บท
ตั้งค่า

ตอนที่2(ความช่วยเหลือ)

1อาทิตย์ต่อมา

17:30น.

บ้านฟางข้าว

ฟางข้าว ขวัญข้าว....

“คุณคะ!” ฉันที่ไขกุญแจเข้ามาในบ้านก็ร้องเรียกหาคุณคนที่ฉันช่วยเขาไว้ ตอนนี้เขามาอยู่ที่บ้านฉันได้อาทิตย์หนึ่งแล้วและเขาก็แข็งแรงแล้ว ร่างกายของเขาไม่มีอาการใดๆ น่าเป็นห่วงเห็นพี่บาสบอกฉันมาอ่ะน่ะ

“หนูซื้อขนมมาให้ค่ะ!” ฉันที่เดินเรียกหาเขาแต่ก็ไร้เสียงตอบกลับมา ทำให้ฉันนึกแปลกใจ เขาไปไหนของเขากันนะ?

พรึบ

“คุณคะ?” ฉันที่วางขนมบนโต๊ะในห้องอาหารได้แล้วและก็เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองเพื่อไปหาเขา

แอ๊ดดด

ฉันที่เปิดประตูห้องนอนเข้ามาแต่ก็ไม่พบกับร่างของเขาเลย เขาไปไหนกันนะ

“เอ๊ะ!” ฉันร้องออกมาอย่างสงสัยและเดินเข้าไปหยิบกระดาษสีเหลี่ยมสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูก็พบกับข้อความที่ถูกเขียนด้วยลายมือของคน ลายมือสวยมากเลยนะ

“ขอบคุณหนูมากที่ช่วยชีวิตฉัน ถ้าหนูได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้วแสดงว่าฉันได้ออกมาจากบ้านของหนูแล้ว และที่นี้ฉันอยากพบหนูเพื่อขอบคุณ” ฉันอ่านจดหมายของคุณคนนั้นพร้อมกับสถานที่และเวลาที่เขานัดฉันให้ออกไปพบ สองทุ่มคืนนี้แต่ฉันมีนัดกับเฮียเอ็กซ์หนิน่า

ติ๊ดดด

“ใครโทรมา?” ฉันพูดขึ้นพลางเอื้อมมือลงไปหาโทรศัพท์ของฉันในกระเป๋าเสื้อช็อปเพื่อดูว่าใครโทรมา

“เฮียเอ็กซ์?” ฉันพึมพำชื่อของคนที่โทรเข้ามาและรีบกดรับสายตาเขาอย่างไวด้วยความดีใจ

“ฮัลโหลเฮียเอ็กซ์มีอะไรคะ?” ฉันพูดเสียงหวานจ๋อยใส่ปลายสายตาไป

(เออ ขอโทษนะครับพอดีคืนนี้เฮียมีนัดกับคุณพ่อของเฮียอ่ะครับ คงไม่ว่างไปเจอน้องข้าวแล้ว) เสียงเฮียเอ็กซ์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ฉันสิที่ต้องเศร้า เสียดายอ่ะ

“อ๋อค่ะ งั้นไม่เป็นไรไว้เราค่อยนัดกันวันอื่นก็ได้ค่ะเฮีย"

(ครับ ขอโทษจริงๆ นะเเล้ววันไหนที่ครับที่น้องข้าวว่าง?)

“ข้าวว่างเสมอค่ะถ้าเป็นเฮียเอ็กซ์” ฉันยืนบิดไปบิดมา เกิดมาไม่เคยเจอใครน่ารักเท่าเฮียเอ็กซ์เลย ผู้ชายอะไรน่ารักๆๆ

(ครับ เฮียดีใจแย่แล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ เฮียต้องวางแล้ว)

“ค่ะ บ๊ายบายค่ะ” ฉันพูดเสร็จเฮียเอ็กซ์ก็กดวางสายฉันไปเลย ไวจังเขาจะรีบไปไหนนะ ตั้งแต่วันที่เราไปกินข้าวด้วยกันฉันกับเขาก็สนิทกันมากขึ้น เฮียเอ็กซ์จะโทรมาคุยกับฉันทุกคืนและเราก็หลับไปพร้อมๆ กัน เขากำลังทำให้กำแพงที่ฉันสร้างไว้ค่อยๆ จะสลายลงไปแล้ว ฉันกำลังจะหลงรักเฮียเอ็กซ์แล้วอย่างงั้นเหรอ?

“งื้อหุ่นน่ากิน” ฉันพูดขึ้นเมื่อเปิดไอจีมาก็เจอโพสต์ของเฮียเอ็กซ์เป็นคนแรกและก็ไล่อ่านคอมเม้นที่เขาคุยกับเพื่อนๆ ของเขาและที่ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาได้คือเสตตัสของเขา งื้อเขามีใจให้ฉันเหรอ?

“เขินน่าแดงเลย” ฉันพูดไปพลางบิดร่างกายไปมาและเดินไปแต่งตัวเพื่อจะออกไปตามนัดที่คุณคนนั้นนัดฉัน

ร้านอาหารสุดหรู Y

20:30น.

“คุณขวัญข้าวรึเปล่าคะ?” เมื่อฉันเดินเข้ามาในร้านก็พบกับพนักงานฝ่ายต้อนรับเอ่ยถามฉัน ฉันก็ยิ้มและพยักหน้าให้เธอ

“ท่านบรรพตกำลังรอคุณอยู่ค่ะ เชิญทางนี้” พนักงานบอกฉันด้วยท่าทางเป็นมิตรและผายมือเชื้อเชิญให้ฉันเดินตามเธอไป ว่าแต่ใครคือคุณบรรพตว่ะ ฉันเดินตามหลังของพนักงานไปอย่างเงียบๆ เธอพาฉันเดินไปยังโซนวีไอพีของทางร้าน ร้านที่นี้ค่อนข้างหรู คนธรรมดาๆ อย่างฉันคงไม่มีปัญญาเข้ามากินของที่นี้หรอก นอกจากวันไหนเจ้านางเกิดอยากกินและมันก็ลากฉันไปกินอาหารแพงๆ ร้านหรูๆ กับมัน ฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธมัน

“ถึงแล้วค่ะ” พนักงานบอกฉันพลางหันไปก้มศีรษะให้เจ้าของโต๊ะและหันมาก้มศีรษะให้ฉันและเธอก็เดินออกไป ฉันจึงมองไปยังคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะก็พบว่าเขาสวมสูทสีดำใส่แว่นดำและมีบอดี้การ์ดสามคนยืนขนาบข้าง

“หนูมาจริงๆ ด้วย” เสียงดีใจของชายคนนั้นพูดขึ้นทำให้ฉันรู้ทันทีว่าเขาคือใคร เขาคือคุณคนนั้นที่ฉันช่วยเหลือเขา เขาลุกขึ้นยืนและเดินมาจัดเก้าอี้ให้ฉัน

“สวัสดีค่ะคุณ” ฉันยกมือไหว้เขาด้วยความเคารพ เขายกมือรับไหว้ฉันพร้อมกับถอดแว่นออก

“ขอบคุณค่ะ” ฉันเอ่ยขอบคุณเขาไปอีกรอบหลังจากที่ฉันนั่งลงข้างๆ เขาแล้ว เขาก็มองฉันและยิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู

“ฉันชื่อบรรพตชื่อเล่นอาร์ต” เขาแนะนำชื่อของเขาให้ฉันรู้จัก ฉันก็พยักหน้ารับรู้และยิ้มหวานให้เขา เขาเองรู้จักชื่อฉันแล้วเพราะเขาถามฉันตอนที่ฉันช่วยเขาตอนที่เขาอยู่ที่บ้านฉัน

“ถ้าไม่ได้หนูช่วยฉันไว้ในวันนั้น คงไม่มีวันนี้วันที่ฉันมานั่งอยู่ตรงนี้ได้” เขาพูดขึ้นพลางมองมาที่ฉันด้วยแววตาที่ขอบคุณสุดซึ้ง ฉันทำได้เพียงแค่ยิ้มให้เขา เพราะฉันรู้สึกกระดากนะ ก็ที่ฉันช่วยเขาก็เพราะเพชรเม็ดงามอันนั้นตั้งหากล่ะ

“ที่หนูช่วยคุณก็เพราะ.”

“ไม่ใช่หรอก เป็นเพราะจิตใจของหนูมากกว่า หนูคืนเพชรเม็ดนั้นให้ฉันมาแล้วหนิ^_^” ใช่เขาพูดถูก ฉันคืนเพชรเม็ดนั้นให้เขาไปแล้ว เพราะฉันคิดว่ามันเยอะเกินไปฉันไม่ควรที่จะได้เงินขนาดนั้น

“แต่หนู”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ทานอาหารก่อนดีกว่า” เขาพูดบอกฉันพลางผายมือไปตามอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะของหรูหราทั้งนั้น ฉันมองหน้าเขาด้วยความเกรงใจ

“ไม่ต้องเกรงใจฉัน ตลอดเวลาที่ฉันอยู่บ้านของหนูเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ฉันกินอิ่มนอนหลับ และฉันก็ไม่เคยได้กินอิ่มและนอนหลับแบบนั้น” เขาพูดบอกฉันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณและจริงใจ ฉันยิ้มและก้มศีรษะให้เขาเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณ

“ทานเลย”

“ค่ะ” ฉันขานรับเขาไปและเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้าอย่างสงบเสงี่ยม เขาก็เอาแต่มองฉัน

“ฉันอยากจะแนะนำลูกชายของฉันให้หนูได้รู้จักจริงๆ” อยู่ดีๆ เขาก็พูดขึ้นทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างไว

“อย่าดีกว่าค่ะ หนูคิดว่าท่านน่าจะรวยหนูจนคงไม่เหมาะกับลูกชายของท่านหรอกคะ” ฉันพูดไปตามความจริง เขาเองก็รู้ว่าฉันน่ะจนเพราะเขาก็เห็นบ้านและอาหารที่บ้านๆ ของฉันแล้วหนิ เขากลับส่ายศีรษะไปมาและยิ้มขำกับคำพูดของฉัน

“คนจนไม่ใช่เป็นคนไม่ดี บางทีคนรวยๆ อย่างฉันอาจจะเป็นคนเลวกว่าหนูก็ได้”

“ไม่จริงหรอกค่ะ ท่านใจดี”

“แม่หนูมีความทะเยอทะยานขยันอดทนฉันเชื่อว่าเธอจะทำให้ลูกชายของฉันตกหลุมรักได้ไม่ยาก” เขาพูดบอกฉันมันทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนขึ้นมาได้ตอนที่คุณพ่อคุณแม่ของพี่ราชาเข้ามาคุยกับฉันพร้อมเสนอเงินก้อนโตให้ฉันเลิกยุ่งกับลูกชายของพวกเขา คนเรามองกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ สิน่ะ คุณคนนี้ก็มองน่าจะรวยอยู่มากดูจากการแต่งกายและบอดี้การ์ดของเขาแล้ว แถมข้างนอกยังมีตลอดทางเดินหน้าร้านเลยน่ะ

“อย่าดีกว่าค่ะท่าน หนูยังไม่อยากเอาหัวใจของหนูเข้าไปเจ็บอีก” ฉันพูดออกไปพร้อมๆ กับนำ้ตาที่เริ่มคลอของตัวเอง คำบอกรักจากลมปากผู้ชายมักง่าย แค่เขาอยากจะได้ฉัน เขาก็ตามตื้อและบอกว่ารักแค่ฉันคนเดียวแต่พอเขาได้ฉันแล้ว เขาก็ทิ้งฉันไป ความสาวของฉันที่ฉันคิดว่ามันมีค่าต้องไปเสียให้คำว่ารักเพียงคำเดียวทเหอะน่าขำสิ้นดีความรักความมักง่าย!!

พรึบ

“ฉันขอโทษฉันจะไม่พูดเรื่องนี้อีก หนูทานข้าวให้อิ่มเถอะแล้วเดี๋ยวฉันมีเรื่องจะคุยด้วยอีก” เขายื่นมือมาจับมือฉันเพื่อเป็นการให้กำลังใจและขอโทษไปในตัว ฉันก็ยิ้มให้เขาเป็นเชิงขอบคุณ และเขาก็ชักมือกลับไป ฉันจึงเริ่มทานข้าวต่อไปอีกสักพักก็อิ่ม

“นี่ค่าตอบแทนหนูที่ช่วยชีวิตของฉัน” เขาพูดพร้อมกับวางเช็กเงินสดลงตรงหน้าฉัน ฉันก็ขยับใบหน้าเข้าไปดูก็ต้องเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจกับเลขศูนย์ห้าตัว!

“โห้! นี่มันจะไม่เยอะไปเหรอคะ?” ฉันพูดออกมาพร้อมกับเงยหน้ามองไปที่คุณคนนั้นอย่างไว เขาก็ยิ้มให้ฉันอยู่ก่อนแล้ว

“ไม่เยอะหรอกถ้าเทียบกับชีวิตของฉันทั้งชีวิต ฉันจะให้เงินเธอเดือนละสองแสนเป็นค่าตอบแทนไปจนกว่าฉันจะหมดลมหายใจ” เขาบอกฉันด้วยสีหน้าที่จริงจังซึ่งผิดกับฉันที่ตกใจกับคำพูดของเขา ฉันไม่อยากรับไว้เลยแต่เขาเต็มใจให้ฉันน่ะ เขามองมาที่ฉันพลางทำสายตาขอร้องอ้อนวอนฉันให้รับข้อเสนอของเขา

“หนูว่ามันค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเป็นความประสงค์ของท่าน หนูก็ยินดีที่จะรับค่ะ” ฉันบอกเขาไปพลางเอื้อมมือไปหยิบเช็กเงินมาเขาก็ยิ้มให้ฉันอย่างดีใจ ฉันก็ยกมือไหว้เขาอีกครั้ง ถึงมันจะเป็นเงินที่เยอะมากสำหรับฉันที่จะได้รับในทุกเดือนแต่มันเป็นความประสงค์ของเขา ฉันไม่ควรที่จะไปขัดความตั้งใจของเขา

“ขอบคุณแม่หนูอีกครั้ง หวังว่าเราจะได้เจอกันบ่อยๆ”

“แน่นอนค่ะท่าน” ฉันบอกเขาไปพลางยิ้มให้เขาและหยิบเช็กเงินสดใส่กระเป๋าสะพาย พ่อจ๋า หนูมีเงินไปจ่ายค่ารักษาพ่อแล้วนะ

บ้านของฟางข้าว

22:30น.

“ขอบคุณนะคะท่านที่มาส่งหนู” ฉันที่กำลังจะลงจากลงก็หันไปยกมือไหว้เขาที่นั่งอยู่เบาะหลังกับฉัน

“ท่านอะไรเรียกฉันว่าคุณลุงก็ได้”

“ไม่ดีกว่าค่ะ คุณลุงมองแก่ไปไม่เหมาะกับท่านเลย”

“ฮิๆ เธอนี้น่ะ ฉลาดเข้าใจพูดงั้นแล้วแต่หนูเลย”

“งั้นหนูเรียกป๋านะคะ ป๋าอาร์ต”

“โอเคจ๊ะ” ป๋าอาร์ตพูดพลางมองฉันด้วยความเอ็นดู

“หนูไปก่อนนะคะ”

“จ้า” เขาบอกฉันและฉันก็ลงจากลงที่มีบอดี้การ์ดของป๋าอาร์ตเปิดให้ เมื่อฉันลงไปแล้วก็ยกมือบ๊ายบายเขา เขาก็โบกมือให้ฉันเช่นกัน เขาคือผู้มีพระคุณของฉัน

ติ๊ด

“ขอบคุณนะคะป๋าอาร์ต” ฉันพูดขึ้นเมื่อฉันส่งข้อความเข้าไปในไลน์ของเขาแล้ว ฉันกับเขาเพิ่งจะแลกเบอร์และแลกไลน์กันเมื่อตอนอยู่บนรถเมื่อกี้นี้ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขาและเขาก็ไม่ได้คิดกับฉันในเชิงชู้สาวแน่นอนเพราะเขามีภรรยาและฉันสงสัยว่าเวลาที่ฉันถามถึงภรรยาของเขาเขาจะมีสีหน้าที่เศร้าลง เขาต้องมีเรื่องที่ไม่สบายใจแน่นอนเลย แต่ฉันเป็นคนนอกไม่ควรจะไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา

ติ๊ดดดด

“ใครกันนะ?” ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาอีกครั้งหลังจากที่เก็บมันลงในกระเป๋าไปแล้ว

“เฮียเอ็กซ์” ฉันพูดชื่อของคนที่โทรเข้ามาพลางกัดฟันแต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อนึกถึงเมื่อตอนนั้น ตอนที่พี่ราชาทำกับฉัน เขาเข้ามาทำดีกับฉันก็เพราะเขาอยากได้ฉัน และพอเขาได้ฉัน เขาก็ทิ้งฉันไป ทำเหมือนฉันไม่มีค่าอะไร ผู้ชายก็เลวเหมือนกันหมดนั้นแหละ!!!

พรึบ ติ๊ด

ฉันกดปิดโทรศัพท์แล้วเดินเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว ฉันไม่ควรจะไปเผลอใจเต้นแรงอะไรกับเฮียเอ็กซ์ไม่อย่างงั้นฉันอาจจะเอาหัวใจของฉันเข้าไปเจ็บอีกครั้งก็ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel