...รักนี้...อยู่ในใจ… บทที่2.....
“เห้...เธอนอนตรงนี้ไม่ได้นะ” ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาว ผมไม่ใช่คนใจดีหรอก แต่การปล่อยให้เธอนอนตากน้ำค้างอยู่ตรงนี้จนกว่าบรูโน่จะกลับมามันก็ดูเป็นการไร้น้ำใจเกินไปสักหน่อย
“อือ...” เธอคราง แล้วก็ขดตัวทำท่าจะนอนโดยไม่ยี่หระอากาศ
ผมถอนใจแรงๆ พยายามไม่คิดอกุศลทั้งที่ความจริงผมเริ่มรู้สึกหน่อยๆ ผมนั่งมองเธอในระยะที่ใกล้กว่าทุกครั้ง ผิวเธอสวยนวลเนียน ผิดกับผิวผู้หญิงต่างชาติที่ผมเคยนอนด้วย นั่นเป็นข้อดีข้อเดียวของเธอมั้งที่ทำให้ผมเริ่มสนใจเธอ ผมไล่สายตาลงต่ำๆ ลงไปเรื่อยๆ พยายามไม่คิดลึก แต่อดใจไม่ได้จริงๆ เลือดในตัวผมเริ่มอุ่นขึ้นนิดหน่อย ลมหายใจที่พ่นออกมาจากช่องจมูกก็เริ่มร้อนนิดๆ ผมขยับตัวระบายความอึดอัด เมื่อสายตาสะดุดที่โค้งสะโพกใต้กางเกงผ้ายืดเนื้อหนา ผู้หญิงตรงหน้าซ่อนทุกสิ่งที่ควรมีไว้ใต้เสื้อผ้าตัวใหญ่ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอมีทรวดทรงยวนตาไม่แพ้ผู้หญิงคนไหนเลย
ผมเม้มปากคิดทบทวนพักใหญ่ทีเดียว
ไม่เคยมีความคิดแบบนี้ในหัวมาก่อน ผมไม่เคยสิ้นคิดถึงขั้นต้องทำแบบนี้เลยนะ
คืนวันพระจันทร์แสนหวาน
กว่าจะแบกคนไม่มีสติมาถึงห้องของหล่อนได้ก็ทุลักทุเลไม่น้อย ผมคิดง่ายๆ แค่เปลือกนอก หล่อนผอมและตัวเล็กคงไม่หนักเท่าไหร่
พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างที่มองด้วยตาเปล่า ล้วนแต่ลวงตาทั้งสิ้น ผิวของหล่อนนุ่มนิ่ม รูปร่างกลมกลึงอวบอัดไปทั้งตัว แถมน้ำหนักมากกว่าที่คิดไว้หลายเท่า
“หลอกตาชัดๆ” ผมบ่นแล้วก็โยนหล่อนไว้บนเที่นอนเก่าๆ ที่มีชิ้นเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับ
“อืม...” หล่อนคราง แถมยังทรงตัวนั่ง ทำท่าจะถอดเสื้อตัวที่หล่อนสวมอยู่เสียด้วย
“จะ จะทำอะไร” ตัวผมร้อนวาบ ไอเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
“ร้อนค่ะ ธารขอถอดเสื้อนะคะ”
มือสั่นระริกชื้นไปด้วยไอเหงื่อยกขึ้นปาดเหงื่อเหนือหน้าผาก มองเสื้อตัวใหญ่ที่ถูกรูดออกไปทางศีรษะตาปรอย เสื้อตัวใหญ่ผ้ายืดนั่นผ่านลำคอและลาดไหล่ เหงื่อเม็ดเล็กๆ แข่งกันผุดซึมขึ้นที่เนินหน้าผากของผม เพียงแค่ชุดที่ร่นขึ้นผ่านเลยเนินทรวงอวบอิ่มขึ้นไป
ผมกลืนน้ำลายถี่ๆ ลูกกระเดือกวิ่งพล่านเพราะกลั้นลมหายใจแถมน้ำลายเหนียวหนืดยังไหลจ่ออยู่ที่คอหอย
เนินอวบตรงหน้าขาวอวบอิ่มจนตาพร่า ไม่ใช่เพราะความอวบอิ่มเท่านั้นหรอกที่สร้างปฏิกิริยาสุดมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้น ชุดชั้นในนั่นผ่านการใช้งานมานานจนเนื้อผ้าโปร่งบาง ปลายจะงอยถันสีระเรื่อชูชันแทบทะลุกรวยผ้าบางๆ นั่นชวนให้ดูดดื่มจนผมต้องรีบปรามตัวเองในใจ ผมไม่ใช่หนุ่มนักรักที่ริอ่านขึ้นสังเวียนครั้งแรกเมื่อไหร่ล่ะ สมรภูมิสวาทผมผ่านมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้ผมตื่นเต้นเท่าครั้งนี้เลยจริงๆ
ผมตัดสินใจหลุบเปลือกตาลงปิดภาพเย้ายวนที่ชวนให้เลือดกำเดากระฉูด ผมกลั้นใจรอเวลาที่แสนทรมานนี่จะสิ้นสุดลง...แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะหรี่เปลือกตาขึ้นมอง
“หึ!!”
หล่อนถอดเสื้อเสร็จแล้ว แถมยังนอนแผ่อล่างฉ่างอยู่ตรงหน้า กลางที่นอนเก่าๆ และมีแต่กลิ่นอับอยู่รอบตัว ผมจิปาก พยายามไม่มองเนินหน้าท้องราบเรียบกับโค้งสามเหลี่ยมนูนเด่นกึ่งกลางหน้าขา สติของผมกระจัดกระจาย และแล้ว...ผมก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิด...ผมควรไปจากที่นี่ รีบไปเสียก่อนที่จะสายเกินแก้
ผมโถมเข้าใส่หล่อน พร้อมกับตะโกนดังอื้ออึงในใจ พอกันที!! ผมไม่ควรเสียเวลากับเรื่องงี่เง่าพรรค์นี้อีกแล้ว
ผมตะโบมจูบฟัดเฟ้นเนินเนื้อนุ่มหยุ่น สัมผัสความอวบอิ่มที่ชวนให้น้ำลายสอแบบตะกรุมตะกราม
“อือ...เอะ อ๊ะ! อูยยยย”
ฉันครางเสียงหลงเพราะแรงดูดแรงๆ ที่ยอดอก เสียววาบถึงท้องน้อย เลยตัดสินใจห่อหัวไหล่ และกระถดตัวหนี แต่ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นไม่ได้หยุดลง มีใครบางคน ฟอนเฟ้นเนินอวบของฉัน จนฉันหัวหมุน ปลายนิ้วแข็งร้อนวนเวียนอยู่ที่หน้าขา เถลเข้ามาถึงกลางกลีบเกสร ใต้กางเกงชั้นในผ้านิ่ม ฉันครางฮือตัวอ่อนยวบลงทันที
ปลายลิ้นซุกซนนั่นปาดไล้ไปทั่วเนินทรวง สัมผัสผิวนวลของฉันด้วยปากและปลายลิ้น
ฉันยื่นมือออกไปหมายจะผลักไสใครบางคนที่คุกคามร่างกายของฉันอยู่
แต่มือนั่นกลับตวัดโอบรอบลำคอเขา พร้อมกับแอ่นร่างกายขึ้นสูงเพื่อให้ใครคนนั้นสัมผัสฉันได้เต็มที่