บทที่ 2 แม่สาวเปรี้ยวซ่า
ฟ้า หรือฟ้ารุ่ง ในวัยยี่สิบสี่ขวบปี เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกแม่ทอดทิ้งไว้ในโรงพยาบาลตั้งแต่แบเบาะ พี่เลี้ยงที่ดูแลเธออยู่ในสถานสงเคราะห์จนเติบใหญ่ได้บอกว่า แม่คลอดเธอทิ้งไว้ในโรงพยาบาลแล้วหนีหายไปเลย และเธอก็มีหน้าตาที่น่ารักน่าชังเป็นเด็กหญิงลูกครึ่ง ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครึ่งกับฝรั่งชาติใด แต่เธอเป็นขวัญใจของพี่เลี้ยงทุกคนในสถานสงเคราะห์แห่งนั้น จนกระทั่ง เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่หก เธอจึงได้ออกมาหางานทำกับเพื่อนสนิทที่มาจากสถานสงเคราะห์ด้วยกันก็คือกระต่ายนั่นเอง
ฟ้ารุ่งดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง ตั้งแต่เป็นสาวโรงงานยันเด็กเสิร์ฟ กลางวันทำงานโรงงานกลางคืนไปเป็นเด็กเสิร์ฟในผับแห่งหนึ่ง และด้วยความที่เธอเป็นคนหน้าตาดี สนุกสนานร่าเริงหัวไวเข้ากับใครได้ง่าย เธอจึงไปถูกตาต้องใจกับดีเจชายในผับนั้น ดีเจหนุ่มเฝ้าตามจีบจนฟ้ารุ่งหลงในคารมยอมตกลงเป็นแฟนให้ดีเจหนุ่มสอนสแครชแผ่นอยู่ด้วยกันไม่ถึงปี ลายเจ้าชู้ก็ทำงาน จนเธอทนไม่ไหวต้องขอเลิกราแล้วขนของย้ายมาเช่าบ้านใหม่กับเพื่อนในวันนี้
โชคดีอยู่บ้างที่เธอได้เรียนรู้การเป็นดีเจมาจากแฟนเก่า อีกทั้งหน้าตาและทรวดทรงที่เรียกได้ว่า เรียกแขก ของเธอจึงทำให้เธอได้งานเป็นดีเจในผับที่ใหม่ได้ง่าย ๆ จึงไม่ลำบากอะไรเมื่อต้องเลิกกับแฟนเก่า เพียงแต่ความเจ็บปวดกับรักครั้งแรกยังคงฝังอยู่ในใจเท่านั้นเอง ทำให้เธอเข็ดผู้ชายเจ้าชู้ไปเลย
“ อุ๊ยตาย ! แกไอ้ฟ้า นี่คนรึเปล่าวะหล่อฉิบหายเลย ” กระต่ายกระตุกมือฟ้ารุ่งเบา ๆ แล้วกระซิบบอกเธอด้วยความตื่นเต้นเมื่อเดินเข้าใกล้ซุ้มกาแฟจนมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าของร้านได้ชัดเจน
ฟ้ารุ่งมองตามสายตาของเพื่อนสาวไป และเห็นด้วยกับคำพูดของกระต่าย เมื่อเห็นใบหน้าหล่อคมเข้มของบดินทร์ เธอยืนนิ่งมองคิ้วหนาที่พาดอยู่บนดวงตาคมสีนิลล้อมกรอบไว้ด้วยแพขนตางอนงามราวกับผู้หญิง จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากได้รูป และแนวกรามที่แข็งแรงไร้หนวดเคราสะอาดสะอ้าน เธอมองไล่ลงมาที่แผงอกกว้างที่หนั่นแน่นด้วยมัดกล้ามภายใต้เสื้อยืดสีขาว
“ โอว นี่แหละพ่อของลูกฉัน ” ฟ้ารุ่งหันไปพูดเล่นกับกระต่ายแล้วยิ้มพราวทำนัยน์ตาชวนฝันให้เพื่อนขบขันเล่น
“ งั้นแกกับฉันก็ต้องมีผัวคนเดียวกันแล้วล่ะงานนี้ ฮ่า ๆ ๆ ” กระต่ายพูดตอบเธอแล้วหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
เสียงหัวเราะของเธอกับเพื่อนทำให้คนที่กำลังนั่งดูรายการทำอาหารในโทรศัพท์มือถือเงยหน้าขึ้นมามอง คิ้วเข้มของเขาขมวดเข้าหากันพลางคิดในใจ
“ เป็นสาวเป็นนางมายืนหัวร่อต่อกระซิกระริกระรี้ เฮ้อ สาว ๆ สมัยนี้ไม่มีความเป็นกุลสตรี แล้วดูแต่งตัวเข้าสิไม่รักนวลบ้างเลย ” ตาคู่คมกวาดมองเรือนร่างของฟ้ารุ่งภายใต้เสื้อยืดแขนกุดรัดรูปคอวีเว้าลึกจนเห็นเนินอกแถมยังสั้นเต่อจนมองเห็นแผ่นท้องขาวเนียนอย่างไม่ชอบใจ ถึงแม้ความรู้สึกภายในลึก ๆ จะแอบใจเต้นกับความเย้ายวนตรงหน้าก็เถอะ
ด้วยความเป็นสาวลูกครึ่งทำให้เธอมีทรวดทรงที่อวบอัด อกใหญ่เอวเล็กสะโพกผาย บั้นท้ายงอนงามซ่อนอยู่ในกางเกงยีนขาสั้นเลยหัวเข่าขึ้นไปเป็นคืบ โชว์เรียวขาขาวผ่องเป็นยองใย ชายอื่นเห็นเป็นต้องกลืนน้ำลายมองเหลียวหลัง
ทว่าไม่ใช่กับบดินทร์ เขากลับมองว่าเป็นผู้หญิงควรรักนวลสงวนตัว ขาขาว ๆ หรือทรวงอกอวบและสิ่งสงวนของผู้หญิงควรเก็บไว้ให้สามีเชยชมแต่เพียงผู้เดียว เขานี่มันหัวโบราณเต็มขั้นโดยแท้ โดยไม่คิดเลยว่านี่มันยุคสมัยไหนแล้วพ่อคุณ
“ รับอะไรดีครับ ” บดินทร์ถามเสียงเรียบเมื่อสองสาวเดินเข้ามาถึงหน้าร้านของตน
“ แล้วมีอะไรดี ๆ จะแนะนำมั้ยละคะ ” กระต่ายถามเขาแล้วส่งสายตาหวานเยิ้มให้ทันที
“ ก็ดีหมดทุกอย่างครับ จะรับเป็นกาแฟหรือน้ำปั่นดี นี่ครับเมนูเชิญเลือกดูก่อนครับ ” ชายหนุ่มส่งแผ่นพับเมนูให้กับกระต่ายรับไปอ่านพลางนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ทรงสูงที่จัดวางไว้ที่หน้าซุ้ม ร้านของบดินทร์เป็นเพียงซุ้มขายกาแฟที่ซื้อใส่แก้วไปกินที่บ้าน ไม่ใช่คาเฟ่ที่มีโต๊ะให้ลูกค้ามานั่งชิลในร้านเพราะเขาไม่ชอบความวุ่นวายยุ่งยากมากเกินไปนั่นเอง
“ รวมถึงเจ้าของร้านด้วยรึเปล่าคะที่บอกว่าดีหมดทุกอย่างน่ะ ” ฟ้ารุ่งแซวยิ้ม ๆ
“ แน่นอนครับแต่ว่าผมขายแต่เครื่องดื่มไม่ได้ขายขนมจีบนะ ” บดินทร์พูดเรียบ ๆ แต่น้ำเสียงฟังดูเชือดเฉือนมีความไว้ตัวอยู่ในที มองสองสาวด้วยหางตาจนฟ้ารุ่งเริ่มจะหมั่นไส้ขึ้นซะแล้วสิ
“ หึ หึ หล่อแล้วหยิ่งรึ จะซักแค่ไหนกันเชียวคอยดูละกัน ” หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วคิดในใจอย่างหมายมาด
