บท
ตั้งค่า

ฝันซ้ำๆ ของจาคอป

ติ๊ง!! เสียงลิฟต์ที่สองหนุ่มกำลังยืนรอเลื่อนเปิดออก ภายในช่องสี่เหลี่ยมนั้นว่างเปล่า จาคอปเดินนำเข้าไปก่อนตามด้วยรติกาล จาคอปกดชั้นสี่แล้วปล่อยให้ประตูค่อยๆ ปิด

“เดี๋ยวนะตอนนายอาบน้ำเสร็จงั้นเหรอแล้วจีนส์เข้าไปห้องนายตอนไหน”

“ก็ตอนฉันอาบน้ำเสร็จพอฉันเปิดประตูให้เธอฉันเดินไปเปิดแอร์แล้วเหลือบเห็นจี้สร้อยมันเปล่งแสงพอดีกับตอนได้ยินเสียงหวานๆ ของช่างซ่อมทีวีสาวนั่นแหละ”

“แล้วตอนแรกล่ะมีใครอยู่กับนายหรือเปล่า หมายถึง...ตอนนายเข้าลิฟต์”

“ก็คุณจีนส์อีกนั่นแหละเธอเดินมาขวางประตูลิฟต์แล้วเดินเข้ามา”

“แล้วมันมีสัญญาณเตือนอะไรก่อนมันเรืองแสงหรือเปล่า” รติกาลถามต่อ

“มันสั่นซึ่งมันไม่เคยสั่นเลยตั้งแต่หลังฉันเกิดและอยู่กับฉันมา ตลอดระยะเวลาหลายร้อยปีมันเพิ่งสั่นอีกครั้งนี่แหละ คุณแม่บอกว่าเพราะมันเคยสั่นตอนคุณแม่คลอดฉันคุณยายทวดจึงยกมันให้กับฉัน

“แล้วจากนั้นล่ะ” ติ๊ง! เมื่อลิฟต์ถึงชั้นสี่ทั้งคู่ก็ก้าวออกพร้อมกัน

“พอเธอเข้ามามันสั่นแรงขึ้นน่ะ แล้วแสงก็เริ่มสว่างขึ้น” จาคอปเล่าต่อในขณะที่ทั้งสองคนหยุดยืนอยู่หน้าลิฟต์

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ” รติกาลถามอีก

“แสงมันค่อยๆ ลดลงตอนฉันเดินออกจากลิฟต์”

“คุณจีนส์ เธอเดินตามนายหรือเปล่า”

“โห..ถามเยอะนะเนี่ย คิดออกหรือยังล่ะ คำถามนายกินเวลาไปเยอะแล้วนะ”

“เออน่า..ตอบๆ มาเถอะพวก”

“โอเคไม่ เธอไม่ได้เดินตามฉัน ฉันเจอคุณจีนส์อีกทีก็ตอนเธอไปเสียบปลั๊กทีวีให้”

“แผนสูงนะนายอ่ะหลอกสาวขึ้นห้องด้วย”

“ไม่ใช่เว่ยตกลงมันยังไง นายคิดออกบ้างหรือยัง”

“เดี๋ยวสิฉันขอคิดก่อน อืม” รติกาลยืนนิ่งคิดอยู่สักพักก็ยกกำปั้นขึ้นแล้วทุบมันลงบนฝ่ามือตนเอง

“ห๊ะๆ นายรู้แล้วเหรอ”

ท่าทีของจาคอปกระตือรือร้นทั้งลุ้นระทึกกับคำตอบที่จะได้ยินแต่รติกาลกลับส่ายหน้ายิ้มให้น้องบุญธรรม

“ยังเลยว่ะ”

“อ้าว โธ่นี่นายแกล้งฉันเหรอ” หัวใจของเขาห่อเหี่ยวลงทันที

“อือ” รติกาลตอบสั้นๆ แต่ทว่ามันได้ใจความ

จาคอปยืนจ้องหน้าพี่ชายกลอกตามองบนเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้นอกจากยกแขนเท้าสะเอวแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เอาน่า แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะมีบางอย่างเกี่ยวกับคุณจีนส์นะ แต่ยังไงซะฉันก็ยืนยันอะไรไม่ได้ ตำราเวทมนตร์หรือบันทึกปีศาจเกี่ยวกับวัตถุโบราณก็อยู่ที่คุณพ่อ แล้วก็ไม่รู้มันจะมีบันทึกเกี่ยวกับพวกเครื่องรางพ่อมดแม่มดหรือเปล่าว่าแต่นายถามคุณแม่มารีแอนหรือยังล่ะ”

“ถามแล้วนะ คุณแม่บอกว่าต้องไปถามคุณยายทวดก่อน ท่านบอกว่าที่คุณยายทวดน่าจะมีบันทึก”

“อ๋อ ถ้างั้นก็รอคุณแม่มารีแอน ไปพักผ่อนเถอะเดี๋ยวสี่โมงยี่สิบฉันไปเรียกที่ห้องพักนาย”

“โอเค” แล้วทั้งสองหนุ่มต่างก็แยกย้ายกลับห้องใครห้องมัน

สี่โมงครึ่งสองหนุ่มเดินตามหลังกันไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดิน ประจวบเหมาะกับจีนส์ขับรถเข้าเทียบรถของญาดาที่จอดอยู่ เมื่อเธอเปิดประตูก้าวเท้าลง จาคอปกับรติกาลก็เดินถึงตรงนั้นพอดี

“อ่าวคุณจีนส์สวัสดียามเย็นครับเพิ่งมาถึงเหรอครับ” รติกาลร้องทัก

“ค่ะคุณกาลสวัสดียามเย็นค่ะ” เธอทักทายเขาโดยไม่ได้สังเกตคนที่ยืนอยู่ข้างๆ จาคอปกระทุ้งขอบเอวรติกาลด้วยศอก

“เอ่อ คุณจีนส์ครับคนนี้น้องชายผมชื่อคอปเตอร์ครับ”

จาคอปหันไปมองค้อนให้รติกาลที่เอาชื่อสมัยเด็กมาเรียกต่อหน้าสาว จีนส์หันมามองเขาแล้วชักสีหน้า

“คุณจีนส์คงเจอเขาแล้วมั้งครับเมื่อคืน” จาคอปกระทุ้งเอวรติกาลอีกครั้งเธอมองหน้าจาคอปอย่างโกรธเคืองที่โดนล่วงเกิน

“จีนส์ไม่ยักรู้ว่าคุณกาลมีน้องชายด้วยหน้าตาก็ดูไม่เหมือนกันเลยนะคะ” เธอพูด

“อ๋อคนนี้เขาถูกพ่อผมเก็บมาเลี้ยงน่ะครับ”

“โหว..นี่...คุณพี่คร้าบผมอายนะ” จาคอปพูดอย่างหมดหนทาง จนรติกาลหัวเราะร่าขำในท่าทีของน้องชาย

“อ่ะเอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณจีนส์”

จีนส์มองเขาตาเขียวปั๊ดทำเอาจาคอปหุบยิ้มแทบไม่ทัน รติกาลที่เห็นทุกอย่างได้แต่แอบหัวเราะท่าทีของจาคอป

“พวกเราขอตัวก่อนนะครับต้องรีบไปรับญาดา”

“อ๋อเชิญค่ะ”

ตึง!

หลังปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ จาคอปนั่งหน้าจ๋อยขณะคาดเข็มขัดนิรภัยเหตุเพราะจีนส์ไม่มีท่าทีจะหายโกรธและให้อภัยเขาเลย เขารู้สึกเจ็บจี๊ดในใจอย่างบอกไม่ถูกมันจุกอยู่ในอกอย่างกับคนอกหัก

“เอาน่าเดี๋ยวก็ดีเองแหละ” รติกาลปลอบใจขณะสตาร์ทรถแล้วถอยออกจากที่จอดเพื่อไปรับญาดา

บรื้นๆๆ

จาคอปเช็กสภาพเครื่องยนต์รถฮาร์เล่ย์ของเขาในโรงจอดรถที่บ้านพี่บุญธรรม ชายหนุ่มซื้อมันทิ้งเอาไว้แล้วฝากรติกาลดูแล ซึ่งรติกาลก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง

บี๊บๆๆ

ชายหนุ่มบีบแตรให้คู่รักที่ยืนอยู่หน้าบ้านบอกให้รู้ว่าตนเองต้องไปแล้ว รติกาลโบกมือลาแล้วจาคอปก็ขับรถออกเพื่อกลับไปยังที่พักของตน

ระหว่างทางชายหนุ่มขับรถกินลมชมวิวในยามเย็นของประเทศที่เขาคิดถึงภูมิลำเนาที่เคยอาศัยอยู่เมื่อวัยเด็กกับรติกาลก่อนย้ายไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดตอนโต ทั้งเรียนหนังสือทำงานและบริหารจัดการดูแลปกครองคนในกลุ่มเครือธุรกิจต่างๆ ในอเมริกา ชายหนุ่มรู้สึกคิดถึงบ้านที่นี่มากเขาชื่นชมธรรมชาติของเมืองร้อนอย่างเพลิดเพลินในอารมณ์ก่อนที่จะเข้าโรงแรม

จาคอปขับรถเล่นไปเรื่อยๆ สูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด จังหวัดที่เขามานั้น มันไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ บรรยากาศรอบๆ ข้างทางก่อนเข้าเมืองยังคงมีทุ่งนาล้อมรอบทั้งสองข้างทาง พื้นที่โดยรอบปูด้วยหญ้ากินอาณาบริเวณกว้างจากริมถนนเข้าไปในที่ดินผืนใหญ่ ต้นไม้เป็นหย่อมๆ ยังเขียวขจีและยังคงมีต้นตาลยืนต้นอยู่ตามเทือกสวนไร่นา

แสงแดดอ่อนยามพระอาทิตย์เริ่มใกล้ถึงเวลาลับขอบฟ้าสายลมเย็นกระทบใบหน้าทิวไม้เริ่มพาดเงาดำทะมึนลงตามข้างทาง

‘รู้สึกดีจัง เป็นชนบทที่ถนนโล่งดี’

จาคอปปล่อยมือออกจากแฮนด์จับฮาร์เลย์ กางแขนทั้งสองข้างออกเพื่อรับลมเย็นๆ ความรู้สึกเป็นอิสระเหมือนกำลังโบยบินอยู่ในอากาศนั้นมันดีจริง ชายหนุ่มมาเมืองไทยเพื่อพักผ่อนเขาจึงไม่มีอะไรให้รีบร้อนอยู่แล้ว แว็บหนึ่งจาคอปก็ครุ่นคิดเรื่องของจีนส์ว่าจะเอายังไงดีชายหนุ่มคิดว่าถ้ารีบย้ายออกอาจไม่มีโอกาสได้เจอเธอและหญิงสาวคงโกรธเคืองตนอยู่เช่นนั้น

‘เราต้องง้อหรือเปล่า หรือต้องย้ายออกไปเลย แต่คงไม่ดีแน่ถ้าไม่ได้ขอโทษ’

เพราะไม่อยากให้จีนส์มองตนเองเป็นคนไม่ดีจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยแค่นั้น อีกอย่าง... ชายหนุ่มยังเก็บเอาคำพูดของพี่ชายมาคิดที่เขาบอกว่าสร้อยมังกร อาจจะเกี่ยวข้องกับจีนส์หรือเปล่า เขาเองก็อยากพิสูจน์เพื่อไขข้อข้องใจทั้งหมด และคงต้องทำอะไรสักอย่างก่อนย้ายออกไป

บรื้นๆ เสียงฮาร์เล่ย์เข้าเทียบตรงจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์ของโรงแรม ที่มีโดมเป็นร่มเงาและกันฝนได้ดี จาคอปบิดกุญแจล็อกรถถอดหมวกกันน็อกออกเก็บไว้ตรงที่ห้อยข้างเบาะ รวมถึงถอดแว่นตาดำยี่ห้อดังใส่กล่องเก็บลงใต้เบาะเรียบร้อย แล้วเดินออกจากจุดจอดรถผ่านหน้าป้อมรักษาความปลอดภัยที่คอยดูแลรถของลูกค้าตรงไปยังหน้าโรงแรม

แกร๊ก จาคอปก้าวเข้าประตูแล้วเดินไปนั่งพักลงบนโซฟาสีแดงเลือดหมูชุดใหญ่ที่ถูกจัดวางตกแต่งไว้ภายในอย่างลงตัวสำหรับรับรองลูกค้าให้ได้นั่งรอนั่งพักอยู่ด้านหน้าล็อบบี้

ชายหนุ่มเอนหลังพิงโซฟาหนานุ่มหันหน้ายกแขนวางบนที่พักแขนยกมือเท้าคาง เหม่อมองไปยังสวนหย่อมของโรงแรมที่ถูกจัดพื้นที่เอาไว้ใกล้ๆ กับกระจกใสบานใหญ่ตรงจุดที่เขานั่งอยู่ เชยชมต้นไม้สีเขียวขจีด้านนอกกระจกนั้นและแสงสีส้มเริ่มทอดผ่านกิ่งใบ

‘จาคอป จาคอป’

‘พ่อ พ่อฮะ พ่อ’

เปลวไฟลุกท่วมอาณาบริเวณ เด็กชายตัวน้อยยืนร่ำไห้อยู่ท่ามกลางม่านควันด้วยความกลัวอยู่ในห้องนอน

ประตูที่เปิดอ้าเอาไว้มีควันสีเทาและดำพวยพุ่งขึ้นสูงไล่เลียบเลียทั่วเพดานไหลม้วนตัวออกไปยังหน้าต่างชั้นสอง เปลวสีส้มและความร้อนของเปลวไฟลุกไหม้อยู่ล้อมรอบ

‘พ่อ ฮือๆ พ่อฮะ ฮือๆ’

‘จาคอป’

พลันเด็กน้อยก็เห็นชายร่างสูงใหญ่วิ่งฝ่าม่านควันและเปลวเพลิงเข้ามา

‘จาคอป’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel