รักนี้ใช้ละลายใจเธอ

“สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะ พอดีว่ามาหามะลิ มะลิลา ทองเกตุค่ะ วันนี้เธอมากองถ่ายไหมคะ” เสียงหวานเปร่งออกมาจากปากรูปกระจับของใบหน้าสวยหวาน ที่มีดวงตากลมโตซึ่งซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตากันแดดแบรนด์ดังสีน้ำตาลอ่อน เรียกความสนใจจากคนที่กำลังเดินเข้ากองละครได้เป็นอย่างดี ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มค่อยๆเงยหน้าจากสมาร์ทโฟนสุดหรูหันไปมองตามเสียงหวาน ก่อนจะตกตะลึงอยู่สักครู่ เขาลอบสังเกตุมองหญิงสาวตรงหน้า มีใบหน้าที่สวยหวาน อาจจะเพราะคิ้วโก่งสวย ดวงตากลมโตที่ซ่อนอยู่ใต้แว่น ขนตางอนเป็นแพ จมูกโด่งรั้น ปากบางเป็นกระจับสีชมพู ใบหน้ารูปไข่ มองยังไงก็จัดว่าเป็นคนที่สวยระดับดาราสาวบางคนยังอายเลยแหละ ‘เธอเป็นดาราหน้าใหม่หรอ ถ้าใช่แล้วทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นหน้าเธอล่ะ’ ขณะที่เขากำลังพินิจพิจารณาอยู่นั้นหญิงสาวตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ขอโทษนะคะ วันนี้มะลิ มะลิลา ทองเกตุมากองไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามซ้ำอีกรอบ ‘อีตาบ้าหน้าหล่อนี่จ้องอะไรฉันนักหนากันนะถามก็ไม่ตอบเอาแต่จ้องหน้ากันอยู่ได้ ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไงกัน’ เธอคิดในใจขณะที่เธอเองก็ลอบสำรวจใบหน้าหล่อเหลาของเขาเช่นกัน เธอเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก จึงไม่แปลกที่จะไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าคนนี้เป็นใคร

“ว่าไงคะ ว่าที่ท่านประธานคนสวย กลับมาจากเมืองนอกตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันก็นึกว่าจะไปเรียนจนติดใจหนุ่มตาน้ำข้าวจนลืมเพื่อนที่อยู่ทางนี้แล้ว” เสียงหวานดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของชายหนุ่มร่างสูง หญิงสาวหน้าหวานรีบโผเข้าไปกอดคนมาใหม่ทันทีด้วยความคิดถึง สองคนกอดกันอยู่สักพัก ก่อนที่คนมาใหม่จะหันไปทักทายชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ด้วยกัน

“อ้าว สวัสดีค่ะพี่ภพ เพิ่งมาหรอคะ แล้วนี่สองคนรู้จักกันหรอ” เสียงจากคนมาใหม่ทักชายหนุ่มที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนสาวของเธอ สองหนุ่มสาวส่ายหน้าพร้อมกันทันทีที่นางเอกสาวมะลิ มะลิลาเอ่ยถาม

“อ้อ..นี่เพื่อนของมะลิเองค่ะพี่ภพ ชื่อมิ้น พิมลนาฎ เจริญยศ เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ นางอาจจะไม่รู้จักพี่ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ เพราะในหัวนางมีแต่เรื่องงานกับเรื่องเงิน เลยไม่มีเวลาดูละคร” มะลิแนะนำและนินทาเพื่อนสนิทระยะเผาขนให้รุ่นพี่ในวงการ หรือพระเอกของละครเรื่องที่เธอกำลังถ่ายทำฟัง ภพ ธนยศ พงษ์พัฒน์ยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างสนใจ

“สวัสดีครับคุณพิมลนาฎ ผมภพ ธนยศครับ” ชายหนุ่มยื่นมือออกไปก่อนจะกล่าวทักทายหญิงสาวและแนะนำตนเอง

“เอ่อ..สวัสดีค่ะคุณธนยศ” หญิงสาวฉีกยิ้มหวานให้และยื่นมือออกไปจับทักทายเขาแบบสากลเช่นกัน ก่อนจะปล่อยมือและหันหน้าไปสนใจเพื่อนสนิทสาวสวยของตนต่อ

“เป็นไงบ้างที่รัก สบายดีใช่ไหม คิดถึงจังเลยเราไม่เจอกันมานานขนาดไหนแล้วเนี่ย” เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะที่มือบางทั้งสองข้างก็จับไปที่ใบหน้าหวานของดาราสาวอย่างมะลิให้หันซ้ายทีขวาทีราวกับสำรวจว่ามีอะไรเปลี่ยนไปตรงไหนบ้าง ธนยศเห็นว่าทั้งสองสาวมีเรื่องที่ต้องคุยกันจึงขอตัวไปเตรียมตัวด้านใน สองสาวโค้งศีรษะให้ก่อนจะหันไปสนใจกันต่อโดยไม่มีเขาอยู่ในสายตาอีกต่อไป

ดาราหนุ่มเดินเข้าไปในกองถ่ายก่อนที่จะไปนั่งลงบนโต๊ะที่ทางกองถ่ายเตรียมไว้ให้สำหรับนักแสดง เขาหยิบบทขึ้นมาพยายามจะที่จะทบทวน แต่ใบหน้าหวาน ดวงตากลมโตขนตางอนงามภายใต้แว่นตานั้นช่างทำให้จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายได้จนไม่มีสมาธิอ่านบทอีกต่อไป เขาละสายตาออกจากบทก่อนจะมองไปที่สองสาวที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาดไม่ห่างจากที่เขานั่งอยู่เท่าไหร่นัก

“คิดถึงแกจังเลยมิ้น ไปอยู่ต่างประเทศตั้ง 3 ปี แถมไม่ยอมบินกลับมาเยี่ยมกันด้วยนะ แล้วคุณหญิงแม่เธอรู้หรือยังว่าลูกสาวสุดที่รักกลับมาแล้ว” มะลิเอ่ยถามเพื่อนสนิทสาวสุดมั่นของเธออย่างตื่นเต้นหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานเกือบ3ปี ก่อนจะสำรวจใบหน้าหวาน ที่มีดวงตากลมโตและขนตางอนที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตาแบรนด์ดัง

“คิดถึงแกเหมือนกันแม่มะลิของฉัน อย่าลืมสิจ๊ะว่าฉันไปเรียนต่อและหาประสบการณ์เพื่อกลับมารับช่วงต่อของคุณหญิงแม่ เพราะฉะนั้นคุณหญิงแม่ก็ต้องรู้แน่นอนว่าฉันกลับมาแล้ว ฉันไปบ้านมาแล้วย่ะ ไม่งั้นจะรู้จากคุณป้าหรอว่าแกถ่ายละครอยู่ที่นี่” มิ้น หรือพิมลนาฎบอกเพื่อนออกไปก่อนจะจับมือทั้งสองข้างของดาราสาวเพื่อนรักมากุมไว้

“แล้วเป็นไง ไปอยู่ต่างประเทศมาตั้งสามปี แกมีคนที่ถูกใจบ้างยัง ไม่เห็นพามาให้ดูบ้างว่าผ่านหรือเปล่า” ดาราสาวถามเพื่อนสนิททั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เพื่อนสาวแสนสวยสุดมั่นของเธอจะมีแฟน เพราะมิ้น หรือพิมลนาฎคนนี้เป็นคนที่มีอคติในเรื่องความรักระหว่างชายหญิง เธอรู้ดีว่าสาเหตุมาจากอะไร เพราะเธอและมิ้นรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แม่ของทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักต่างวัยกัน โดยแม่ของเธออายุมากกว่าแม่ของมิ้นสามปี

“แกก็รู้ว่าฉันไม่สนใจ สายตาฉันมีไว้เพื่อแกคนเดียว” มิ้น พิมลนาฎแกล้งเพื่อนสาวก่อนจะปล่อยมือแล้วจับไปที่แก้มของดาราสาวเพื่อนรักแทน

“อึ๋ย...ยัยมิ้นทำอะไรน่ะ เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดหมด” มะลิรีบปัดมือของเพื่อนสนิทสาวแล้วรีบมองซ้ายมองขวา มิ้นชอบแกล้งเธอแบบนี้อยู่เรื่อย จนหนุ่มๆไม่กล้าเข้ามาจีบเธอตั้งแต่สมัยเรียนเพราะเพื่อนสนิทสาวสวยสุดมั่นคนนี้แหละ คอยแกล้งเธออยู่ตลอด เสียงหัวเราะใสกังวาน เรียกสายตาคมของคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลให้หันไปมองเห็นสองสาวกำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ราวกับยังเป็นเด็กเล็กๆอยู่ทั้งคู่ แต่ทำไมเขารู้สึกขัดหูขัดตาแปลกๆ

“มองอะไรคะคุณน้อง” เจ๊หวิวมองตามสายตาของพระเอกหนุ่มในสังกัดที่ตอนนี้กำลังมองไปที่สองสาวที่กำลังหยอกล้อกันอยู่

“สนใจหรอคะ ว่าแต่สนใจน้องมะลิหรือน้องมิ้นล่ะ” เจ๊หวิวแซวพระเอกหนุ่มเด็กในสังกัดของตนก่อนจะยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน ภพ ธนยศไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่ถ้าเขาได้สนใจอะไรหรือใคร เขาก็จะพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้มา

“สองคนนั้นเค้า เอ่อ... เป็นเพื่อนหรือแฟนกันครับ” ดาราหนุ่มถามผู้จัดการส่วนตัวของตนขึ้นมาด้วยความสงสัย ถ้าเป็นแฟนกันเขาคงจะเสียดายความสวยของอีกคนแย่ ส่วนอีกคนก็สวยสมกับเป็นดารา แต่เป็นความสวยแบบดาษดื่น คือเห็นได้ตามแบบฉบับดาราทั่วไป ต่างจากอีกคนที่ดูสวยจนน่าค้นหา

“โอ๊ย..... ไม่ใช่หรอกจ้า สองคนนั้นเค้าเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้วจ้ะ เจ๊เคยไปทาบทามน้องมิ้นให้มาเข้าวงการด้วยนะ แต่น้องมิ้นเค้าไม่ชอบเป็นที่สนใจ อีกอย่างน้องมิ้นน่าจะชอบเป็นนักบริหารมากกว่า แม่ของนางเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในไทยเลยล่ะจ้ะ เรียกได้ว่าเศรษฐินีเมืองไทยเลยก็ว่าได้ แต่คุณหญิงนุชนาถเธอเป็นซิงเกิ้ลมัมนะ เห็นว่าสามีมีชู้ตั้งแต่น้องมิ้นยังตัวเล็กๆอยู่เลย อาจจะเพราะเหตุนี้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่น้องมิ้นถึงไม่เคยชายตาแลผู้ชายคนไหนเลย จนป่านนี้พี่ไม่เคยเห็นน้องมิ้นควงผู้ชายเลยสักคน” เจ๊หวิวเล่าเรื่องราวของมิ้น พิมลนาฎให้นักแสดงหนุ่มในสังกัดฟัง เพราะเห็นท่าทีของเขาที่แสดงความสนใจในตัวเธอชัดเจนซะขนาดนี้

“ผมว่าเธออาจจะชอบผู้หญิงจริงๆก็ได้นะครับ” ภพ ธนยศพูดขณะที่สายตายังจับจ้องใบสวยหวาน คิ้วโก่ง ตากลมโต ขนตางอนเป็นแพ จมูกโด่งรั้นท่าทางดื้อดึง ปากสวยอมชมพูรูปกระจับของหญิงสาว เธอเป็นผู้หญิงที่สวยแบบหาตัวจับยากคนหนึ่ง ถ้ามาเป็นดาราอาจจะดังกว่าเพื่อนสาวอย่างมะลิเสียด้วยซ้ำ พระเอกดังได้แต่ส่ายหน้าไล่ความคิดของตนเองที่เอาแต่นึกถึงแต่หน้าเธอทั้งๆที่เพิ่งจะเจอกันได้ไม่นานแท้ๆ ก่อนจะก้มหน้าสนใจอ่านบทของตนต่อไปโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองทั้งสองสาวอีก

มิ้น หรือพิมลนาฎ เจริญยศ เป็นทายาทเพียงคนเดียวของคุณหญิงนุชนาถ เจริญยศ เศรษฐีนีของเมืองไทย ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศไทย เธอไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศด้านการบริหารเพิ่งจะเดินทางกลับมาได้เพียงสองวัน อยู่ๆก็เกิดคิดถึงเพื่อนสาวสุดที่รักที่ตอนนี้กำลังเป็นดาราดังอยู่ที่ช่องดังช่องหนึ่ง และจากการถามไถ่มารดาของเพื่อนรัก ก็ได้ความว่าวันนี้ดาราสาวมีถ่ายละครอยู่ที่นี่เธอจึงตรงมาหาด้วยความคิดถึง

“แล้วยังไง แกจะเริ่มเข้าไปทำงานเมื่อไหร่” เสียงหวานของดาราสาวเอ่ยถามเพื่อนสนิทคนสวยที่กำลังสนใจมือถือของตนเองอยู่ มิ้น พิมลนาฎเงยหน้ามองสบตากับเพื่อนรักก่อนจะส่งยิ้มหวานให้

“อีกสามวัน อืม พาฉันไปเที่ยวผับหน่อยสิ ไม่ได้เที่ยวกับพวกแกนานแล้วอะ อยากไปแดนซ์” มิ้น พิมลนาฎบอกกับเพื่อนสาวก่อนจะเอ่ยอ้อนชวนไปเที่ยวผับเป็นเพื่อนกัน เพราะเธอคบเพียงแค่ดาราสาวและเพื่อนอีกคนคือเอกกี้เท่านั้น ซึ่งเอกกี้นั้นเป็นผู้ชาย(หัวใจอ้อนแอ้น)เพียงคนเดียวในกลุ่ม

“ไม่ลองไปชวนเอกกี้ดูก่อนล่ะ แกก็รู้ว่าช่วงนี้ฉันขยับตัวไปไหนก็เป็นข่าวตลอด” เสียงหวานบ่นกระปอดกระแปด ช่วงนี้เธอมีข่าวแทบจะทุกวัน เพราะทายาทบริษัทนำเข้าและส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์คอยมาขายขนมจีบเธออยู่ และเขาก็เป็นเพื่อนกับภพ พระเอกหนุ่มสุดหล่อที่แสดงคู่กับเธอในละครเรื่องที่กำลังถ่ายทำนี้ด้วย

“อืม กำลังอ่านอยู่ ดาราสาวชื่อดังอักษรย่อ ม ถูกทายาทบริษัทนำเข้าส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์คอยส่งช่อดอกไม้และตามจีบแบบเปิดเผย...” อ่านมาถึงตรงนี้ก็โดนเพื่อนสาวแว้ดเสียงใส่

“อร๊าย แกหยุดอ่านเลยนะ ฉันเบื่อจะแย่ละ บอกว่าไม่ชอบยังตามจีบอยู่ได้ คนอะไรก็ไม่รู้หน้ามึนสิ้นดี ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนพี่ภพนะ ฉันไม่คุยด้วยหรอก” เสียงหวานแหวใส่เพื่อนสาวอย่างอดใจไว้ไม่ได้

“โอ๋ๆๆๆ ไม่เอา ไม่งอนเค้าน้าตัวเอง” พิมลนาฎเย้าแหย่เพื่อนเพื่อให้เธออารมณ์ดีขึ้นด้วยการทำหน้าตาตลกๆจนดาราสาวอดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้

“ไปก็ไป แต่ไปผับของพี่ภพนะ” ดาราสาวตัดสินใจจะพาเพื่อนสนิทไปเปิดหูเปิดตาหรือฉลองต้อนรับการกลับมาเยือนเมืองไทยที่ผับของภพ ธนยศพระเอกคนล่าสุดที่เธอร่วมงานด้วยนั่นเอง เพราะผับของภพ ธนยศนั้นค่อนข้างจะมีคลาส ส่วนมากนักเที่ยวจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงหรือเหล่าบรรดาไฮโซเท่านั้น มิ้น พิมลนาฎมองไปที่พระเอกหนุ่มรูปหล่อที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านบททำเป็นไม่สนใจสองสาวอยู่ทั้งที่จริงแล้ว เขาทั้งแอบมองและแอบฟังอยู่ตลอด