ตอนที่3 เทพบุตรซาตาน

เสียงร้องครวญครางด้วยความสุขสมของหญิงสาวดังมาจากหลังฉากกั้นสีขาว หากทีนยังจดจ่อสายตาอยู่ที่สมาร์ตโฟนตรงหน้าเพื่ออ่านข่าวออนไลน์ขณะนั่งรออยู่บนโซฟารับแขกสุดหรูที่อยู่ห่างจากฉากกั้นนั้นพอสมควร ห้องนอนนี้ใหญ่โตอลังการไม่ต่างจากห้องชุดสุดหรูของโรงแรมดังๆ และเขาก็ได้ยินเสียงครางกระเส่ารัญจวนใจดังชัดเจน แต่ไม่ได้ใส่ใจกับเสียงดังกล่าวอาจจะเรียกคุ้นเคยก็ว่าได้ เพื่อนของเขาคนนี้ใช้ผู้หญิงเปลืองสิ้นดี ทว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เต็มใจวิ่งเข้ามาให้ก้องภพเชยชมเป็นว่าเล่น ก็นักธุรกิจหนุ่มหล่อคนดังร่ำรวยระดับอัครมหาเศรษฐี จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง

ก้องภพมีพรสวรรค์ เป็นอัจฉริยะทางการเงิน การลงทุน และการบริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ที่สำคัญเป็นนักธุรกิจที่โหดและใจหิน เขายึดคติเสมอว่าเขาต้องเป็นปลาใหญ่ที่รอฮุบเหยื่ออยู่เสมอ ทีนกับก้องภพรู้จักกันตอนสมัยเรียนที่ออสเตรเลีย เด็กหนุ่มวัยเพียงสิบแปดปีบังเอิญเจอกันขณะไปใช้ชีวิตลุยๆแบบลูกผู้ชายที่นั่น โดยต่างกันที่ก้องภพมีทุกอย่างพร้อมแต่ตัวทีนกับทำงานทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อส่งตัวเองเรียน เขายอมรับในความสามารถของก้องภพ เขาไม่ใช้เงินสักบาทจากที่ทางบ้านส่งมา เขาใช้ความสามารถในการรับจ้างหาเงินเรียน ก้องภพมีพรสวรรค์ ความอดทน และความเพียร ผิดกับเขาที่เกือบจะล้มเลิกการเรียนกลางครันเพราะไม่ไหวกับค่าใช้จ่ายบวกกับค่าแรงที่ได้รับก็น้อยนิด สุดท้ายก็เรียนจบมาด้วยคะแนนร่อแร่ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เพราะได้เพื่อนแท้อย่างก้องภพคอยช่วยเหลือและผลักดัน หลังจากกลับมาเมืองไทย ก้องภพใช้เวลาเพียงสิบปีในการสร้างอาณาจักรของเขาใหม่โดยแยกเป็นบริษัทในเครือจากบริษัทของตระกูล และยังผลประกอบการดีกว่าบริษัทแม่ทุกไตรมาส สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในแวดวงธุรกิจของเมืองไทยจนกระทั่งตอนนี้ยังเป็นที่กล่าวขานโจษจัน

ทีนเป็นหนี้บุญคุณเพื่อนคนนี้ จนคิดว่าชาตินี้ไม่มีทางใช้หนี้ก้องภพได้หมด เขามาจากครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างย่ำแย่ ถ้าไม่มีก้องภพคอยช่วยเหลือก็คงเรียนไม่มีทางจบและทุกวันนี้ก้องภพยังให้เขามาช่วยงานเป็นมือขวาคนสำคัญ ภรรยาและลูกๆของเขามีชีวิตที่สุขสบายก็เพราะเงินเดือนก้อนโตืี่มาจากความใจกว้างของเพื่อนสนิทคนนี้

เสียงร้องครวญครางเงียบลงไปได้ครู่ใหญ่ ขณะที่ทีนยังคงนั่งอ่านข่าวออนไลน์ไปเรื่อยๆระหว่างรอเพื่อน ส่วนด้านหลังฉากกั้น หญิงสาวร่างกายเปลือยเปล่าบนเตียงกว้างหยัดตัวขึ้นและโผเข้ากอดกระหวัดแขนแกร่งกำยำไว้แน่น เบียดซุกอกอิ่มกับต้นแขนของก้องภพ เมื่อเขาตั้งท่าจะลุกออกจากเตียงทันทีเมื่อเสร็จกิจ

“ จะรีบไปไหนคะพอล” ริสาเอ่ยเสียงออดอ้อนแกมตัดพ้อน้อยใจที่อีกฝ่ายผละออกห่างทันที ยามอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส เขาอ่อนหวาน เร่าร้อนและปรนเปรอความสุขสมให้เธอจนล้นปรี่ทุกครั้ง แต่หลังจากนั้นก็จะกลางร่างเป็นผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ และดุเสียจนเธอไม่คิดกล้าหือ ก้องภพสะบัดแขนเบาๆแต่ก็แรงพอจะสะบัดมือไม้อันน่าเกะกะของเจ้าหล่อนไปได้

“ ทีนมาหาผมคงมีธุระ”

“ ไว้คุยกันพรุ่งนี้ก็ได้นี่คะ” ชายหนุ่มเริ่มรำคาญความเซ้าซี้ของหญิงสาว

“ ทีนรออยู่ คุณก็รู้นี่ แต่งตัวซะ และกลับไปได้แล้ว “ ตอบเสียงกึ่งเย็นชาและไม่คิดซ่อนเร้นความรำคาญบนใบหน้า

หญิงสาวน้อยใจจนอยากจะต่อว่าให้เจ็บๆ แต่ใครจะกล้าทำล่ะ ขืนทำอย่างนั้นมีหวังโดนเขาสะบัดทิ้งอย่างไม่ไยดี และคงไม่มีสิทธิ์ได้เยียบย่างเข้ามาในคฤหาสน์หรูหลังนี้อีกเป็นแน่ นอกจากจะหล่อ มีเสน่ห์ และเร้าใจแล้วยังใจกว้างเป็นแม่น้ำกล้าจ่ายกล้าทุ่ม

“แหม พอลพูดแบบนี้ริสาก็น้อยใจนะคะ” แม้จะแสร้งตัดพ้อ แต่ก็ต้องจำใจให้เขาลุกออกจากเตียง ทว่าสายตากลับจับจ้องร่างเปลือยเปล่ากำยำสมส่วนไม่วางตา กวาดไล่มองกายแกร่ง ก่อนจะไปจบที่รอยสักรูปซาตานหรือไม่เธอเองก็ไม่แน่ใจ มันถูกประดับอยู่บนต้นแขนซ้ายเต็มไปด้วยมัดกล้าม ช่างเน้นย้ำภาพลักษณ์ความเป็นมาเฟียได้อย่างดี เขาเป็นผู้ชายเซ็กซี่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา อยู่ใกล้คราใดก็พร้อมจะเปลื้องผ้าได้ทุกวินาที

ก้องภพเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมและพูดด้วยเสียงกระด้าง

“ ผมชี้รำคาญคุณก็รู้ และเราทำข้อตกลงกันแล้ว อย่าลืม นี่เป็นความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย ไม่มีการผูกมัดใดๆทั้งสิ้น พร้อมจะจบสิ้นได้ทุกเมื่อไม่มีการหึงหวง ตัดพ้อ โวยวาย”. ริสาจำต้องปิดปากเงียบ ไม่กล้าโต้ตอบอย่างใจคิด ความรำคาญในน้ำเสียงสื่อให้รู้ว่าเธอไม่ควรจะเซ้าซี้

“แต่งตัวซะ ผมมีธุระต้องคุยกับทีน” ก้องภพสั่งเสียงเคร่งขรึม เมื่อริสาและก้องภพก้าวออกมาจากฉากกั้น ทีนก็ยิ้มทักทายริสาอย่างสุภาพ อีกฝ่ายก็ยิ้มทักทายแบบแกนๆด้วยยังหงุดหงิดไม่หายที่ทีนโผล่มาขัดจังหวะช่วงเวลาแสนสุขสมของเธอ ทีนถูท้ายทอยไปมา กลั้นยิ้มเต็มที่ พอจะรู้อยู่ว่าริสาไม่พอใจที่เขาโผล่มาไม่ดูเวลา บางทีก็นึกขำแทนที่เธอจะเขินอาย เมื่อเขาต้องมานั่งฟังเสียงร้องครวญครางของเธอ กลับมาเคืองกันซะนี่ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของก้องภพก็เปรี้ยวสะเด็ดเข็ดฟันแต่ก็ไม่มีใครคนใดจับเพื่อนของเขาคนนี้ได้สักที ก้องภพเองก็ทำท่าจะใช้ชีวิตหนุ่มโสดไปจนชั่วชีวิต ประหนึ่งผู้หญิงเป็นแค่เครื่องระบายความใคร่ของเขาเท่านั้น

“ พรุ่งนี้ ริสามาหาพอลใหม่นะคะ” ก้องภพปั้นหน้าระอา พักหลังเจ้าหล่อนเริ่มทำตัวน่ารำคาญ เกาะติดเขาอย่างกับตังเม

“ พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง “

“ งั้นมะรืนล่ะค่ะ”

“ วันมะรืนผมก็ไม่ว่าง”

“ ถ้างั้น....”

“ เอาเป็นว่าวันไหนผมว่าง ผมจะโทรไปหาคุณเอง” ก้องภพพูดตัดบทเสียงเข้มๆของอีกฝ่ายเป็นเหตุให้ริสาไม่กล้าโต้เถียง แม้จะขัดใจเต็มแก่แต่ทำได้แค่ยอมเขาอย่างว่าง่าย จากตอนแรกที่คิดจะทำให้เขาหลงเธอหัวปักหัวปำที่ไหนได้ กลายเป็นเธอที่หลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ใจเสียทุกครั้งที่เขาแสดงท่าทางเย็นชาใส่ กลัวจับจิตว่าเขาจะเบื่อและสะบัดเธอทิ้งเหมือนผู้หญิงรายอื่นๆ เธอปรารถนาอย่างยิ่งยวดที่จะเป็นผู้หญิงของเขาตลอดไป แอบฝันว่าสักวันจะได้ใช้นามสกุลที่ผู้หญิงค่อนประเทศปรารถนาที่จะใช้เป็นที่สุด