บทที่ 4 บทนำ (4)
หลังจากที่รับประทานข้าวเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ระหว่างที่หญิงสาวกำลังเตรียมเข้านอนกุ้ยซือหลินก็ได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องวิทยานิพนธ์ของเธอ พบว่ามีปัญหาบางอย่าง พรุ่งนี้ให้เข้ามาพบโดยด่วนเนื่องจากว่าทางคณะจะต้องส่งรายชื่อผู้สำเร็จการศึกษาให้กับทางมหาวิทยาลัยแล้ว
หญิงสาวจึงกุลีกุจอรีบเก็บข้าวของของตัวเองและไปแจ้งเจ้าหน้าที่ค่ายว่ามีธุระด่วนต้องขอกลับก่อนกำหนด จากนั้นกุ้ยซือหลินก็ตัดสินใจขับรถฝ่าฝนที่ตกหนักเพื่อออกเดินทางกลับไปที่มหาวิทยาลัยทันที
แต่เนื่องจากว่าฝนตกหนักและค่ายที่เธอพักอยู่นั้นอยู่บนเชิงเขา ทำให้การขับรถต้องขับด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างสูง ด้วยความที่ไม่ชินทางหญิงสาวจึงต้องคอยขับช้า ๆ
จนกระทั่งมาได้ประมาณครึ่งทางของทางลงเขา จู่ ๆ ก็มีแรงกระแทกเข้าที่ด้านข้างรถอย่างแรง เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำพัดลงมาจากยอดเขาพุ่งกระแทกเข้ากับด้านข้างรถของกุ้ยซือหลินขับอยู่อย่างแรง รถเก๋งของหญิงสาวที่อายุค่อนข้างมากเสียหลักแทบจะตกลงไปที่เบื้องล่างซึ่งเป็นหุบเหวลึก
กุ้ยซือหลินหน้าตาเคร่งเครียด ตัวสั่น หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็พยายามตั้งสติและประคองรถให้กลับเข้าสู่เส้นทางเดิม
แต่แล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลก มวลน้ำมหาศาลไหลบ่าลงมาจากเชิงเขา พัดเข้าใส่รถของหญิงสาวที่อยู่กลางถนนอย่างแรง จนกุ้ยซือหลินไม่สามารถที่จะประคองรถได้อีกต่อไป
ความแรงของน้ำทำให้รถค่อย ๆ ขยับจากกลางถนนไปหาขอบข้างทางที่เป็นหุบเหว ถึงแม้ว่าจะมีที่กั้นตรงขอบถนนแต่มวลน้ำมหาศาลที่พุ่งมาด้วยความแรงก็สามารถพังที่กั้นได้ในพริบตา
หญิงสาวหลับตาลงด้วยความมึนเพราะหัวกระแทกเข้ากับกระจกด้านข้างคนขับ ตอนนี้อย่าว่าแต่จะให้บังคับพวงมาลัย จะลืมตาก็ยังเกินกว่าขีดความสามารถของเธอด้วยซ้ำ ร่างของเธอที่คาดเข็มขัดนิรภัยโยกไปมาอย่างทรงตัวไม่อยู่
ในห้วงความคิดของหญิงสาวคิดถึงแต่ภาพใบหน้าแม่ของตน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นภาพของแม่ทัพเกราะดำก็ผุดเข้ามาในห้วงความคิดของกุ้ยซือหลิน ราวกับว่าเขากำลังจะหันหน้ากลับมามองเธอ
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย”
หญิงสาวรำพึงออกมาครั้งสุดท้าย ก่อนที่น้ำจะพัดให้รถที่ติดคาอยู่ตรงขอบทางตกลงไปในเหวลึกพร้อมกับหญิงสาวที่หมดสติอยู่ในรถคันนั้นทันที