียงแข็ง “พี่คี”
“พะ...พี่คี”
“ใช่ พี่คี ไหนเรียกอีกทีสิ”
“เรียกพี่คีนะเหรอคะ” เจ้าของชื่อพยักหน้ารับ “พี่คี...พี่คี”
“ใช่ พี่คี ผมอยากให้คุณเรียกผมแบบนี้...ทั้งคืน”
แล้วร่างใหญ่ก็พลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางของเธออีกครั้ง พร้อมกับงัดสารพัดวิธีที่จะทำให้หญิงสาวพร่ำเพรียกเรียกชื่อเขาตลอดทั้งค่ำคืน ไม่สนแม้กระทั่งว่ามีบุคคลที่สามกำลังเคาะประตูเรียกตนอยู่ภายนอก