บทที่ 2
รถจอดตรงลานนกว้างของโรงแรม ดารันรีบวิ่งเข้าไปด้านใน เห็นบิดามารดาเจ้าสาวรออยู่ สองท่านพาเธอมายังห้องแต่งตัว ดารันถูกจับใส่ชุดเจ้าสาวเปิดไหล่ยาวคลุมเท้า ผมถูกรวบแล้วปล่อยปอยมาเคลียแก้ม ใบหน้าแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพู่อ่อน
“ขอบคุณมากนะรันที่ช่วยยัยกานต์ ไม่อย่างนั้นพ่อกับแม่แย่แน่ๆ พ่อกับแม่อยากไปดูยัยกานต์ที่โรงพยาบาลแต่เราสองคนก็ยังไปไม่ได้”
เธอรีบเอื้อมมือมากุมมือมารดาเพื่อนไว้
“พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ กานต์ปลอดภัยดีค่ะ”
“จ้ะ”
บิดาเพื่อนพาตัวเธอมายังหน้างานเพื่อรับรองแขก ตลอดเวลาเธอมีผ้าคลุมหน้าไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นชัด จังหวะเดียวกันนั้นเจ้าบ่าวเดินเข้ามาร่วมงาน ดารันตื่นตะลึงกับใบหน้าและรูปร่างของเขาจนแทบหยุดหายใจ
ใบหน้าคมเข้ม คิ้วหนา ดวงตาคมกริบ ริมฝีปากหนาได้รูป จมูกโด่งอย่างกับพระเอกหนัก นี่เขาหลุดออกมาจากโลกจินตนาการของสาวๆ หรือยังไง มิน่าล่ะ ยัยเพื่อนตัวดีถึงไม่ยอมล้มเลิกงานแต่ง ขนาดยอมให้เธอสวมรอยวิวาห์แทน
พอมายืนชิดได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพง ทำเอาหัวใจเต้นแรง เธอจะคิดอุตริไม่ได้เด็ดขาด นี่มันสามีเพื่อน แหม... แต่เขาก็ดันน่ากินเสียขนาดนี้ ทำเอาเธอคันยุบยิบในหัวใจ ขออยู่ใกล้ๆ ไม่กี่ชั่วโมงให้บริหารหัวใจ เล่นก่อนก็แล้วกัน โรฮาน เฟอร์ติโน่จ้องมองเจ้าสาวแล้วขมวดคิ้ว รู้สึกผิดปกติ โรฮานขยับเข้ามาชิด แล้วโน้มใบหน้าใกล้ใบหู
“ผมรู้เรื่องจากกานต์หมดแล้ว...”
ขนมันลุกเกรียวขึ้นมา น้ำเสียงช่างเซ็กซี่ขยี้ใจเสียเหลือเกิน ทำเอาหัวใจเธอเต้นแรง รัว ราวกับกลอง
“คือ... เอ่อ...” หญิงสาวอึกอัก ไม่รู้ควรเอ่ยอะไรดี
ดวงตาเจ้าบ่าวทอดมองใบหน้าเจ้าสาว ผ่านผ้าคลุมลูกไม้สีขาว ไม่เห็นชัดเท่าใดนักแต่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้นั้นสวยหวานสักเพียงใด
“เล่นตามผม งานจะได้ไม่ล่ม” เขาบอกเสียงเย็น
เธอเหลือบมอง เห็นสายตาเย็นชาของเขา ทำเอารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ทำยังไงดี หรือว่าเขากำลังโกรธ แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ต้องอดทนเอาไว้
มือบางถูกจับ แล้วเดินเข้าสู่พิธีการ ดารันเล่นตามบทบาทของตนเอง โดยมีเขาเป็นผู้นำ เธอไม่ปริปากออกมา นอกจากเขาผู้เดียวที่เป็นคนตอบคำถาม น่าแปลกที่เขาพูดภาษาไทยได้ชัด ขนาดเป็นชาวต่างชาติ แต่รู้มาว่ามารดาเจ้าบ่าวนั้นเป็นคนไทย
ราวสามชั่วโมงถัดมา ในห้องเหลือเพียงความเงียบงัน แขกเหรื่อในงานพากันไปหมดแล้ว ดารันกลืนน้ำลายลงคอ แล้วเหลือบมอง เขาลุกยืนแกะเนคไทออก แล้วจ้องมองมา
“คุณจะทำอะไรคะ!” ดารันร้องถาม
“ไปโรงพยาบาลน่ะสิถามได้ คิดว่าผมจะทำอะไรงั้นเหรอ” เขาเลิ่กคิ้วถาม แล้วจ้องลึกในดวงตา คนฟังกลืนน้ำลายลงคอ
“ปะ...เปล่าค่ะ” เธอรีบตอบ
เขากระตุกยิ้มมุมปาก “หรือคุณคิดว่าผมจะทำเรื่อง...
“ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้คิด!” ดารันรีบปฏิเสธทันควัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปตามตัวเพื่อนเธอกัน” เขาตัดบทแล้วเดินออกจากห้องไป
ดารันระบายลมหายใจ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ดูท่าจะเป็นของเพื่อน เลือกหยิบมาสักชุด แล้วสวมใส่ ก่อนก้าวออกจากห้อง อย่างไรเสีย ที่นี่และห้องนี้มันก็ไม่ใช่ที่ของเธออยู่แล้ว หญิงสาวลงมาด้านล่าง เห็นเขานั่งกอดอกรออยู่ ในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตพับแขน ปลดกระดุมด้านบนสองเม็ด ดารันกลืนน้ำลายลงคอ หัวใจเต้นตึกตัก เมื่อเห็นแผงอกผ่านสาบเสื้อ
“คุณพร้อมหรือยัง?” เขาถามเสียงทุ้ม
“พร้อมแล้วค่ะ!” ดารันรีบตอบ รู้สึกกระอักกระอ่วนพิกล
เขาลุกยืน แล้วเดินมาใกล้ ดารันพยายามระงับอาการตนเอง เพราะกลัวเขาล่วงรู้ว่าเธอกำลังคิดเช่นไร สามีเพื่อนกระชากใจเสียเหลือเกิน
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกัน”
ร่างบางก้าวตาม มาถึงรถซึ่งจอดเทียบอยู่ เขาเปิดประตูแทรกลงนั่งตรงเบาะหลัง ดารันตั้งใจเปิดประตูด้านหน้า
“ทำอะไร ทำไมไม่มานั่งด้วยกัน!” เขาส่งเสียง
คนฟังชะงักมือ แล้วเปิดประตูเบาะหลัง ทรุดกายลงเคียงข้าง แล้วแสร้งเมินมองทางอื่น แม้หัวใจหวั่นไหวแค่ไหนก็ตาม อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เธอกับเขาคงไม่ต้องพบกันแล้ว และสถานะคงกลายเป็นแค่คนรู้จักเท่านั้น
ดารันเดินนำไปยังห้องรักษาตัวทันทีที่ถึงโรงพยาบาล เปิดประตูเข้าด้านในเธอกลับต้องตกใจ เมื่อคนไข้ไม่ใช่เพื่อน ดารันปิดประตูจ้องมองเขา
“มีอะไรหรือเปล่า?” เขาถามสีหน้าสงสัย
“เอ่อคือ...” ดารันอึกอัก ก่อนล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ออกมา กดเบอร์ติดต่อ
คิ้วเข้มขมวดจ้องมองด้วยความไม่เข้าใจ
“เกิดอะไรขึ้น”
เมื่อโรฮานเห็นคนตรงหน้าไม่ตอบ เลยเปิดประตู พบว่าด้านในห้องไม่ใช่เจ้าสาวแต่เป็นคนอื่นแทน เขาปิดลงตามเดิม แล้วจ้องมองไปยังเจ้าสาวกำมะลอ
ดารันเหงื่อตก เพราะปลายสายไม่ยอมรับ ตกลงมันยังไงกันแน่ ทำไมเพื่อนถึงหายตัวไป
“กานต์หายไปไหน” ขายหนุ่มถาม แววตาไม่พอใจ
“ฉันไม่รู้ค่ะ คุณลองโทรหากานต์ได้ไหมคะ”
สีหน้าคนฟังเครียดขึ้น ตัดสินใจหยิบมือถือโทรหา ทว่าปลายสายกลับไม่มีสัญญาณตอบรับ เขาเก็บมือถือตามเดิม แล้วจ้องมองคนตรงหน้าไม่วางตา ดารันรู้ดี สามีเพื่อนไม่มีทางยอมแน่ จากสีหน้าท่าทางของเขา
“เดี๋ยวฉันไปถามพยาบาลก่อนนะคะ เผื่อเขาย้ายยัยกานต์ไปห้องอื่น!” หญิงสาวรีบบอก แล้วเร่งฝีเท้าไปยังหน้าเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์