...รักนี้...อยู่ในใจ… บทที่2...
“ผู้หญิงโง่ๆ อย่างธาร แอบชอบคุณได้ยังไงนะ”
ผมหูผึ่ง ยกแก้วบรั่นดีค้างในอากาศ ผมฟังไม่ผิดนะ แม่นั่นเพิ่งสารภาพรักกับผมใช่ไหม ผมพยายามวางหน้าเฉยที่สุด รอเวลาให้บรูโน่ไปไกลสักนิด ผมเดินไปชะโงกหน้ามองด้านล่าง หลังได้ยินเสียงเครื่องยนต์ แสงไฟหน้ารถสาดไปที่ท้องถนน ผมกลั้นใจรอแทบหมดลมเลยทีเดียว ทันทีที่แสงไฟนั่น ค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตา
“พูดอีกทีสิ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะยัยบ๊อง” ผมก้มลงถามหล่อนเสียงกระซิบ
“หือ...” หล่อนพยายามยกศีรษะขึ้น
ผมจิปาก สอดมือช้อนใต้ท้ายทอยหล่อน ให้วงหน้าเล็กๆ นั่นมองสบตาผม
หล่อนปรือตามองผม มือเรียวเล็กยื่นมาแตะที่ปลายจมูกผมและค่อยๆ ลากลงไปตามสันจมูกช้าๆ
“ฝันแน่ๆ ธารไม่มีทางได้มองหน้าคุณในระยะใกล้แบบนี้อยู่แล้ว” หล่อนพึมพำด้วยเสียงหงุงหงิงและยิ้มบ่อยเกินไปแล้ว ผมจับมือหล่อนไว้ โน้มตัวเข้าไปใกล้อีกหน่อย
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ” ผมอารมณ์ดีอะไรนะ ผมถึงได้สนุกที่ได้หยอกเย้าหล่อนแบบนี้ ผมควรรำคาญหล่อนสิ ผมคิดมาตลอดว่าผู้หญิงคนนี้สกปรกนี่นะ ตัวหล่อนมีแต่กลิ่นคาว เท่าที่จำได้
ผมอนุโลมให้เพราะวันนี้ ผมไม่ได้กลิ่นน่ารังเกียจนั่นจากตัวของหล่อน ผู้หญิงคนนี้ทำงานทุกอย่างที่ได้เงิน ไม่เคยสวมเสื้อผ้าดีๆ ผมแน่ใจว่าหล่อนมีเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น หล่อนสวมประจำจนผมจำได้
“คุณเกลียดธาร”
เธอตอบผมเสียงแผ่ว หางเสียงสั่นจนผมจับกระแสความเสียใจที่แฝงอยู่ในคำตอบนั่นได้
“ไม่นะ” ผมตอบทันควัน แล้วก็รีบเม้มปากตนเอง
“ไม่ต้องปลอบใจธารหรอกค่ะ ธารรู้ ธารพยายามอยู่ให้ห่างคุณเอง” ความเศร้าในกระแสเสียงทำให้ผมสะท้อนใจ ผมทำอะไรลงไปนะ ผมทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกต่ำต้อยเพราะผมได้ยังไง
“อย่ารู้ดีน่า” ผมเผลอตวาดเพียงเพราะรู้สึกขัดใจที่คนตรงหน้ายอมถอยทั้งที่ยังไม่รู้ผลลัพธ์อะไรจากผมเลย
“ธารเปล่า ธารแค่ไม่อยากปวดใจ”
เธอตอบพร้อมกับเปลือกตาที่หลุบลง ผมเลยมีโอกาสได้เห็นครั้งแรก ขนตาเธอยาวและงอนจนผมนึกอยากสัมผัส ผมของเธอก็นุ่มนิ่ม แถมมีกลิ่นหอมมากเสียด้วย หากตัดเรื่องกลิ่นที่ผมเคยได้กลิ่นจากตัวเธอก่อนหน้านี้ก็พอรับได้เชียวแหละ
“เธอชอบฉันหรือไงยัยบ๊อง?” ผมถามซ้ำ
เธอปรือเปลือกตาขึ้นมองผม ยิ้มจนตาหยี “ค่ะ ธารชอบคุณมาก มากจนธารอยากเก็บคุณไว้ในนี้แค่คนเดียว”
มือเล็กๆ ตบอกข้างซ้ายดังปุๆ
“ฉันตัวใหญ่นะ เธอซ่อนฉันไว้ได้ไม่หมดทั้งตัวหรอก”
ไม่เคยคิดเหมือนกันเวลาที่คนปากแข็งยอมเผยความในใจจะน่าฟังได้เท่านี้
“เพราะธารทำไม่ได้ไงคะ คุณเลยหว่านเสน่ห์ไปทั่ว” เสียงเธอแง่งอน เหมือนกำลังหึงหรือหวงผมสุดจิต
“เธอไม่ชอบเหรอไง”
เธอปรือตามองหน้าผม พร้อมกับยกนิ้วชี้หน้าผม “คนเจ้าชู้ ธารชอบคุณได้ไงก็ไม่รู้” เธอต่อว่าผมเสียงหงุงหงิงผมกลับไม่รู้สึกไม่พอใจ แม้คำพูดของเธอจะต่อว่าผมก็ตาม
“เธออยากให้ฉันชอบเธอไหมล่ะ” ผมถามกลับ
“ไม่ค่ะ ธารรู้ตัวดี ธารไม่คู่ควรกับคุณหรอก” ผมไม่เข้าใจสักนิด เธอแอบชอบผม แต่กลับไม่ต้องการครอบครอง แบบนั้นผมจะรู้ได้ยังไงล่ะ
“ทำไมล่ะ” ผมอดที่จะถามเธอไม่ได้
“ธารจนนี่คะ ธารไม่มีอะไรคู่ควรกับคุณเลย”
หากเป็นเมื่อก่อนผมคงยิ้มสมเพชเธอแหละ แต่เพราะมันไม่ใช่เมื่อวันก่อนไง วันนี้ผู้หญิงคนนี้อยู่ตรงหน้าผม และความรู้สึกชิงชังในใจของผมกลับไม่เหมือนเดิม
“ถ้าเธอเลิกทำตัวเห่ยๆ บางทีฉันอาจจะสนใจเธอก็ได้นะ” ผมยอมให้ได้เท่านี้แหละ มากกว่านี้คนรอบตัวผมจะแปลกใจเปล่าๆ
“ไม่ต้องมาปลอบใจธารหรอกค่ะ ธารรู้ตัวดี ธารไม่สวยเหมือนผู้หญิงที่คุณควงหรอก” นั่น เปิดโอกาสให้ขนาดนี้หล่อนก็ไม่ยอมสู้
“ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงสวยนะ” ผมพยายามโน้มน้าว
“ธารง่วงจังคะ หากธารตื่น ธารคงไม่ได้มองคุณใกล้ๆ แบบนี้อีก” ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้ม ผมนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ และกำลังคุยกับเธอโดยไม่ได้แขวะอะไรเธอครั้งแรก เธอกลับเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแค่...ความฝัน
คงเป็นเพราะครั้งนี้เธอไม่ได้มีกลิ่นที่น่ารังเกียจมั้ง
เปลือกตาเธอปรือ ทำท่าจะหลับ