02 รังแก
โรงเรียนของน้ำเพชร
ปึก!
"โอ้ย!" น้ำเพชรสะดุดกับของบางอย่างจนล้มลงกับพื้น หัวเข่าของเธอกระแทกลงบนฟุตบาทอย่างแรงจนเธอรู้สึกปวดจนยืนแทบไม่ไหว "เจ็บจัง"
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ดูสิวะคนอะไรซุ่มซ่ามชิบหาย ของมันก็วางของมันอยู่ดีๆ ไปเดินเตะมันได้" เพื่อนๆ ที่ยืนมองอยู่รอบๆ ต่างพากันหัวเราะเยาะโดยที่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเธอเลย รวมถึงนารายณ์ที่ยืนมองอยู่เขาเองก็หัวเราะไปกับคนพวกนั้นเหมือนกัน
"น้ำเพชร!" เหมือนเสียงสวรรค์เมื่อเพื่อนสนิทของน้ำเพชรปรากฏตัวขึ้น แล้วรีบเข้ามาช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นทันที "เจ็บมากมั้ย"
"เจ็บนิดหน่อยอะ ตรงหัวเข่า"
"เดี๋ยวเราพาไปห้องพยาบาล แล้วไปบอกครูด้วยว่าพวกนั้นรังแกเธออีกแล้ว"
"ไม่เป็นไรหรอก เราซุ่มซ่ามสะดุดล้มเอง อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลย" เธอเคยชินกับเรื่องพวกนี้ไปแล้ว บอกคุณครูไปก็เท่านั้นเพราะพวกนั้นก็ไม่ได้เข็ดหลาบหรือหยุดรังแกเธอเลย
"งั้นก็ไปทำแผลที่ห้องพยาบาลก่อน"
เพื่อนสนิทของน้ำเพชรพยุงเธอเดินไปที่ห้องพยาบาลทันที เพราะหัวเข่าของน้ำเพชรมีเลือดไหลออกมาเยอะพอสมควร
"น้ำเพชรเป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะพี่?" คนที่ดูแลอยู่ที่ห้องพยาบาลก็คือรุ่นพี่ม.6
"แค่หัวเข่าถลอกนะ หรือถ้าไม่แน่ใจก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีก็ได้"
"ขอบคุณมากๆ นะคะพี่" น้ำเพชรยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างนอบน้อม ตามประสาเด็กเรียบร้อยอย่างเธอ
"เฮ้อ...ทำไมเราถึงปล่อยให้พวกนั้นรังแกอยู่ได้ล่ะ"
"แล้วหนูจะไปสู้เขายังไงล่ะพี่ พี่ก็รู้ว่าหนูเป็นแบบไหน"
"พวกนั้นก็เกินคนจริงๆ รังแกได้แม้กระทั่งคนตาบอด สักวันมันจะตาบอดกันแล้วโดนคนอื่นรังแกบ้าง"
เพราะพวกนั้นเป็นลูกคนรวยมีฐานะทางสังคมพ่อแม่มีอิทธิพล เพราะต่อให้ทำอะไรไปพวกนั้นก็ไม่รู้สึกเข็ดหลาบหรือหยุดรังแกเธออยู่ดี
"....."
"เอ่อ...พี่ขอโทษนะน้ำเพชร พี่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เรารู้สึกไม่ดี พี่ก็แค่โมโหที่พวกนั้นจ้องแต่จะรังแกน้ำเพชรอย่างเดียว"
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"
"กลับบ้านไปก็อย่าลืมให้แม่ทำความสะอาดแผลด้วยล่ะ ตอนมาเรียนก็มาที่ห้องพยาบาลก็ได้เดี๋ยวพี่ทำแผลให้"
"แค่แผลถลอกไม่เป็นอะไรหรอกค่ะพี่ เดี๋ยวมันก็หาย"
"ถ้าอย่างนั้นหนูพาน้องเพชรไปเข้าเรียนก่อนนะคะ แล้วก็ขอบคุณพี่อีกครั้งด้วย"
"จ้ะ เดินกันดีๆ ล่ะ"
เพื่อนสนิทพยุงน้ำเพชรเดินออกมาจากห้องพยาบาล แล้วพากันไปเข้าเรียนตามปกติ
เพื่อนของน้ำเพชรคนนี้คอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง คอยนั่งอยู่ข้างๆ คอยอธิบาย แม้กระทั่งคอยเขียนรายงานให้กับน้ำเพชร
หรือเรียกง่ายๆ ว่าน้ำเพชรเป็นคนคิดขึ้นมาแล้วเพื่อนสนิทของเธอก็เป็นคนเขียนลงไปในกระดาษ
ทั้งสองคนนี้อยู่ด้วยกันมาและเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เข้ามัธยมต้นแล้ว
"ขอบคุณนะอันดาที่พาเราไปทำแผลห้องพยาบาล"
"อื้ม...เรียนกันเถอะเดี๋ยวอาจารย์ก็เข้ามาแล้ว"
"จ้ะ"
ทุกครั้งที่นั่งเรียนน้ำเพชรเธอจะนั่งหลับตาใช้สมาธิฟังเสียงของคุณครูแล้วจดจำคำพูดเหล่านั้นเอาไว้ในหัวสมองของเธอ จนบางครั้งเพื่อนคิดว่าน้ำเพชรเธอนั่งหลับในเวลาเรียน ตอนที่คุณครูเผลอชอบเอากระดาษปาใส่หัวเธอ
หนึ่งในนั้นก็มีนารายณ์อยู่ด้วย
____________________
"เข้าใจกันมั้ยคะทุกคนที่ครูอธิบายไป"
"เข้าใจค่ะ//เข้าใจครับ"
"โอเค ถ้าอย่างนั้นก็จดงานตามที่ครูบอกเลย แล้วเดี๋ยวครูจะกลับมาตรวจอีกที"
"ครับ//ค่ะ"
หลังจากที่คุณครูเดินออกจากห้องไปภายในห้องเรียนก็เริ่มเสียงดังขึ้น จะมีก็แต่น้ำเพชรและอันดาที่นั่งคุยกันอย่างเงียบๆ ตามประสาเพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยคุยกับใคร
"เรื่องผ่าตัดคุณหมอว่ายังไงบ้างน้ำเพชร"
"ยังไม่รู้เลยอ่ะ เห็นแม่บอกว่าจะไปคุยกับคุณหมออยู่ แต่เราคิดว่าถ้าไม่มีใครบริจาคก็ไม่เป็นไรหรอก"
"แล้วเธอจะยอมอยู่กับความมืดมิดแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลยหรอ เธอยังอายุน้อยอยู่เลยนะ"
"แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไงล่ะ เงินก็ไม่ได้มีมากมายที่จะไปรักษาต่างประเทศ"
"....."
ปึก!!
"โอ๊ะ!?" น้ำเพชรอุทานด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ก็มีของบางอย่างลอยมาโดนหัวของเธอ
อันดาก้มเก็บกระดาษที่ถูกปั้นเป็นก้อนขึ้นมา ก่อนจะหันหลังกลับไปมองเพื่อหาเจ้าของก้อนกระดาษนี้
"ใครเป็นคนปามา?"
"....." ทุกคนมองหน้าอันดาแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ราวกับว่ากระดาษก้อนนี้ไม่ได้มาจากกลุ่มของพวกเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหลังเธอ
อันดาไล่สายตามองไปรอบๆ ห้องเพื่อหาผู้ต้องสงสัย แต่ก็ไม่มีใครสะดุดตาเธอเลย เพราะแต่ละคนต่างก็นั่งคุยกันไปเรื่อย
แต่คนทำจริงๆ กลับนั่งนิ่งทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ นั่นก็คือนารายณ์
"ช่างมันเถอะอันดา"
"ฉันละเบื่อจริงๆ เลยพวกนี้เนี่ย"
"เอาน่า...เพื่อนคงอยากเล่นสนุกๆ แหละ" น้ำเพชรเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ตอนที่เธอยังปกติดีอยู่เธอก็ไม่ได้สร้างปัญหาหรือมีปัญหากับเพื่อนคนไหน เธอมักจะอยู่ของเธอเงียบๆ กับอันดา
ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็จะมีกลุ่มเพื่อนเป็นของตัวเอง ไม่มีใครสนใจไม่มีใครวุ่นวายหรือทำอะไรเธอ
แต่เธอก็ไม่รู้ทำไมหลังจากที่เธอตาบอดทุกคนจ้องแต่จะรังแกเธอ แล้วเธอก็ไม่เข้าใจว่ามันน่าสนุกตรงไหน มันน่าขำตรงไหน
"เดี๋ยววันนี้เราเดินเป็นเพื่อนกลับบ้านนะ"
"ไม่เป็นไร บ้านของเราสองคนอยู่ห่างกันจะตาย แถมไม่ได้กลับทางเดียวกันอีก"
"เธอยังเจ็บอยู่เลย ให้ฉันเดินไปส่งเถอะ"
"ขอบใจมากนะ"
"อื้ม..."
จะว่าไปถ้าไม่ได้อันดาคอยช่วยเหลือเธอก็คงลำบากเหมือนกัน ต่อให้เธอจะมีความเคยชินกับโรงเรียนมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะผิดพลาดไม่ได้
อันดากับแม่ของเธอก็เหมือนดวงตาคู่ที่สองที่คอยช่วยให้เธอมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัว
เรียกได้ว่าอันดาคือเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดคนนึงเลย
"เอาล่ะๆ เด็กๆ ทุกคน วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ ส่วนการบ้านครูจะให้ทุกคนทำแบบรายงานบนกระดานมานะ พรุ่งนี้เช้าก็เอามาส่งครูที่โต๊ะเหมือนเดิม"
"ครับ//ค่ะ"
"โอเคจ้ะ เลิกเรียนได้"