ตอนที่ 1 คุณลุงเพลย์บอย
ตอนที่ 1 คุณลุงเพลย์บอย
@บ้านแม่รำเพย
ในช่วงเช้ามืดของวัน เสียงรถยนต์ของลูกชายคนที่สองของบ้าน...สิงโตหรือเฮียสิงห์ เขาขับรถเข้ามาจอดแล้วเดินโซเซเข้ามาในบ้าน
เขาเดินตรงไปที่โซฟากลางบ้านคล้ายกับคนอดหลับอดนอนมาตลอดทั้งคืนแล้วหงายท้องนอนลงไปบนโซฟาตัวยาว จากนั้นเขาก็หลับตาลงนอนต่อด้วยท่าทางหมดเรี่ยวหมดแรง
แม่รำเพยกับพราวมุกลูกสะใภ้ของท่านกำลังช่วยกันทำกับข้าวอยู่ในครัว ได้ยินเสียงรถคุ้นหูขับเข้ามาจอด
"เสียงเหมือนรถเจ้าสิงห์เลย ทำไมเงียบไปล่ะ" แม่รำเพยเกิดความสงสัย ท่านจึงเดินออกจากห้องครัวไปดูลูกชาย ภาพที่เห็นลูกชายของท่านกำลังนอนยืดขายาวอยู่บนโซฟากลางบ้าน สภาพไม่ต้องถามก็รู้ว่าเมื่อคืนไปไหนมา
สภาพที่คนเป็นแม่เห็นทำให้ท่านถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เสื้อที่เจ้าตัวสวมใส่เต็มไปด้วยรอยลิปสติกของผู้หญิง ไหนจะกลิ่นเหล้าและกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงที่กำลังส่งกลิ่นออกมาจากในตัวของลูกชายตอนนี้ ทำให้ท่านถึงกับต้องยกมือขึ้นปัดไปปัดมาอยู่ที่จมูก
"ปับ!" เสียงหมอนใบใหญ่ถูกปาเข้าไปให้ลูกชายวัยสี่สิบปี ซึ่งเขายังคงโสดสนิท
"แม่...อะไร" เขาหรี่ตามองมาที่แม่รำเพยเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยถามท่านเสียงเบา ส่วนเรื่องโดนด่าไม่กลัวเพราะว่าชินแล้ว
"เมื่อไหร่จะเลิกเที่ยวแบบนี้สักที ถ้าติดโรคขึ้นมาแม่จะเอาไปปล่อยวัด!" แม่รำเพยบ่นจนขี้เกียจจะบ่นแล้ว คนโบราณเขาว่าไว้ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก ลูกชายของท่านอายุสี่สิบเต็มวันนี้ น่าจะดัดสันดานไม่ได้แล้ว
วันนี้เป็นวันเกิดของเขาอายุครบสี่สิบปีเต็ม แม่รำเพยสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าเช้านี้ให้มารอใส่บาตรพระเพราะท่านจะทำกับข้าวเตรียมไว้ให้ ใส่บาตรวันเกิดเพื่อเป็นสิริมงคล เผื่อว่าอะไรๆมันจะดีขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะนิสัยชอบเที่ยวกลางคืนแบบนี้
"ไม่หรอกผมป้องกันอย่างดี"
"สภาพแกเป็นแบบนี้ ผู้หญิงดีๆที่ไหนจะเอา" แม่รำเพยมีลูกทั้งหมดสี่คนทุกคนเป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวกันไปหมดแล้ว เหลือก็แต่ลูกชายคนที่สองของท่าน ที่ยังไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีคนเอา
"มีเมียเมื่อไหร่ก็เลิกเมื่อนั้นแหละครับ" แต่ตอนนี้ยังไม่มี! เขาก็แค่ต้องการปลดปล่อยตามประสาผู้ชายก็เท่านั้น
เฮียสิงห์เจ้าของร้านขายอุปกรณ์การเกษตร เขาเป็นหนุ่มใหญ่มีนิสัยรักครอบครัว หน้าตาดีจัดว่าหล่อมากรูปร่างกำยำสมส่วนตามแบบฉบับชายไทย ส่วนฐานะทางการเงินไม่ต้องพูดถึง ภาระไม่มีเงินเข้าร้านวันละหลายแสนบาท ไม่ได้รวยธรรมดาแต่รวยมาก...
มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่อยากจะเป็นดอกไม้ให้เขาเด็ดดม แต่เจ้าตัวกลับไม่ถูกใจใครเลยสักคน จูบไม่หอม ชิมแล้วไม่อร่อยก็พอ...
"อยู่กับแม่ อยู่กับหลานก็ได้ ขอผมนอนต่ออีกแป๊บนะแม่นะ" แม่รำเพยส่ายหน้าให้ลูกชาย แล้วเดินกลับเข้าห้องครัวไปช่วยลูกสะใภ้ทำกับข้าวต่อเหมือนเดิม เดี๋ยวจะสุกไม่ทันหลวงพ่อมาบิณฑบาต
"เฮ่อ..." แม่รำเพยเดินเข้ามาถอนหายใจในห้องครัว ท่าทางหนักอกหนักใจ
"แม่คะ ช่างเฮียแกเถอะค่ะ อายุป่านนี้แล้วแก้ยาก" เป็นเสียงของพราวมุกลูกสะใภ้ของท่าน พราวมุกเป็นภรรยาของเฮียกล้า ลูกชายคนที่สามของบ้าน มีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อน้องปลายฝน
ช่วงเช้าๆแบบนี้ สองคนพ่อลูกยังคงนอนกอดกันอยู่บนห้องนอนชั้นสองของบ้าน ส่วนพราวมุกเธอมักจะตื่นเช้าลงมาช่วยแม่สามีทำกับข้าวเหมือนทุกวัน
"นั่นสิ แตกเหล่าแตกกอนักไอ้ลูกคนนี้" พราวมุกฟังแม่บ่น เธอแค่ส่งยิ้มให้แม่รำเพยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เมื่อเวลาผ่านไป
"ลุงจ๋า...มาแต่เช้าเลยนะคะ" เสียงเล็กๆของน้องปลายฝนวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นลุงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยมีคนเป็นพ่อเดินตามลูกสาวมาด้วยติดๆ วันนี้ทุกคนตื่นแต่เช้าเตรียมตัวใส่บาตรที่หน้าบ้าน
"อ้าว...คนสวยของลุงสิงห์ ตื่นแต่เช้าเลยนะ" คนเป็นลุงหันไปยิ้มทักทายหลานสาวบ้าง
"รอยอะไรบนเสื้อลุงคะ แดงๆ" ลุงสิงห์ก้มมองเสื้อตัวเองทันที เขามองตามสายตาของหลานสาววัยสองขวบกว่าๆ แกพูดเก่งแถมยังขี้สงสัยไม่รู้เหมือนใคร!
เห็นรอยลิปสติกของสาวๆเมื่อคืน ถึงกับต้องเบนสายตาไปมองหน้าน้องชายด้วยรอยยิ้ม เมื่อก่อนต้นกล้าน้องชายของเขาก็เคยเที่ยวแบบนี้ แต่พอมีเมียต้นกล้าก็เลิกเที่ยว
"ให้ทาย..." ลุงสิงห์หันมาพูดกับหลานสาวที่ยังคงทำหน้าสงสัยไม่ยอมเลิก
"รอยตูดลิง"
"ไม่ใช่"
"รอยตูดหมี"
"ไม่ใช่..."
"รอยตูดอะไรน้า..."
"ตูดอะไรจะแดงแบบนี้"
"นั่นสิทำไมตูดถึงแดง" ใบหน้าเล็กๆตะแคงคอถามลุงสิงห์อย่างน่ารัก
"พอเลยๆเฮีย...เฮียเสียคนคนเดียวพอแล้วไม่ต้องมาทำให้หลานเสียคนด้วยเลย" ต้นกล้าพ่อของน้องปลายฝนรีบห้ามพี่ชายทันที
"พ่อจ๋า...ทำไมถึงบอกว่าลุงเสียคนล่ะจ๊ะ" น้องปลายฝนสงสัยต่อ ครั้งนี้แกหันมาถามพ่อกล้าบ้าง
"ก็ลุงไปกินของไม่ดีมา ของไม่ดีทำให้เสียคน"
"แหมไอ้กล้า เมื่อก่อนมึงก็..."
"เฮีย...ไม่เอาน่าต่อหน้าหลาน"
น้องปลายฝนกำลังตั้งใจฟังลุงกับพ่อคุยกัน จากนั้นแกก็สงสัยต่อ...
"อ้าว...ของไม่ดีจะไปกินมันทำไมล่ะคะ ระวังท้องเสียจู๊ดๆไม่รู้ด้วยนะ" เสียงเล็กๆพูดพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของคนเป็นลุง
"เมื่อคืนลุงจู๊ดๆตั้งหลายรอบ ขายังไม่หายสั่นเลยเนี่ย" ประโยคนี้เด็กคงไม่เข้าใจแต่พ่อของน้องปลายฝนต้องเข้าใจแน่นอน
"ไอ้เฮีย! อย่าไปฟังลูก อย่าไปฟัง" ต้นกล้ารีบยกมือขึ้นปิดใบหูทั้งสองข้างของลูกสาวทันที
"คนสวยของลุงครับ ลุงขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ"
"รีบๆไปเลยค่ะ ลุงกลิ่นตุๆ" น้องปลายฝนหลานสาวตัวเล็กย่นจมูกใส่ลุงสิงห์ท่าทางน่ารัก ทำให้คนเป็นลุงขำออกมาเสียงดัง จากนั้นเขาก็เดินหายเข้าห้องน้ำไป
ทางด้านกอหญ้า เธอเป็นลูกจ้างร้านซักรีดมาสามปีแล้ว เจ้าของร้านชื่อเจ้แนน เจ้แนนไม่มีสามีแต่มีลูก ส่วนลูกๆของเจ้แนนก็โตและแยกย้ายกันไปทำมาหากินด้วยตัวเองกันหมดแล้ว
"แม่ครับ...วันนี้วันเกิดปลื้มใช่มั้ยครับ" กอหญ้าไม่เคยมีสามีแต่เธอมีลูกวัยสามขวบ ใบหน้าน่ารักได้แม่
"ใช่ครับคนเก่งของแม่" น้องปลื้มเป็นลูกชายของพี่สาวฝาแฝด วันนี้เมื่อสามปีก่อนน้องปลื้มได้ลืมตาดูโลก ทำให้พี่สาวฝาแฝดที่มีชื่อว่าช่อฟ้า ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการตกเลือด กอหญ้าจึงใส่ชื่อตัวเองลงไปในเอกสารเพื่อเป็นแม่ให้กับหลานของเธอ ส่วนพ่อแท้ๆของลูก พี่สาวของเธอไม่เคยปริปากพูดถึงเลยสักครั้ง เธอรู้แค่ว่าพี่สาวของเธอพลาดพลั้งเพราะเมา กอหญ้ารู้แค่นี้
"ปีนี้ปลื้มขอเลือกของขวัญเองได้มั้ยครับ แม่ยังไม่ได้ซื้อมาใช่มั้ย"
"ได้สิ ปลื้มอยากได้อะไร ไหนลองบอกแม่ซิ แต่อย่าแพงมากนะแม่ตังน้อย"
"ปลื้มอยากได้พ่อหล่อๆสักคน ได้มั้ยครับ" ใครๆก็มีพ่อแต่ปลื้มไม่มี
"เอ่อ..." ยังไม่ทันที่กอหญ้าจะได้ตอบคำถามของลูกชาย เจ้แนนเจ้าของร้านซักรีดที่กอหญ้าทำงานอยู่ด้วยก็ดันเปิดประตูเข้ามาพอดี
"กอหญ้า...เจ้หาร้านใหม่ได้แล้วนะ"