ตอนที่ 2 พบเจอ
ตอนที่ 2 พบเจอ
"กอหญ้า...เจ้หาร้านใหม่ได้แล้วนะ" เจ้แนนเจ้าของร้านซักรีดที่กอหญ้าทำงานอยู่ด้วย เธอมีอายุสี่สิบห้าปีเต็มเป็นสาวใหญ่ วันแรกที่กอหญ้ามาสมัครงาน เจ้แนนรีบรับกอหญ้าเข้าทำงานทันที ด้วยความสงสาร วันนั้นเธออุ้มลูกมาสมัครงานด้วย หัวอกของคนเป็นแม่ที่ต้องนั่งเลี้ยงลูกเพียงลำพังเหมือนกัน ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
"ที่ไหนจ๊ะ ค่าเช่าแพงหรือเปล่า" สามปีเต็มที่ผ่านมา ทำให้เจ้แนนเห็นกอหญ้ากับน้องปลื้มเป็นคนในครอบครัว เจ้แกให้ที่พักและกินอยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำงานและยังมีเงินเดือนให้อีกด้วย
ตลอดสามปีที่ผ่านมา น้องปลื้มทำให้เจ้แนนหายเหงาได้ แต่กอหญ้าก็ไม่เคยลืมว่าตัวเองคือลูกจ้างของร้าน แต่ที่มากไปกว่านั้น นอกจากเจ้แนนจะเป็นนายจ้างแล้วเจ้แนนยังเป็นผู้มีพระคุณของเธอกับลูกอีกด้วย ถ้าวันนั้นเธอไม่ได้เจ้แนนคอยช่วยไว้ วันนี้ไม่รู้ชีวิตของเธอกับลูกจะเป็นยังไง
"พอๆกัน แต่เราต้องย้ายที่อยู่ ว่าแต่โรงเรียนของน้องปลื้มยังไม่ได้ไปติดต่อใช่มั้ย"
"ยังค่ะ" น้องปลื้มอายุสามขวบได้เวลาเข้าโรงเรียนแล้ว ส่วนร้านซักรีดร้านเก่าหมดสัญญาพอดีเจ้าของร้านขอคืน เจ้แนนจึงต้องขยับขยายหาร้านใหม่
"ถ้าอย่างนั้นก็ดี จะได้ไปหาโรงเรียนใหม่ใกล้ๆกับที่ร้าน เธอแน่ใจนะว่าจะตามเจ้ไปอยู่ด้วยกัน" ร้านที่ว่าอยู่คนละจังหวัดห่างจากที่นี่หลายสิบกิโล แต่จากที่เจ้แนนโทรคุยกับเจ้าของเก่าเห็นว่าอยู่ในตลาด
"แน่ใจค่ะ เจ้มีบุญคุณกับหนูและลูกมาก จะให้หนูทิ้งเจ้ได้ลงคอได้ยังไง ช่วงแรกๆถ้าลูกค้าน้อย เจ้ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้หนูก็ได้" หาร้านใหม่ ลูกค้าก็ต้องหาใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าร้านที่ว่าลูกค้าเยอะหรือน้อยขนาดไหน เจ้าของเก่าถึงได้เลิกกิจการกะทันหันแบบนี้
"ไม่ได้ๆ เธอเป็นลูกจ้างแถมยังมีลูกเล็กที่ต้องเลี้ยงดู ลูกค้าจะมากหรือจะน้อยฉันก็จะให้เธอเท่าเดิม นั่งรถไปดูร้านใหม่กันมั้ย เห็นว่าอยู่ในตลาดทำเลดีมาก"
"ไกลมั้ยจ๊ะ"
"ขับรถประมาณชั่วโมงกว่าๆก็น่าจะถึง ร้านอยู่ในตัวอำเภอ"
"ไปจ่ะ"
"ปลื้มไปเที่ยวกับป้ามั้ยครับ"
"ไปสิครับ ปลื้มเป็นเด็กจะให้อยู่คนเดียวได้ยังไง" น้องปลื้มหันมายิ้มและพูดกับป้าแนน
"พูดเก่งนักเจ้าเด็กคนนี้ ถ้างั้นไปกัน"
ทั้งสามคนพากันขับรถไป ในที่สุดก็มาถึงร้านที่ว่า...หน้าร้านยังดูใหม่อยู่เลยอยู่ติดถนนใหญ่และตลาด เป็นทาวน์เฮ้าส์สองชั้น ทั้งสองคนกวาดสายตามองไปรอบๆกว้างขวางสะอาดสะอ้านดี ทำเลก็ดีทำไมเจ้าของเก่าถึงไม่ทำต่อนะ
"เจ้...ไม่เลวนะคะเนี่ย"
"เดี๋ยวเจ้ขอโทรหาเจ้าของร้านแป๊บนึง" เจ้แนนหยิบมือถือขึ้นมาโทรออก
"แม่ครับปลื้มอยากกินไอติม" ถัดออกไปมีรถไอติมจอดขายอยู่พอดี
"เดี๋ยวแม่พาไป รอก่อนนะครับ" บอกลูกน้อยของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ไม่นานเจ้าของร้านคนเก่าก็เดินออกมาต้อนรับ ทั้งสามคนพากันเดินเข้าไปในทาวน์เฮ้าส์สองชั้น ชั้นล่างเป็นร้านซักรีด ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอน ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านขายอุปกรณ์การเกษตรร้านใหญ่มาก มีถนนกั้นกลาง ด้านข้างของร้านซักรีดอยู่ติดตลาด
"ชั้นบนมีสองห้องนอนสองห้องน้ำ เจ้ห้องนึงเธอกับลูกห้องนึง"
"ค่าเช่าร้านพอกัน แต่ที่นี่น่าอยู่กว่ามาก ดีจังเลยเจ้" ดูสะดวกสบายมาก ถัดออกไปอีกหน่อย เป็นปั้มน้ำมันมีเซเว่นที่น้องปลื้มชอบเข้าด้วย
"ชอบมั้ย ถ้าชอบก็ตกลงเถอะ ที่นี่ลูกค้าเยอะมากนะ ที่ฉันยอมปล่อยร้านนี้ก็เพราะฉันจะไปอยู่ต่างประเทศกับสามีค่ะ" นี่คือเหตุผลของเจ้าของเก่า
"ดีใจด้วยนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"ฉันตกลงเซ้งร้านนี้ต่อค่ะ"
"ร้านฝั่งตรงข้ามขายอะไรทำไมรถจอดเยอะจัง" อยู่ๆกอหญ้าก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย มุงกันขนาดนั้นสงสัยจะขายดีไม่น้อย
"อ๋อ...ร้านขายอุปกรณ์การเกษตรของเฮียสิงห์น่ะ เขาโสดนะแต่เจ้าชู้มาก..." พี่เจ้าของร้านบอกยิ้มๆ
"ป้าแนนครับ ปลื้มอยากกินไอ้ติม" มองลงไปจากชั้นบนยังคงเห็นรถขายไอติมคันเดิมจอดอยู่
"กอหญ้า...พาลูกไปกินไอติมก่อนเถอะ"
"ค่ะเจ้...ไปลูกป่ะ"
"ค้าบ..." กอหญ้าพาน้องปลื้มลูกชายสุดที่รักของเธอลงไปกินไอติม ส่วนเจ้แนนหันไปพูดคุยรายละเอียดกับเจ้าของร้านคนเก่าต่อ
"แม่ครับ รถไอติมวิ่งไปฝั่งโน้นแล้วครับ" สองคนแม่ลูกจูงมือพากันเดินไปกินไอติม
"จับมือแม่ให้แน่นๆ" ทั้งสองคนจับมือพากันเดินข้ามถนน น้องปลื้มอายุแค่สามขวบก็จริง แต่แกเป็นเด็กจ้ำม่ำ แขนเล็กๆของแม่กอหญ้าอุ้มไม่ไหวหรอก ไปไหนก็มักจะจูงเดินไปด้วยกันแบบนี้เสมอ
"เอาแบบไหนลูก"
"เอาแบบนี้ครับ" นิ้วเล็กๆชี้ไปที่รูปไอติมอันที่ชอบ
"เอาอันนี้ค่ะ เท่าไหร่คะ"
"ยี่สิบบาทครับ"
ในขณะที่กอหญ้ากำลังก้มหน้าหยิบเงินในกระเป๋าเพื่อจะเอาออกมาจ่ายค่าไอติมให้ลูกชาย อยู่ๆน้องปลื้มก็ก้าวขาออกห่างจากแม่ไปเล็กน้อย เป็นจังหวะที่มีรถยนต์พุ่งตรงมาตรงที่น้องปลื้มยืนกินไอติมแท่งที่ถืออยู่ในมือพอดี
"ปริ้น! ปริ้น!..." กอหญ้าเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงแตรรถ มือของเธอที่กำลังจะคว้าเอาตัวลูกชายดึงหลบ แต่กลับมีวงแขนแข็งแรงของใครบางคนอุ้มตัวน้องปลื้มขึ้นแล้วก้าวถอยหลังหลบได้ทันเวลาพอดี
"เป็นอะไรมั้ยลูก" มือเล็กๆของน้องปลื้มถือไอติมไว้ในมือแน่น
"ปลื้มไม่เป็นไรครับแม่"
"ไอ้หนูเป็นอะไรมั้ยลูก รถหลังจี้ตูดมาพอดี จะเบรคก็..." เจ้าของรถที่ขับมารีบลงจากรถมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของเด็กน้อยที่เกือบถูกชนเมื่อสักครู่นี้ทันที
"ขับให้มันช้าๆหน่อยไม่ได้หรือไง ตรงนี้ถนนก็จริงแต่มันเป็นตลาดจะรีบไปตายที่ไหน" เสียงเฮียสิงห์ร้องตะโกนถาม ซึ่งคนที่เขาพูดด้วยดันเป็นเด็กแถวบ้านรู้จักกัน
"โถ่เฮีย ผมไม่ได้รีบ นี่มันถนนไม่ใช่ที่เดินเล่น เป็นแม่ภาษาอะไรไม่หัดดูแลลูกให้ดี"
"ขอโทษค่ะ ขอโทษ หนูไม่คิดว่าลูกของหนูจะเดินออกไป ขอโทษอีกครั้งนะคะ" กอหญ้ารีบเอ่ยขอโทษทันที หลังจากที่เธอสำรวจร่างกายของน้องปลื้มแล้วว่าไม่ได้มีอันตรายอะไร ซึ่งตอนนี้เขาคนที่ช่วยลูกของเธอก็ยังคงยืนอุ้มน้องปลื้มเอาไว้บนแขนแข็งแรงยังไม่ยอมปล่อยลงยืน
"ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ทีหน้าทีหลังก็เกาะแม่เอาไว้ให้แน่นๆ"
"ครับ ปลื้มขอบคุณคุณลุงสุดหล่อมากครับ แม่ฝากถือหน่อยครับ" ฝ่ามือเล็กๆยกขึ้นพนมไหว้อย่างงดงามตามที่แม่กอหญ้าเคยสอน น้องปลื้มจำได้ขึ้นใจ เด็กดีต้องรู้จักขอบคุณให้เป็น
"ขอบคุณมากค่ะ" กอหญ้ายกมือไหว้ขอบคุณพี่ชายตรงหน้าอีกคน จากนั้นเธอจึงส่งไอติมแท่งนั้นคืนลูกชายของเธอไป ทันใดนั้นสายตาของทั้งสองก็สบตากันพอดี เป็นเฮียสิงห์ที่รู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าคุ้นหน้าจังแต่ยังนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
"ไม่เป็นไร ว่าแต่หน้าเธอคุ้นๆนะ เราเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่า" เขาเอ่ยถาม เมื่อความรู้สึกมันบอกแบบที่พูดจริงๆ
"ไม่น่าจะเคยนะคะ หนูเพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก โน่นจ่ะร้านนั้น หนูเป็นลูกจ้างของเจ้แนนร้านซักรีดที่กำลังจะย้ายเข้ามาใหม่ค่ะ"
"อ้าวเหรอ ดีเลยปกติเฮียก็จ้างร้านนั้นซักผ้าอยู่พอดี เจ้าของเก่าเขาเซ้งร้านให้ใช่มั้ย"
"ใช่ค่ะ"
"แม่ครับ ขอตังซื้อไอติมให้คุณลุงหนึ่งอันได้มั้ยครับ ตอบแทนที่คุณลุงช่วยปลื้มเอาไว้" เสียงเล็กๆเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ จากนั้นเฮียสิงห์ก็วางเด็กชายที่อยู่บนแขนลง
"ลูกชายหนูอยากเลี้ยงไอติมคุณค่ะ" กอหญ้าเอ่ยบอกเขา เธอเองก็อยากขอบคุณเขาเช่นกัน
"ลุงโตแล้วไม่กินไอติมครับ ขอบใจมาก บ้านลุงอยู่นี่ ถ้าเหงาก็มานั่งคุยกับลุงได้" เฮียสิงห์เอ่ยบอกเด็กน้อยพร้อมกับส่งยิ้มไปให้อย่างนึกเอ็นดู
"ได้เหรอครับ"
"ได้สิ ทำไมจะไม่ได้"
"คุณลุงใจดีจังเลย"
"เรื่องแค่นี้เล็กน้อยน่า"
"ถ้างั้นวันนี้ปลื้มขอบคุณคุณลงอีกครั้ง วันหลังจะมาหาใหม่นะครับ"
"ครับ"
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"
"ไม่เป็นไรครับ" สองคนแม่ลูกจูงมือพากันเดินกลับไปฝั่งโน้นเหมือนเดิม
ทางด้านเฮียสิงห์เขายืนมองสองคนแม่ลูกเดินจากไป ในใจก็ยังรู้สึกคุ้นๆอยู่ดี ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นเหมือนเคยเจอที่ไหนแต่จำไม่ได้ ส่วนเด็กคนนั้นเขารู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาเล็กๆคู่นั้นเหมือนใครกันนะ