บทที่ 5
เสียงฝีเท้าแว่วดังเข้ามา ดารันมองรองเท้าส้นสูงสีขาว ประดับด้วยมุกสีเดียวกัน เจ้าของมัน ยืนกอดอกจ้องมองเธอและเขา เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย รูปร่างสูงเพรียว ผมยาวสีน้ำตาล ดวงตาเรียว เธอสวมชุดราตรีเกาะอกสีขาว ผมถูกเกล้าเหนือศีรษะ ใบหน้าแต่งแต้มด้วยโทนสีพีช หญิงแปลกหน้า กวาดตามองดารันทั่วเรือนร่าง แล้วจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่
“นี่ใครคะ?”
โรฮานระบายลมหายใจ สีหน้าเหนื่อยอ่อน แต่เขาจำต้องตอบคำถาม
“ภรรยาของพี่เองแพร”
คนฟังหรี่ตามอง แล้วสบตาคนพูด กระตุกยิ้มมุมปาก
“คราวนี้ลงทุนมากไปหรือเปล่าคะพี่โรฮาน ถึงขนาดหาเมียมากัน ไม่ให้แพทยุ่งกับพี่” แพรพิชชายิ้มเยาะ
โรฮานชะงัก แล้วขบกรามแน่น “พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น”
แพรพิชชาจ้องมองไปยังผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างชายที่ตนหมายปอง แล้วยิ้มเหยียด
“รักกันนานแค่ไหนแล้วคะ ทำไมแพรไม่เห็นรู้เรื่องเลย ขนาดงานแต่งพี่ แพรยังไม่ได้ข่าวคราว มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอคะ!”
“ไม่แปลกหรอก” เขาบอก แล้วสบตาแพรพิชชา “เพราะพี่ไม่อยากให้แพรรู้”
คนฟังชะงักยิ้มเยาะ “แพรรู้ว่าพี่เบื่อแพร แต่ถึงยังไงแพรก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกค่ะ แค่หาเมียมาบังหน้า ไม่ได้ทำให้แพรหวั่นไหวหรอกนะคะ”
ดารันเหลือบมองเขา สีหน้าสับสน ตกลงมันอะไรกัน ผู้หญิงคนนี้คือใคร เขาสบตาแล้วยิ้มบางๆ
“คนนี้คือลูกพี่ลูกน้องของผม แพรพิชชา เรียกชื่อเล่นว่าแพรก็ได้ครับ” เขาอธิบาย
หญิงสาวหันไปทางลูกพี่ลูกน้องของเขา เห็นแววตาอีกฝ่ายไร้ซึ่งความเป็นมิตร แถมยังมองเธออย่างเหยียดหยาม ถ้าเดาไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้ คงคิดเกินเลยคำว่าพี่ไปสินะ
“ฉันชื่อดา...” เธอหยุดคำพูดเมื่อรู้สึกตัว “กานต์ติมา ยินดีที่ได้รู้จัก”
แพรพิชชาจ้องมองแล้วเหยียดยิ้ม “ฉันไม่ได้อยากรู้จักเธอ!”
ดารันชะงัก ชักมือกลับ แล้วระบายลมหายใจ ดูท่าความคิดของเธอคงถูก โรฮานทอดสายตามอง แล้วขบกราม ก่อนระบายลมหายใจ ดึงมือเธอมากุมไว้
“พี่ไปก่อนนะ” เขาบอก แล้วเดินหันหลัง ทว่ามือหนากลับถูกดึงออกจากมือบาง ร่างสูงใหญ่ถูกกระชากให้หันกลับมาเผชิญหน้า
ส่วนหญิงสาวอีกคนถูกผลักออกห่าง แพรพิชชาจ้องมองเขาแววตาปวดร้าว
“ทำไมพี่โรฮาน แพทอยากรู้ว่าทำไม!”
“พี่เคยบอกเหตุผลนั้นกับแพทแล้ว”
ลมหายใจเริ่มหนักขึ้น น้ำตาเอ่อคลอ แค่เห็นคนที่ตนรักจับมือกับผู้หญิงคนอื่น มันทำใจไม่ได้ ทำไมพี่โรฮานถึงไม่เลือกเธอ
“แล้วพี่จะต้องเสียใจที่ทำกับแพรแบบนี้!” เธอยอมปล่อยมือเขา ไม่วายตวัดสายตามองภรรยากำมะลอ เก็บความเจ็บช้ำไว้ในอก แล้วกระแทกส้นเท้าเดินหนีไป
ดารันมองตามแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหันมาสบตาเขา
“เหตุผลนี้ใช่ไหม คุณถึงอยากให้ฉันทำหน้าที่แทนกานต์!”
เขานิ่งไป ไม่เอ่ยคำใด
“เข้าไปในงานกันเถอะ” เขาตัดบท แล้วเดินนำ
“เดี๋ยวก่อน!” โรฮานชะงัก ร่างบางเดินมาเคียงข้าง “ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“ถ้างั้นผมเข้าไปรอด้านในนะ”
“ค่ะ” ดารันรับคำแล้วเดินออกมาด้านหลัง
เปิดประตูเข้าห้องน้ำ ทำธุระเรียบร้อยแล้วก้าวออกมา หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อเห็นใครบางคนกอดอกยืนจ้องมองอยู่ แพรพิชชาเหยียดยิ้ม แล้วจ้องมองไม่วางตา
“พี่โรฮานจ้างแกมาเท่าไหร่!”
คนถูกถามระบายลมหายใจ ไม่ได้รู้จักกันสักนิด แต่เรียกจิกแบบนี้ ดูก็รู้ว่าต้องการหาเรื่อง
“คุณถามอะไรฉันไม่เข้าใจ โรฮานเป็นสามีของฉัน” เธอตอบ แล้วพยายามเดินเลี่ยง แต่อีกคนกลับขวางไว้
“แกต้องตอบคำถามฉันก่อน ฉันไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น!”
ดารันกัดฟันชักสีหน้าไม่พอใจ
“ฉันไม่มีอะไรจะตอบ รู้ตัวหรือเปล่าว่าตอนนี้คุณกำลังละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอยู่!” ดารันย้อน แววตาไม่พอใจ เธอไม่เคยกลัวผู้หญิงแบบนี้อยู่แล้ว
“ไม่ต้องมายอกย้อน ตอบฉันมาว่าแกถูกพี่โรฮานจ้างมาเท่าไหร่!”
เธอกระตุกยิ้มมุมปาก “นี่คุณต้องการอะไร ถึงได้ถามคำถามแบบนี้กับฉัน ทั้งๆ ที่ฉันคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณโรฮาน ถ้าหากเราไม่รักกัน มีหรือเขาจะจดทะเบียนสมรสกับฉัน!”
แพรพิชชาดวงตาเบิกกว้าง คำพูดระคายหูทำเอาในอกอัดแน่นด้วยความขุ่นเคือง มือบางสั่นเทา
“กรี๊ด! แกโกหก ผู้หญิงอย่างแกพี่โรฮานไม่เอาทำเมียหรอก!”
“ทำหรือไม่ทำ ถ้าคุณอยากรู้ฉันพิสูจน์ให้ดูได้นะคะ ลองไปแอบใต้เตียงที่บ้านเราดูไหม คุณจะได้รู้ว่าโรฮานร้อนแรงแค่ไหน” เธอบอก แล้วเหยียดยิ้มจงใจให้อีกฝ่ายหัวเสีย