บทย่อ
กรรณิกาแอบหลงรักพี่ชายข้างบ้านอย่างธนาธิปมานาน ตอนเขาอกหักก็ได้แต่ปลอบ และด้วยความที่ชายหนุ่มค่อนข้างบ้างาน วัน ๆ หมกตัวอยู่แต่ในฟาร์ม ไม่ออกไปไหน ยังไง ๆ คนคนนี้ก็เสร็จเธอแน่นอน ทว่าในเวลาต่อมาคู่แข่งกลับปรากฏตัวมาถึงสองคน... คนแรกเป็นเด็กมหาลัยวัยขบเผาะ น่ารักสดใส มนุษยสัมพันธ์ดี คนสอง สวยหวาน เรียบร้อย งานบ้านงานเรือนเป็นเลิศ ที่สำคัญอยู่ชายคาเดียวกับชายหนุ่มอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมั่นใจว่า ถึงงานบ้านงานเรือนของเธอจะติดลบ แต่ความสวย ความถึกอึดทน และความสายเปย์ของเธอที่ไม่เป็นสองรองใคร จะทำให้เป็นผู้ชนะในแมตนี้แน่นอน... “พี่เซนต์...” ธนาธิปหันไปมองเล็กน้อยก่อนจะเร่งจดในสิ่งที่จำเป็นจนเสร็จจึงหันมาคุยกับคนที่ยืนเหนือยหอบ “อะไรวิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว” “เมื่อกี้ป้าหลงมาที่บ้านเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟัง จริงเหรอคะ” กรรณิกาถามด้วยหน้าตาตื่นเต้นระคนอยากรู้อยากเห็น “เรื่องอะไรล่ะ” ธนาธิปแกล้งย้อนถามแล้วเดินนำหญิงสาวไปที่รถของตัวเอง ก่อนจะตักน้ำเย็น ๆ ในกระติกให้หญิงสาวดื่มแก้กระหาย “ก็เรื่องที่จิ๊กมันมาบุกปล้ำพี่ถึงที่บ้านน่ะสิ” กรรณิกาพูดต่อหลังจากที่ดื่มน้ำจนอิ่มและยื่นแก้วเปล่าคืนให้กับชายหนุ่ม “เมาหนักน่ะเลยทำอะไรไม่คิด” ธนาธิปพูดสั้น ๆ เพราะคิดว่าหญิงสาวคงได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากคนเป็นแม่ไปแล้ว “นั่นสิถ้าคิดคงไม่แห้วแบบนี้” กรรณิกาส่ายหน้าให้กับการกระทำที่เหมือนจะอ่อนด้อยของดารินทร์ “ทำไมจะไม่แห้ว” ธนาธิปหรี่ตามอง คนที่ตอนนี้ที่กำลังกอดอกเชิดหน้าราวกับเป็นกูรูในเรื่องแบบนี้ “ถ้าเป็นดรีมนะ...” กรรณิกาพูดยังไม่ทันจบ ธนาธิปก็ถามแทรกขึ้น “จะทำยังไง” “จะล่อลวงพี่ไปที่บ้าน จากนั้นก็จะมอมเหล้าให้เมา แล้วลากขึ้นไปกินบนห้องเลย”
บทที่ 1 รักใส ๆ วัยมัธยม (1)
1
รักใส ๆ วัยมัธยม
กรรณิกาที่อยู่ในชุดนักเรียนคอซองของมัธยมต้นที่ถูกคนเป็นพ่อใช้มาเอาของที่ลืมไว้ในคอกวัวหันไปมองอีกฟากของรั้วที่เป็นฟาร์มควายเมื่อได้ยินเสียงหยอกล้อกันของธนาธิปกับแฟนสาว แม้จะรู้สึกเจ็บแปล๊บไปทั้งใจแต่เธอก็อยากจะมอง อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครและหน้าตาเป็นอย่างไร ตอนนี้เลยกลายเป็นว่ายืนเกาะรั้วมองทั้งสองคนตาไม่กะพริบ จนคนถูกมองรู้สึกได้
“อ้าว ดรีมเลิกเรียนแล้วเหรอ” ธนาธิปที่พาแฟนสาวมาเที่ยวชมฟาร์มควายซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวเป็นครั้งแรก หลังจากที่คบหากันมาได้เกือบปีแล้ว
“ค่ะ พี่เซนต์กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอคะ” กรรณิกาทักชายหนุ่มที่เมื่อก่อนเธอก็ไปเที่ยวเล่นที่ฟาร์มของเขาบ่อย ๆ โดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไรจนกระทั่งเมื่อต้นปีนี้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าใจเต้นและเขินอายกับรอยยิ้มและสายตาที่ชายหนุ่มมอบให้ และรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูสว่างไสวกว่าผู้ชายคนไหน ๆ เพื่อนผู้ชายร่วมห้องที่ว่าหน้าตาดีที่สุดยังสู้ธนาธิปไม่ได้เลย หลังจากที่ได้หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและเพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์อาการแบบนี้เขาเรียกว่า ‘การตกหลุมรัก’
“ใช่ พี่ซื้อของกินมาฝากด้วยเดี๋ยวแวะเอาไปให้” ธนาธิปที่ไปเรียนเกี่ยวกับการดูแลสัตว์และฟาร์มที่จังหวัดใกล้เคียงเขามักจะกลับมาบ้านเดือนละครั้งสองครั้งเป็นอย่างต่ำ และทุกครั้งที่กลับมาก็มักจะมีของติดไม้ติดมือมาฝากคนในครอบครัวรวมถึงครอบครัวเพื่อนบ้านอย่างครอบครัวของกรรณิกาเสมอ
“ขอบคุณค่ะ แล้วนั่นแฟนพี่เหรอคะ” กรรณิกาทำเป็นถามอย่างล้อเลียน ก่อนจะกลั้นใจรอคำตอบว่าสิ่งที่เธอคิดและคาดเดาจากการแสดงออกของทั้งสองคนนั้นจะถูกต้องหรือไม่
“อื้อ” ธนาธิปพยักหน้ารับเขิน ๆ นั่นทำให้รอยยิ้มของกรรณิกาเจื่อนลง แต่ก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้น ก่อนมันจะกลับไปสดใสร่าเริงเหมือนเคย
“สวัสดีค่ะพี่ หนูชื่อดรีมนะคะ”
“สวัสดีจ้ะ เรียกพี่ว่าพี่ฝ้ายก็ได้จ้ะ” วัศยารับไหว้แล้วทักกลับด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“ค่ะพี่ฝ้าย พี่ฝ้ายสวยจังเลยนะคะ” เรื่องนี้กรรณิกาชมอีกฝ่ายจากใจ เพราะดูจากการแต่งตัวแล้วถือว่าเป็นคนที่แต่งตัวเก่งเอามาก ๆ และดูท่าไม่น่าจะมาเดินในฟาร์มที่มีแต่กลิ่นโคลนสาบควาย แต่นี่อีกฝ่ายกลับไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไรเลย แล้วจะให้เกลียดเพราะอีกฝ่ายดันมาเป็นแฟนคนที่เธอแอบชอบได้ยังไง
“ขอบใจจ้ะ” วัศยาเปิดยิ้มกว้าง จนกรรณิกาอดไม่ได้ที่ยิ้มตาม
“แล้วนี่ดรีมมาทำอะไร” ชายหนุ่มพยักพเยิดหน้าถาม
“อ๋อ มาเอาของให้พ่อน่ะค่ะ” กรรณิกายกกระเป๋าสะพายใบเล็กของคนเป็นพ่อขึ้นให้ชายหนุ่มดู เงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วเอากระเป๋าของคนเป็นพ่อมาสะพาย “งั้นดรีมขอตัวนะคะเดี๋ยวพ่อรอ อย่าลืมของฝากนะคะ” หญิงสาวย้ำเตือนชายหนุ่มอีกครั้ง
“โอเค เดี๋ยวเอาไปให้”
“ดรีมไปนะคะ” หญิงสาวยิ้มและบอกลาวัศยาเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัววิ่งผละออกไปอย่างไว
“น่ารักนะคะ” วัศยาชมเด็กสาววัยแรกแย้มที่แม้จะยังไม่แตกเนื้อสาวดีเท่าไหร่ แต่หน้าตาผิวพรรณกลับมีเค้าของความสวยปรากฏอย่างเด่นชัดพลางหันมายิ้มให้กับแฟนหนุ่มเล็กน้อย
“ใช่ แต่นิสัยแก่นแก้วมาก ๆ เลยล่ะ ปีนข้ามรั้วมาเล่นที่ฟาร์มผมบ่อย ๆ” ธนาธิปบอกเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อแฟนสาวจ้องเขาเหมือนกำลังจะจับผิดไม่เลิก “มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ” วัศยาบอกก่อนจะกวาดสายตาไปรอบ ๆ ทั้งภายในฟาร์มของธนาธิปและฟาร์มข้าง ๆ เมื่อไม่เห็นว่าจะมีใครนอกจากวัวกับควายเธอก็ยื่นหน้าเข้าไปแล้วแอบหอมแก้มของแฟนหนุ่ม และทำท่าจูบต่อ แต่ธนาธิปก็รีบห้ามและยกมือขึ้นมาบัง
“อย่าซนสิ นี่ในฟาร์มนะ เดี๋ยวคนอื่นเห็นอายเขา”
“ตื่นเต้นดีออก และอีกอย่างมันก็ไม่เห็นจะมีใครด้วย” วัศยาทำท่าจะรุกต่อแต่ธนาธิปกลับเบี่ยงหลบแล้วเดินจูงมือของวัศยาเดินไปขึ้นรถแล้วกลับบ้านเมื่อเห็นว่าตะวันเริ่มจะลับฟ้าแล้ว ท่ามกลางความขัดใจของหญิงสาวที่นับตั้งแต่คบกันมาเกือบปี ที่ทำบ่อยสุดก็น่าจะเป็นการจับมือกัน จูบนับครั้งได้ ส่วนอะไรที่มากกว่านั้นฝันไปเถอะ
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ กรรณิกาก็เดินมานั่งเล่นที่หลังบ้าน ที่แม้จะค่ำแล้วแต่ในพื้นที่นี้ก็สว่างจากแสงหลอดไฟโซล่าเซลล์ที่ติดไว้จนรอบบ้าน เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ถูกความมืดปกคลุมแล้วถอนหายใจ ก้มหน้ามองพื้นหญ้าก็ถอนหายใจอีกครั้งอย่างไม่รู้จะจัดการกับอาการที่รู้สึกไม่สบายใจนี้อย่างไรดี