บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 สมัครดามใจ (2)

“ทำไมคะ” กรรณิกาถามอย่างไม่เข้าใจระคนตกใจ ตอนนี้ข้างในความรู้สึกตีกันให้วุ่น ทั้งเห็นใจธนาธิป ทั้งดีใจที่เขาโสด และในขณะที่ว้าวุ่นใจอยู่นั้นเธอก็ชะงักเมื่อหันไปเห็นสีหน้าเศร้าที่เจือไปด้วยความเจ็บปวด ก็รู้สึกผิดว่าเธอไม่ควรไปถามอะไรแบบนั้นในเวลานี้หรือเปล่า “เอ่อ...ดรีมขอโทษค่ะ”

“เขามีคนใหม่แล้ว”

จู่ ๆ ชายหนุ่มก็บอกเหตุผลขึ้นมาเสียอย่างนั้น นั่นทำเอากรรณิกาช็อกหนักขึ้นกว่าตอนที่บอกว่าเขาเลิกกับวัศยาแล้วเสียอีก เพราะอะไรน่ะเหรอ เธอแอบรักผู้ชายคนนี้มาเกือบสามปี อยากคบอยากได้เขามาเป็นแฟนแต่ก็ทำไม่ได้ ในขณะที่ผู้หญิงอีกคน ได้ในสิ่งที่อยากได้ เป็นในสิ่งที่อยากเป็นแต่จู่ ๆ ก็มาหนีไปมีคนใหม่เนี่ยนะ ไม่ยุติธรรมกับเธอเลย

“คบซ้อนเหรอคะ” กรรณิกาถามอย่างอยากรู้ ซึ่งธนาธิปก็ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า “เขาไม่ผิดหรอก เมื่อเลิกกันแล้วเขาจะมีใครก็ได้” ชายหนุ่มไม่อยากได้ชื่อว่าเอาแฟนเก่ามานินทาเลยเลือกที่จะไม่พูดความจริง แม้ความจริงที่ว่านั้นมันจะเป็นอย่างที่กรรณิกาคาดเดา

เรื่องนี้เขารู้จากปากของเพื่อนสนิทที่มีแฟนเป็นเพื่อนในกลุ่มของวัศยา หลังจากเลิกกันด้วยเหตุผลที่ว่า ‘เธอดีเกินไปและเราไปกันไม่ได้หรอก’ วัศยาก็เรียกเขาว่าผู้ชายซื่อบื้อ หน้าโง่ โง่เหมือนควายที่เขาเลี้ยง ให้ท่าไม่รู้ตั้งกี่รอบก็ยังไม่คิดจะทำอะไร ค้างด้วยกัน ทำมากสุดก็จูบ จากนั้นก็นอนจับมือกันจนกระทั่งเช้า ไม่เหมือนผู้ชายคนใหม่ที่เร้าใจสุด ๆ เจอกันวันแรกก็จัดหนักจัดเต็มจนมาเรียนแทบไม่ได้ วันหลังมาก็เลยเลือกที่จะมาบอกเลิกกับเขาที่จืดชืด พอได้ฟังอย่างนี้ธนาธิปที่คิดว่าจะไปง้อหญิงสาวก็เลยเลือกที่จะยอมตัดใจดีกว่า

“พี่ยังรักพี่ฝ้ายอยู่ใช่ไหมคะ”

“คบกันมาตั้งหลายปี พอต้องมาเลิกกันมันก็เสียใจเป็นธรรมดาแหละ ยังทำใจไม่ได้น่ะ” ธนาธิปยอมรับตามความรู้สึกที่เป็นอยู่ในตอนนี้จริง ๆ

“หาคนมาดามอกดีไหมคะ เพื่อนดรีมหลายคน ตอนเลิกกับแฟนใหม่ ๆ ฟูมฟายจะเป็นจะตาย แต่ผ่านไปไม่กี่วันมีคนมาดามใจหายเฉยเลย” กรรณิกาแนะนำ

“หาที่ไหนล่ะ” ธนาธิปถามเสียงกลั้วหัวเราะ กรรณิกาหยุดยืนนิ่งพลางเม้มปากอย่างด้วยท่าทีลังเล แต่พอชายหนุ่มที่เดินนำไปก่อนหยุดแล้วหันมาเลิกคิ้วมอง ก็เงยหน้าขึ้นถาม “ดรีมสมัครได้ไหมล่ะคะ”

ธนาธิปหัวเราะแล้วย้อนถาม “ไม่มีแฟนหรือไงเราน่ะ”

“พ่อดุขนาดนี้คงมีใครกล้าจีบหรอกค่ะ” กรรณิกาถอนหายใจก่อนจะรีบเดินอย่างอารมณ์เสีย เมื่อเห็นว่าธนาธิปคิดว่าเธอพูดเล่นเรื่องขอเป็นคนดามใจ และอีกเรื่องคือเรื่องที่คนเป็นพ่อดุมาก ไล่ผู้ชายทุกคนที่เข้าหา แม้แต่เพื่อนผู้ชายก็ไม่เว้น จนตอนนี้จะไม่มีใครคบเธออยู่แล้ว

“ขอบใจนะ”

“เรื่องอะไรคะ อย่าบอกน่ะว่าเรื่องที่สมัครดามใจพี่น่ะ” กรรณิกาถามเสียงกลั้วหัวเราะกลับไปบ้าง เพราะถ้าใช่ ถ้าได้เกริ่นมาแบบนี้ร้อยทั้งร้อยโดนปฏิเสธแน่นอน

“เรื่องที่อยู่รอเป็นเพื่อนพี่จนค่ำไง” ธนาธิปเอียงหน้ามองหญิงสาวที่หยุดเดินอีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้าเดินต่อไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำยิ้ม ๆ

“ก็ทำหน้าเศร้าขนาดนั้น กลัวโดดปลักควายตายทำไงล่ะคะ” กรรณิกาให้เหตุผล และไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรู้ สงสัยเธอจะแสดงละครไม่เนียน

“เอาศพไปทำบุญแล้วเผาไง”

“ดรีมกลัวผี” กรรณิกาหมุนตัว เดินถอยหลังพร้อมกับตะโกนบอกชายหนุ่ม พลางย่นจมูกใส่ ก่อนจะหยุดเดินเมื่อเห็นว่าตัวเองเดินถอยหลังเลยรถมอเตอร์ไซค์ที่จะขับกลับบ้านแล้ว “เย็นนี้กินข้าวบ้านดรีมไหมคะ ฉลองความโสดหน่อยเป็นไง”

ธนาธิปมองคนชวนเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “ได้สิ งั้นกลับกันเถอะ” ชายหนุ่มบอกพลางขึ้นคร่อมรถในตำแหน่งคนขับทันที

“แล้วพี่มาฟาร์มรถอะไร จะทิ้งไว้อย่างนั้นเลยเหรอ” กรรณิกาถามอย่างสงสัย แม้จะรู้ว่าแม้จะจอดทิ้งไว้ก็คงไม่หายหรอก

“จักรยานน่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาเอา ขามาปั่นเรื่อย ๆ พอได้ แต่ขากลับคงไม่ไหวเหนื่อย ค่ำแล้วด้วย” ธนาธิปส่ายหน้ายิ้ม ๆ

“งั้นก็ไปเลยค่ะ” กรรณิกาบอกพลางชูมือขึ้นเมื่อตัวเองนั่งขึ้นซ้อนท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นรถมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่ก็วิ่งฉิวออกจากฟาร์มไม่นานก็วิ่งมาจอดหน้าบ้านปูนสีขาวสองชั้น หญิงสาวกระโดดลงมายืนข้าง ๆ รถ ธนาธิปตั้งขาตั้งแล้ววาดขาลงจากรถแล้วหันมาพูดกับคนที่ยืนรออยู่ “พี่ขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน เตรียมกับแกล้มไวล่ะ”

“ไม่กินข้าวเหรอคะ” กรรณิกาถามอยากแปลกใจ เพราะเธอจำได้ว่าชวนเขามากินข้าวไม่ได้ชวนมากินเหล้าเสียหน่อย

“อกหักใครเขากินข้าวกัน เดี๋ยวพี่ซื้อเครื่องดื่มมาเอง อยากกินอะไร เบียร์กินเป็นไหม” ธนาธิปถามอย่างไม่ได้จริงจังนัก แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้เขาถึงกับเลิกคิ้ว

“ได้อยู่นะ”

“คุณลุงคุณป้ารู้ไหมเนี่ยว่าลูกสาวแอบดื่มของมึนเมา” ธนาธิปหรี่ตามมองหญิงสาวตรงหน้า จะว่าแปลกใจก็แปลกจะว่าไม่แปลกก็ใช่ เพราะเรื่องความก๋ากั่นกรรณิกาก็ถือว่าพอใช้ได้เลยทีเดียว

“ไม่ได้แอบ กินให้เห็นเลย พ่อแม่ไม่ว่าถ้ากินที่บ้าน ดีใช่ไหมล่ะ” กรรณิกาอวด และเธอไม่ได้โกหกด้วย แม้พ่อจะหวง แต่เรื่องนี้พวกท่านบอกว่าลองได้ แต่ต้องรู้ลิมิตของตัวเอง และถ้าเป็นไปได้คืออยากลองอยากชิมให้มาดื่มที่บ้านดีที่สุด

“ดี แต่เดี๋ยวพี่ซื้อน้ำอัดลมมาฝาก” ธนาธิปสรุป นั่นทำเอากรรณิกาถึงกับโอดครวญ “พี่เซนต์....”

“โตกว่านี้ค่อยกิน” ธนาธิปยกมือไปโยกศีรษะของหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะเดินผละออกไป

“ชิ โตขนาดนี้ยังจะบอกว่าเป็นเด็กอยู่ได้” กรรณิกาย่นจมูกตามหลังพลางบ่น ก่อนจะเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี และคิดว่าเธอน่าจะถือโอกาสนี้ขอคนเป็นแม่ให้ช่วยสอนการทำกับข้าวและกับแกล้มซะหน่อย เผื่อในอนาคตจะได้ใช้มัดใจใครบางคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel