มวยถูกคู่
ทุกคนสะดุ้งเฮือก รวมไปถึงหญิงสาวด้วย เมื่อรวบรวมสติได้เธอก็หันไปมองหน้าคนที่บังอาจตวาดใส่เธอ มันคือไอ้คนตัวใหญ่ที่เดินเคียงมากับป๊าของเธอนั่นเอง เห็นไกล ๆ แล้วก็ว่ามันดูเถื่อน ๆ มาเห็นใกล้ ๆ ในยามนี้เถื่อนยิ่งกว่า ดวงตาคมกริบภายใต้คิ้วเข้มนั้นดุดันยิ่งนัก มันจ้องมองเธอไม่ลดละ ประกายไฟเต้นเร่าร้อนแรงด้วยเพลิงโทสะอย่างไม่ปกปิด
เธอเชิดหน้าขึ้นก่อนเดินไปประจันหน้ากับมัน รู้สึกเกรงอยู่บ้างเพราะมันสูงใหญ่กำยำเหลือเกิน ขนาดเธอสูงเมตรหกสิบ สวมรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว ยังสูงได้แค่ช่วงหัวไหล่มันเท่านั้น
แต่ที่นี่มันเป็นที่ของเธอ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของประมุข เธออยากทำอะไร อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่เคยมีใครกล้าขัดตั้งแต่ลืมตามาดูโลก แล้วไอ้เวรตะไลนี่มันเป็นใคร !
“ ไอ้ลูกหมานี่เป็นใครป๊า ทำไมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ”
“ ผมน่ะรู้อะไรต่ำอะไรสูง รู้เด็กรู้ผู้ใหญ่ เพราะแม่ผมสอนมาดี คุณนั่นแหละพูดจาหมาไม่แดก ขอโทษแม่ผมเดี๋ยวนี้ ! ”
“ อ๋อ อีกะหรี่ใหม่ของป๊านั่นแม่แกเหรอ ” อาการเบิกตากว้างและกำหมัดแน่นของชายหนุ่มนั่นแสดงถึงว่าเหตุการณ์มันจะยิ่งเลวร้ายแน่ ๆ เสี่ยพธินจึงรีบเดินเอาตัวเข้าไปคั่นระหว่างทั้งคู่
“ พราวด์ พอแล้วลูก ! ”
“ ไม่พอ ไล่ไอ้สวะนี่ออกไปเดี๋ยวนี้ ! ”
“ ไม่เอาน่าพราวด์ ลูกใจเย็น ๆ หน่อยสิ ยังไงลูกก็ไม่ควรไปว่าเรียมแบบนั้น ให้เกียรติเรียมบ้าง เธอเป็นเมียใหม่ของป๊า ส่วนราชย์คือลูกชายคนเดียวของเรียมที่ตอนนี้เป็นมือขวาของป๊าดูแลป๊าอยู่ ป๊ารอดจากโดนลอบยิงหนที่แล้วก็เพราะราชย์นะ ”
“ แล้วไง ป๊าจะยอมให้มันมาพูดจาแบบนี้กับพราวด์เหรอ มันเป็นแค่คนใช้นะ บอดี้การ์ดดี ๆ เยอะแยะ ป๊าจะจ้างอีกกี่คนก็ได้ แต่เป็นขี้ข้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ พราวด์ไม่เอา ไล่มันออกเดี๋ยวนี้ ! ”
“ พราวด์ ใจเย็น ๆ สิลูก ลูกไปพูดดูถูกแม่ของเขาก่อนนะ ” เสี่ยพธินพยายามอธิบาย แต่นั่นยิ่งทำให้ผู้เป็นลูกสาวเดือดหนัก
“ อ๋อ นี่ป๊าเข้าข้างกะหรี่ เข้าข้างลูกของมันมากกว่าลูกตัวเองเหรอ ! ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ สอดบทสนทนาระหว่างพ่อกับลูกอันได้ชื่อว่าเป็นนายจ้างของเขาอีกครั้ง
“ ถ้าผมได้ยินคุณพูดจาดูถูกแม่ผมอีกครั้ง ผมไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะความอดทนผมค่อนข้างมีจำกัด ! ”
พราวพธูถลึงตาใส่เขาอย่างเอาเรื่อง
“ ทำไม มึงจะทำไมกู ไอ้ขี้ราด ไอ้ขี้ข้า !”
ตอนนี้เธอโกรธจนไม่ลืมหูลืมตา ราชย์เองก็ไม่ได้เกรงกลัว เขาประสานสายตาเข้ากับเธออย่างท้าทายไม่ลดละ พลันร่างบอบบางของนางเรียมผู้เป็นแม่ก็รีบเดินเข้ามาดึงลูกชายออกไป
“ ราชย์ พอแล้ว ”
เช่นเดียวกับเสี่ยพธินที่พยายามโอบกอดลูกสาวแล้วพาเดินไปพักผ่อนที่บนห้องนอน
“ ไม่เอาน่าลูก บินกลับมาเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนก่อน ไป ป๊าจะไปส่งที่ห้อง ” เธอสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นพ่ออย่างไม่ใยดี
“ อย่ามาแตะต้องตัวพราวด์ ”
“ พราวด์ ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะลูก ”
“ ก็ป๊าเห็นกะหรี่กับลูกชายมันดีกว่าพราวด์ ”
“ พราวด์ เรียมเขาไม่ได้เป็นกะหรี่ พูดจาให้เกียรติเขาหน่อย อย่างน้อยเขาก็เป็นเมียอีกคนของป๊า เขาเข้ามาช่วยดูแลบ้าน ” พราวพธูจ้องมองผู้เป็นพ่ออย่างเจ็บปวด
“ เมียอีกคนอย่างนั้นเหรอ ป๊าหวังจะยกมันขึ้นแทนคุณแม่เลยใช่ไหม จะเอาผู้หญิงข้างถนนคนนั้นมาแทนคุณแม่ที่ตายไปใช่ไหม ” เสี่ยพธินส่ายศีรษะ
“ ไม่เอาน่าลูก ไม่มีใครแทนใครได้ทั้งนั้นล่ะ แม่ของลูกก็ตายไปแล้ว จะพูดถึงไปทำไมให้เสียอกเสียใจ ลูกพึ่งมาถึง นาน ๆ เราจะได้อยู่ด้วยกัน อย่าทำให้บ้านวุ่นวายเลยนะ ป๊าขอ ”
“ อ๋อ นี่ป๊าว่าการที่พราวด์มาเนี่ยมันทำให้ป๊าวุ่นวายใช่ไหม ได้ พราวด์จะกลับไปอยู่ลอนดอน แล้วไม่กลับมาอีกเลย ! ”
พูดจบเธอก็เดินกระแทนส้นเท้าตึง ๆ ขึ้นชั้นบนอันเป็นห้องนอนส่วนตัวอันหรูหรา โดยมีเสี่ยพธินผู้เป็นพ่อยืนส่ายศีรษะอย่างแสนระอาอยู่เบื้องล่าง เป็นชายหนุ่มที่คนที่เดินเคียงเธอมาตั้งแต่แรก เขาเดินเข้าไปบอกผู้เป็นนายเบา ๆ