บทที่ 4 ไม่อยากจำ แต่กลับลืมไม่ลง
“อ้าวท่านประธานคนสวย วันนี้เข้าบริษัทไม่ใช่หรือคะ แล้วมีเวลาว่างมาเยี่ยมฉันได้ยังไง” ดาราสาวสวยเอ่ยแซวเพื่อนสนิทสาวสวยทันทีที่เห็นเพื่อนสาวยืนคุยอยู่กับผู้จัดการส่วนตัวของดาราหนุ่มรุ่นพี่ หลังจากถ่ายทำฉากเมื่อกี้เสร็จ มะลิก็สังเกตุเห็นเพื่อนสาวคนสวยของเธอเข้าทันที จึงได้เดินเข้ามาหา
“คิดถึงแกน่ะสิ อืม เสร็จยัง ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ หาเพื่อนช๊อปปิ้ง” มิ้น พิมลนาฎพอเห็นเพื่อนเข้ามาทักก็เดินเข้าไปกอดคอดาราสาว ด้วยความที่เธอตัวสูงกว่าจึงสามารถรวบร่างบางเข้ามาในอ้อมอกของตนได้ง่ายๆ
“อึ๋ย แกไม่ต้องกอดฉันก็ได้ แหม... เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิดกันพอดี” ยิ่งเธอไม่เคยมีแฟน เดี๋ยวคนอื่นเขาจะเข้าใจว่าเธอกับยัยเพื่อนสาวจอมมั่นเป็นแฟนกันเหมือนตอนสมัยมหาลัย แม้เพื่อนตัวแสบจะสวยจนเป็นดาวคณะแต่ก็ไม่สามารถกลบความเข้าใจผิดของคนอื่นได้ และนี่อะไรมาหาเธอทีไรถึงเนื้อถึงตัวตลอด
“แหม ก็มันคิดถึงนี่จ๊ะ แม่มะลิของมิ้น” ไม่ว่าเปล่ายิ่งกอดร่างบางของดาราสาวเพื่อนรักแน่นขึ้นไปอีกจนอีกฝ่ายต้องร้องเสียงดัง เรียกสายตาคนรอบๆให้หันมามอง เจ๊หวิวมองไปที่สองสาวก่อนที่จะขำออกมา เธอรู้จักทั้งสองสาวมานาน ภาพที่เธอเห็นนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกมากนัก
“ไม่ต้องมาทำรุ่มร่ามเลย ไปเหอะ ฉันว่างพอดี ไปที่ห้างแกใช่ปะ” มะลิพาตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของเพื่อนสาวก่อนที่จะทำหน้ายุ่ง แล้วเอ่ยชวนเพื่อนไปจากที่นี่ ก่อนที่คนอื่นจะเข้าใจผิดกันพอดี เดี๋ยวก็มีข่าวว่าเธอชอบผู้หญิงด้วยกันขึ้นมามันจะยุ่งกว่าตอนที่มีข่าวว่ามีผู้ชายมาตามจีบเธอ แค่นั้นเธอก็รู้สึกเบื่อจะแย่แล้ว สาวสวยพยักหน้าให้เพื่อนรัก
มะลิหันไปไหว้ลาทุกคนในกอง และสองสาวก็กล่าวลาเจ๊หวิวก่อนที่จะขอตัวออกจากกองไป พระเอกหนุ่มเดินมาทีหลัง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เขามองตามร่างบางสูงโปร่งที่เดินคู่ไปกับนางเอกสาวรุ่นน้องในวงการของตนด้วยสายตาที่แสดงความสนใจอย่างเปิดเผย จนเจ๊หวิวเอ่ยแซว
“ถามจริง สนใจน้องเค้าจริงๆใช่ไหมเนี่ย”
“ถ้าผมบอกเจ๊ว่าใช่ล่ะครับ เจ๊จะห้ามผมหรือเปล่า” ดาราหนุ่มเอ่ยถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“เจ๊ขอบอกไว้ก่อนเลย ว่าไม่มีทางสำเร็จ น้องมิ้นเกลียดความสัมพันธ์ฉันท์คนรักมากที่สุด ตั้งแต่พี่เห็นน้องมิ้นมา นางไม่เคยมีแฟน และไม่เคยควงใครมาก่อนเลยย่ะ ถึงแม้จะหล่อรวยล้นฟ้าขนาดไหน นางก็ไม่สนใจหรอก เจ๊เห็นมีแต่คนตามจีบ สุดท้ายก็ถอยทัพไปแทบทุกราย เพราะนางไม่แม้แต่จะคุยด้วย” เจ๊หวิวบอกพระเอกหนุ่มในสังกัด เพื่อให้ทำใจ หญิงสาวแสนสวยคนนี้ไม่เหมือนคนที่ผ่านๆมา ถึงแม้เขาจะอยากได้เธอมากขนาดไหน ถ้าเธอไม่เปิดใจรับเขา เขาก็ไม่มีทางเข้าถึงตัวเธอได้แน่นอน
ห้างสรรพสินค้าเอส สาขากรุงเทพฯ
สองสาวสวยคนนึงมีดีกรีเป็นดาราดัง อีกคนยังไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนาม แต่ความสวยระดับที่ว่าสามารถแซงนางเอกดังอย่างมะลิ มะลิลา ทองเกตุไปได้คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา ทันทีที่สองสาวก้าวเท้าเข้าไปในห้าง ออร่าความสวยก็จับทั้งสองสาวทันที ผู้คนต่างมองมาที่ทั้งคู่ด้วยความสนใจ
“นี่ ทำไมแกไม่ชวนนังเอกกี้มาด้วยอะ มาสองคนจะมีใครเข้าใจผิดอีกปะเนี่ย” นางเอกสาวถามเพื่อนขึ้น ขณะที่สายตามองไปรอบๆก็เห็นคนมองมา เธอก็แจกยิ้มไปตามประสาดาราดัง
“ชวนแล้วย่ะ นางเอกกี้มันไม่ว่าง ก็เลยต้องชวนแกมาไง จะให้มาช่วยเลือกชุดทำงานสักหน่อย ไปเถอะน่า เดี๋ยวก็โดนแฟนคลับรุมพอดี” สองสาวรีบจ้ำอ้าว เดินไปที่ช็อปจำหน่ายเสื้อผ้าสตรีอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เข้าไปด้านใน พนักงานในร้านต่างจำดาราสาวคนดังได้ จึงขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นต์ มิ้น พิมลนาฎเลยปลีกตัวเดินไปเลือกชุดทำงานอยู่ไม่ห่างกัน ดาราสาวพอแจกลายเซ็นต์กับถ่ายรูปคู่กับแฟนคลับไปแล้วก็ตรงไปช่วยเพื่อนเลือกชุดทำงาน สองคนคุยกันกระหนุงหระหนิง จนทำให้หลายๆคนเกิดชิปคนทั้งคู่ขึ้นมา ด้วยอีกคนจัดได้ว่าเป็นสาวหวานแต่ลุคส์ออกเท่ห์ๆ คูลๆ ดูสวยแบบน่าค้นหา ส่วนอีกคนก็สวยหวานแบบหยดย้อย
“แก อีกคนนั่นใช่ดาราหน้าใหม่ปะ หรือว่าเป็นนางแบบอะ นางดูสวยเท่ห์ยังไงก็ไม่รู้ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายยังอดมองนางไม่ได้เลย” ลูกค้าคนหนึ่งของร้านที่เข้ามาเลือกซื้อชุดทำงานเช่นกันเอ่ยขึ้นกับเพื่อน ทั้งสองยืนอยู่ไกลจากสองสาวพอสมควร
“สวยเท่ห์แบบนี้ น่าจะเป็นดาราหน้าใหม่แหละ ไม่งั้นคงไม่มากับน้องมะลิหรอก” เพื่อนสาวออกความเห็นก่อนที่จะหยิบเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปสองสาวที่ต่างสวยไปคนละแบบ
พอเลือกชุดได้แล้ว มิ้น พิมลนาฎก็ยื่นแบล็คการ์ดสีดำให้กับพนักงานในร้านจนพนักงานนั้นถึงกับตะลึง เพราะบัตรเครดิตสีนี้ มีแต่คนที่โครตรวยในประเทศเท่านั้นที่มีไว้ในครอบครอง
“ขอบคุณคุณผู้หญิงที่มาอุดหนุน หากมีโอกาสหวังว่าจะได้รับใช้อีกนะคะ” พนักงานขายสาวเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มแย้มที่ได้เจอลูกค้าเกรดดีเข้าแล้ว
“ขอบใจจ้ะ อีกหน่อยเราคงจะได้เจอกันบ่อยๆ” สาวสวยหน้าสวยหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะรับบัตรคืนมาหลังจากเซ็นต์ชื่อของตนเรียบร้อยแล้ว พนักงานสาวได้แต่ยืนงงจนกระทั่งสองสาวสวยเดินออกจากร้านไป จึงหยิบสลิปขึ้นมาดู พออ่านชื่อเท่านั้นแหละถึงเข้าใจคำว่า ‘อีกหน่อยเราคงจะได้เจอกันบ่อยๆ’ ขึ้นมาเดี๋ยวนี้ พิมลนาฎ เจริญยศ ท่านประธานคนใหม่ของห้างสรรพสินค้าเอส ห้างที่เธอทำงานอยู่นั่นเอง
สองสาวพากันเลือกซื้อของใช้บางส่วนที่ท่านประธานคนใหม่มีความจำเป็นต้องใช้และอยากได้(เฉยๆ)อย่างสนุกสนาน จนได้เวลามื้อเย็น สองสาวจึงพากันไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทั้งสองได้นัดให้เอกกี้ออกมาทานด้วยกัน ซึ่งชายหนุ่ม(ไม่แท้)คนเดียวของกลุ่มก็ไม่ปฎิเสธเพราะฟรี และทันทีที่สองสาวเดินเข้าไปด้านในของร้าน ซึ่งดาราสาวเป็นผู้โทรจองไว้ และรีเควสขอเป็นที่ส่วนตัวแต่สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ทางผู้จัดการร้านเลยจัดให้ตามคำขอ สายตาของบรรดาลูกค้าที่มานั่งอยู่ก่อนแล้วต่างก็มองมาที่สองสาวกับหนึ่งหนุ่มอย่างสนอกสนใจ และบังเอิญหนึ่งในนั้นมีโต๊ะของพระเอกหนุ่มกับครอบครัวที่พากันมาทานอาหารเย็นที่นี่เช่นเดียวกัน
“นั่นมะลิ มะลิลา ทองเกตุ นางเอกที่แสดงคู่กับลูก ใช่ไหมตาภพ” คุณพิมพาเอ่ยถามธนยศ บุตรชายที่ตอนนี้กำลังมองไปทางที่สองสาวเดินอยู่เช่นกัน
“อ่า เอ่อ ใช่ครับคุณแม่” น้ำเสียงตะกุกตะกัก เรียกสายตาสงสัยจากมารดาได้ไม่น้อย
“แล้วแม่หนูคนที่เดินมาด้วยกันนั่นล่ะ เป็นดาราหน้าใหม่หรอ สวยกว่านางเอกของลูกอีกนะน่ะ” คุณอลงกตเอ่ยถามบุตรชายบ้าง ก่อนที่จะสังเกตุอาการ ซึ่งมันแสดงออกว่าสนใจหญิงสาวคนที่เธอเพิ่งจะเอ่ยถามขึ้นมาทีหลังมากกว่านางเอกคู่ขวัญ
“นั่นเพื่อนน้องมะลิเขาน่ะครับ เห็นบอกว่าเพิ่งเรียนจบโทกลับมาจากเมืองนอก จะเข้ามารับช่วงต่อบริหารงานที่บริษัทของคุณแม่เธอ เธอเป็นทายาทคนเดียวของเครือเจริญยศน่ะครับ ก็ห้างที่คุณแม่ชอบไปเดินบ่อยๆนั่นแหละครับ” ดาราหนุ่มตอบบิดา ก่อนจะเลิกสนใจมองสองสาว เพราะกลัวจะถูกบิดาและมารดาจับได้ว่าแอบสนใจเจ้าหล่อนอยู่
“อ๋อ ลูกสาวคนเดียวของคุณหญิงนุชนาถนี่เอง ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันเลยนะ ไม่คิดเลยว่าคุณหญิงนุชนาถจะมีลูกสาวสวยซะขนาดนี้ ว่าแต่น้องเขามีแฟนหรือยังล่ะลูก” คุณพิมพาร้องอ๋อขึ้นทันที เธอและมารดาของหญิงสาวคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน แต่ก็ห่างกันไปหลังจากที่เธอต้องบินไปทำงานกับสามีที่ต่างประเทศถึง5ปี ซึ่งตอนนั้นลูกสาวของคุณหญิงนุชนาถและลูกชายของเธอยังคงเล็กๆอยู่
“เห็นบอกว่ายังไม่มีนะครับ ผมกลัวว่าเธอน่าจะเป็นโรคแอนตี้ผู้ชาย แล้วคุณแม่รู้จักคุณแม่ของเธอด้วยหรอครับ” ดาราหนุ่มตอบมารดาก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“อืม แม่เขากับแม่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเป็นสาวแล้ว แต่พอดีคุณพ่อของเราน่ะต้องไปเปิดสาขาใหม่ที่ยุโรป แม่เลยต้องย้ายตามคุณพ่อไปอยู่ฝรั่งเศสตั้ง5ปีเลยขาดการติดต่อไป กลับมาอีกทีเธอก็เลิกกับสามีเจ้าของบริษัทส่งออกของทะเลอบแห้งไปละ เห็นบอกว่าสามีมีชู้น่ะเลยฟ้องหย่า จะว่าไปคุณหญิงนุชนาถเธอก็เป็นผู้หญิงที่เก่งมากเลยแหละ บริหารงานได้ดีจนกลายเป็นคนกุมบังเหียนธุรกิจของเครือเจริญยศทั้งหมดในเวลาเพียงไม่นาน นี่ลูกสาวก็คงเดินตามรอยเท้าแม่อย่างแน่นอน ตายจริง สวย รวย เก่ง เพอร์เฟคอะไรขนาดนี้ แม่ว่าหัวบันไดบ้านของนุชนาถไม่แห้งอย่างแน่นอน” คุณพิมพาเล่าให้บุตรชายฟังด้วยน้ำเสียงชื่นชมอีกฝ่าย โดยที่ไม่รู้เลยว่าบุตรชายแอบเก็บข้อมูลของสาวสวยน่าค้นหา ที่ตนเองแอบสนใจได้จากมารดามาเยอะทีเดียว
ทางด้านพิมลนาฎกับเพื่อนสาวทั้งสอง พอสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศ และทางร้านได้ขอให้ทางดาราสาวช่วยโปรโมทให้กับทางร้านสักหน่อย โดยมื้อนี้ทางร้านได้มอบไวน์แดงให้กับโต๊ะของเธอเป็นค่าโปรโมท ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดอะไร
“แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ”
“เห้ย อะไร อะไร แกแอบถ่ายฉันหรอยัยมะลิ” เสียงหวานห้าวดังมาจากคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่กำลังทำหน้าฟินกับการจิบไวน์แดง บรรยากาศร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยายามเย็น ได้เห็นแสงสีและฟังดนตรีเบาๆทำให้สาวสวยรู้สึกผ่อนคลาย
“นิดหน่อยน่า มีเพื่อนสวยก็อยากจะอวดบ้างป่าววะ” มะลิเอ่ยขึ้น ก่อนจะจัดการโพสต์รูปของเธอและเพื่อนๆในไอจีส่วนตัว
IG MaliT
รูปสองสาวหนึ่งหนุ่ม(ไม่แท้)
รูปบรรยากาศรอบๆร้าน
รูปเซลฟี่ของเธอ
รูปเพื่อนสาวกำลังจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์
ถูกใจ 15,899 คน ThanayodP,Wiewwiewและอื่นๆ
MaliT วันนี้มาดินเนอร์กับสองเพื่อนซี้ @ร้านริมพระยา ร้านนี้อาหารอร่อยบรรยากาศดี ว่างๆหรือมีโอกาสมาแวะชิมกันได้ค่ะ ไม่เชื่อดูหน้าเพื่อนมะลิสิคะ;-) @MintP @Aekky
ความคิดเห็น 1535 รายการ
ใบปอ : ว้าวเพื่อนสวยจังเลยค่ะพี่มะลิ แต่พี่มะลิของหนูสวยที่สุด
โอม : สวยจังครับ เพื่อนมีแฟนหรือยัง
ป้างป้าง : ขอจองเพื่อนของน้องมะลิไว้ก่อนได้ไหมครับ
มะลิแฟนคลับ : ขอให้สนุกกับอาหารเย็นนะคะน้องมะลิ แต่ว่าเพื่อนหนูสวยจริงๆค่ะ
ThanayodP : หวังว่าเจอกันครั้งหน้าจะดีกว่าครั้งที่ผ่านมานะครับ
Wiewwiew : อะไรยังไง บอกใครจ๊ะน้องภพ @ThanayodP
Dada : อร๊ายอะไรยังไงคะพี่ภพ แอบคบพี่มะลิของเราหรือคะ
Phon : อะไรยังไง คนนี้ไม่ได้นะ กูจอง @ThanayodP
และก็มีความคิดเห็นอีกมากมายตามมาจนดาราสาวตามอ่านไม่ไหว เธอรู้สึกสงสัยว่าพี่ภพพระเอกของเธอนั้นตั้งใจจะบอกใคร เพราะถ้าบอกเธอนั้นเป็นไปไม่ได้แน่ๆ จนเธอแอบเงยหน้ามองเพื่อนสาวคนสวยที่ตอนนี้กำลังจัดการอาหารมื้อเย็นหลังจากพนักงานเริ่มทยอยนำอาหารมาเสิร์ฟให้โต๊ะเธอจนเกือบครบแล้ว ดาราสาวเลือกที่จะมองผ่านค่อยไปถามกับพระเอกหนุ่มเอาดีกว่าว่าตกลงมันคืออะไรกับข้อความที่เค้าทิ้งเอาไว้เล่นเอาแฟนคลับต่างพากันคิดไปไกล
หลังจากทานอาหารเสร็จสักพัก สาวสวยก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำจึงขอตัวเดินออกไปโดยไม่ขอให้เพื่อนไปเป็นเพื่อนเช่นเคย และทันทีที่มิ้น พิมลนาฎออกจากห้องน้ำมาก็ต้องเจอเข้ากับคนที่เธอไม่อยากเจอ นั่นก็คืออีตาดาราหนุ่ม คนที่ขโมยจูบแรกของเธอไปนั่นเอง สาวสวยทำเป็นมองไม่เห็นก่อนจะรีบจ้ำอ้าวเดินหนี แต่ไม่ทันไรข้อมือบางของตนก็ถูกเขาคว้าเอาไว้ จนร่างบางลอยเข้าไปประทะเข้ากับอกแกร่ง
“เอ๊ะ นี่คุณ จะทำอะไร ไม่กลัวเป็นข่าวหรือไง” มิ้น พิมลนาฎเอ่ยขึ้นก่อนจะมองซ้ายมองขวา ดีที่ตอนนี้ไม่มีใครมาเข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหลังของร้านที่แยกตัวออกไปไกลจากที่เธอนั่งทานอาหารอยู่พอสมควร
“ไม่กลัวหรอกครับ เอ... หรือว่าคุณกลัวที่จะต้องเป็นข่าวกับผม” ไม่พูดเปล่าใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้เธอจนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ
“ถอยไปนะ” เสียงหวานห้าวเอ่ยดังขึ้นพร้อมกับผลักเข้าไปที่อกหนาจนเขาเซถอยหลัง
“กลัวจะโดนผมจูบอีกหรือครับน้องมิ้นคนสวย” หน้าตาทะเล้นนี้มันทำให้เธอรู้สึกหมั่นไส้ชายหนุ่มตรงหน้า
“ชิส์ ฉันลืมมันไปแล้วย่ะ จูบห่วยๆแบบนั้นไม่ทำให้ฉันติดใจหรือนึกถึงหรอก” สาวมั่นเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ ทั้งที่ใจจริงของเธอนั้นมันไม่เคยลืมรสจูบของเขาเลยต่างหาก มันไม่อยากจำแต่กลับลืมมันไม่ลง พูดจบเธอก็รีบก้าวเร็วๆออกไปจากที่ตรงนี้ทันที ทิ้งดาราหนุ่มสุดหล่อให้ยืนหน้าเสียอยู่ลำพัง หึ จูบไม่ได้เรื่องอย่างนั้นหรอ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ‘มิ้น พิมลนาฎ เจริญยศ’ เขาคิดในใจก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตนเช่นกัน