ตอนที่ 5 มึงนี่น่ารักชิบหาย
ผมค่อยๆขยับตัวเพราะแสงแดดจากระเบียงมันแยงเข้าตา แต่ผมก้ต้องตกใจ เพราะพี่แวนกำลังนอนมองหน้าผมอยู่ แบบว่าใกล้กันสุดๆอ่ะ
“เฮ้ยยย พี่แวน ทำไรอ่ะ”
“พี่ก็นอนมองหน้ามึงอยู่ไง”
“มองทำไมพี่”
“ก็หน้ามึงสวยเหมือนผู้หญิงเลยอะดิ”
“ผมแค่หน้าเหมือนแม่เฉยๆ”
ผมลุกขึ้นนั่งพร้อมกับรีบหันหน้าหนี แต่พี่แวนกลับลุกตามมาแล้วพยายามจะมองหน้าผม
“อย่าบอกนะว่ามึงเขินอ่ะไอ้ขุน เขินพี่เนี้ยนะ มึงเป็นผู้ชายนะโว้ย 555”
พี่แวนเอามือขึ้นมาขยี้ผมอย่างเอ็นดูพร้อมกับเอาแขนมากอดคอผมไว้
“มึงนี่แน่นอนจริงๆ พาพี่กลับมาถึงห้องอีกแล้ว”
“มันช่วยไม่ได้นี่คับ ผมไม่อยากนอนข้างทางนี่”
“ไอ้ปากดี”
“ผมว่าเรารีบไปอาบน้ำไปทำงานกันดีกว่านะคับ”
“นี่มึงไม่รู้หรอ ครัวที่โรงแรมเราปิดวันอาทิตย์”
“อ้าว แล้วถ้าแขกจะกินข้าวอ่ะ”
“ทางโรงแรมจัดบุปเฟ่ไว้ให้ในห้องอาหาร เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น เจ๋งปะละ”
“เจ๋งคับ”
“งั้นมา วันนี้พี่จะทำกับข้าวให้มึงกินเอง”
แล้วพี่แวนก็ถอดเสื้อออก แล้วเดินไปในห้องครัว นี่จะถอดเสื้อทำกับข้าวจริงๆเหรอเนี้ย
“มึงอยากกินอะไรวะไอ้ขุน”
“อะไรก็ได้พี่ ผมกินได้หมดแหละ”
“มึงนี่น่ารักชิบหายเลยวะ”
พี่แวนหันมายิ้มให้ผม ผมจึงอึ้งไปเลย นี่ผู้ชายเขาชมผู้ชายด้วยกันว่าน่ารักเหรอวะ ทำไมใจสั่นแบบนี้
แล้วผมก็เห็นพี่แวนทำกับข้าวอย่างกับมืออาชีพเท่โคตรๆก็แน่ละพี่เขาเป็นเชฟนี่เนอะ แล้วไม่นานพี่แวนก็ตักอาหารใส่จานแล้วยกมาให้ผม
“มาแล้ว ข้าวผัดพี่แวนกับน้องขุน”
“อะไรนะพี่”
“ก็ข้าวนี่ไงพี่ใส่สูตรพิเศษ มีแค่มึงกับพี่เท่านั้นที่ได้กิน มันเลยชื่อข้าวผัดพี่แวนกับน้องขุนไง”
ผมจึงหยิบช้อนแล้วตกขึ้นมากิน โอ้โห ข้าวผัดธรรมดาจริงดิ ทำไมมันอร่อยแบบนี้อ่ะ
“อร่อยมั้ยวะ”
“สุดๆเลยพี่ มันอร่อยมากๆ”
“มันแน่อยู่แล้ว และมึงจำไว้นะ สูตรนี้มีแค่มึงกับพี่เท่านั้นที่จะได้กิน”
“คับ”
“เออ รีบกินไปเดี๋ยวพี่จะพามึงไปดูหนัง อยากดูหนังมานานละ แต่แม่งไม่มีคนไปดูเป็นเพื่อน”
“แล้วทำไมพี่ไม่พาสาวๆไปดูด้วยละ”
“เออเวลาไปกับสาวนะ แม่งจะดูแต่หนังโรแมนติค น่าเบื่อ”
“แล้วพี่จะดูเรื่องอะไรละ”
“หนังผี”
โอ้โห หนังผี ผมขอถอนตัวได้มั้ยเนี้ย มันต้องน่ากลัวแน่ๆ แล้วสุดท้ายผมก็มาถึงโรงหนังจนได้ พี่แวนซื้อป็อบคอนและโค้กมาให้ผมพร้อมกับยื่นตั๋วหนังมาให้ด้วย หนังผีจริงๆด้วย ผมจะบ้าตาย
“เฮ้ยได้เวลาแล้วไป”
พี่แวนจูงมือผมเข้าไปทำให้คนต่างพากันมองใหญ่เลย
“เฮ้ยพี่แวน ปล่อยมือผมก่อน”
“ทำไมวะ”
“ก็คนมองเต็มเลย พี่ไม่เห็นไง๊”
“ เออ นั่นดิ แล้วยังไง มึงนี่เรื่องมากไปๆ พี่จะดูหนัง”
แล้วพี่แวนก็ดึงมือผมไปนั่ง แล้วพอหนังเริ่มฉายพี่แวนก็จับมือผมแน่นเลย พร้อมกับเอาขาขึ้นมาด้านบนด้วย นี่อย่าบอกนะว่าพี่แวนกลัวผีอ่ะ ผมซึ่งที่ว่ากลัวผียังนั่งดูชิวๆเลย แต่พี่แวนนี่ดิกลัวหนักมากขนาดที่แหกปากลั่นโรงอ่ะ ผมจึงรีบเอามือขึ้นมาปิดปากพี่แวนเอาไว้อย่างตกใจ แล้วสิ่งที่ทำให้ผมแทบช็อคคือ อยู่ๆก็มีหัวคนโผล่ขึ้นมาจากเก้าอี้โซนด้านหน้าทีละคนทีละคน จนแม่งแน่นโรงอ่ะ แล้วแอร์ก็เริ่มไม่เย็นจนผมเหงื่อแตกเต็มเลย
“เฮ้ยไอ้ขุนมึงเป็นไรวะ ร้อนหรอ”
พี่แวนหันมากระซิบที่ข้างหูผมที่ตอนนี้กำลังหลับตาปี๋เพราะกลัวผีบรรดาพวกผีที่นั่งอยู่ข้างหน้าเป็นโขยงเลย
“พี่แวนผมอยากกลับแล้วอ่ะพี่”
“อะไรของมึง เออ ก็ได้ ไปๆ”
แล้วพี่แวนก็ลุกขึ้นแล้วจูงมือผมเดินออกมาจากโรงทันที ผมออกมาได้ก็อ้วกแตกใส่ถังขยะเลย พี่แวนเลยเดินมาตบหลังให้ผมเบาๆ
“ไหวมั้ยวะมึงไอ้ขุน”
“ไหวพี่ไหวแต่ผมขอเวลาแปบ”
แล้วพออ้วกจนหมดไส้หมดพุง พี่แวนก็แวะพาผมไปที่ตู้ร้องคาราโอเกะ พร้อมกับเอาของกินออกมาเยอะแยะเลย
“มาทำไรที่นี่อะพี่”
“มาร้องเพลงไง มึงไม่ชอบดูหนังผี งั้นมาร้องเพลงแก้เครียดแล้วกัน”
ผมหันไปมองหน้าพี่แวนที่ยิ้มระรื่นอย่างอึ้งๆ นี่พี่แวนคิดได้ไงเนี้ยพาผมมาร้องเพลงคาราโอเกะ ยิ่งอยู่ด้วยกันมากขึ้นผมยิ่งหลงพี่แวนมากขึ้นไปทุกวันเลยนะผมควรทำไงดีเนี้ย