ตอนที่1(จุดเริ่มต้น)
12:40น.
มหาลัย DL
ฟางข้าว ขวัญข้าว....
“เห้อ!!” ฉันผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ค่านำ้ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่ารถ ค่าเทอมทุกค่า คนอย่างฉันนี่มีค่ามากเลยเนอะ
“พี่ข้าวครับ!” เสียงหล่อละมุนของใครสักคนเอ่ยเรียกฉัน ทำให้ฉันรีบหยุดเดินและหันไปมองเสียงนั้นอย่างไว เขาว่าผู้ชายเรียกแสดงว่าผู้ชายมีใจ
“จ๋าาาาา” ฉันขานรับอย่างเสียงหวานหยดย้อย
ตึกๆๆๆ
“คืนนี้ว่างไหมครับ?” รุ่นน้องที่มหาลัยนั่นเอง ได้ข่าวว่าเขาเป็นเดือนมหาลัยด้วยนะเนี่ย ว่าแต่น้องชื่ออะไรว่ะ?
“ว่างสิ” ฉันตอบเขาไปพลางมองสำรวจร่างกายที่ปึกปึนนั้น ฉันยิ่งแพ้ผู้ชายหุ่นแน่นๆ อยู่ด้วยนะเนี่ย
“ไปนอนกับผมนะครับ” น้องบอกฉันพลางยื่นแผ่นอะไรสักอย่างมาให้ฉัน มันก็คือหมายเลขห้องพักนั่นเอง หึๆ ได้กินเด็กเขาว่าชีวิตจะเป็นอมตะ สวยและสาวพันปีแน่นอนฉัน
“เท่าไหร่จ๊ะ?” ฉันเอ่ยถามน้องไป เขาก็ยิ้มให้ฉัน
“พี่ต่างหากล่ะครับที่จะต้องบอกผม” น้องพูดไปพลางยื่นมือไปเกาท้ายทอยตัวเองอย่างเขินๆ อายๆ เอ้านี่มาขอฉันเอานะแต่มันจะอายอีกเหรอเนี่ย!
“ใช้มือสองพัน ใช้ปากห้าพัน ใช้ร่องนมแปดพัน” ฉันบอกราคาเขาไป เมื่อฉันพูดเสร็จเขาก็เหมือนจะรอให้ฉันพูดต่อ แต่ฉันพูดจบแล้วนะ
“หมดแล้วเหรอครับ?” น้องถามฉันพลางทำสีหน้างงๆ แหยๆ
“ก็ใช่น่ะสิย่ะ!” ฉันตอบน้องไปพลางสะบัดผมยาวๆ ของฉันไปข้างหลังเพราะอากาศตรงนี้มันร้อนมาก
“แล้วไม่มีเสียบเหรอครับ?”
“ไม่มีย่ะ!!” ฉันตะโกนใส่เขาไปทำให้เขาตกใจหน้าเหวอไปทันที นี่เห็นฉันเป็นอะไรย่ะ! ถึงฉันเป็นคนขี้เหงาแต่ฉันไม่ใช่คนง่ายๆ นะจ๊ะ
“จะเอาหรือไม่เอา?” ฉันยกแขนขึ้นมากอดอกพลางใช้สายตาเรียบเฉยมองเขา เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองฉัน
“เอาก็เอาครับ” เขาตอบฉันมาอย่างคนที่จำใจต้องตอบ
“เอาแบบไหน มือ? ปาก? นม?”
“นมครับ”
“เอ่อ! ก็แค่เนี่ย!”
“เสียเวลาฉันหมด!!” ฉันพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
“กี่ทุ่ม?”
“สะ….สี่ครับ”
“โอเคเดี๋ยวฉันไป มีค่านำ้มันไหม?”
“มีครับ สองพัน”
“เป็นหมื่นหนึ่งพอดี”
“ล้างให้หอมๆ หน่อยนะ” ฉันเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่ความเป็นชายของเขาที่อยู่ภายใต้กางเกงนักศึกษาตัวแพงของเขา เขาก็รีบเอามือมาปิดความเป็นชายอย่างไวใบหน้าแดงก่ำไปเรื่อยๆ จนถึงใบหู
“ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อนใช่ป่ะ?”
“พะ..พี่รู้ได้ไงครับ” อาการนายมันฟ้องไอ้บ้าเอ้ย!
“เรื่องของฉัน ฉันไปแหละหิวข้าว!!” ฉันพูดเสร็จก็เดินหันหลังมาจากเขาเลย
“จะ..เจอกันครับพี่!” เขาตะโกนไล่หลังฉันมา ฉันก็ยกมือไปโบกบ๊ายบายให้เขาและเดินไปยังร้านอาหารเก่าๆ ที่อยู่ข้างมหาลัยของฉัน ฉันต้องกินต้องใช้อย่างประหยัดไม่งั้นคุณพ่อฉันจะต้องลำบากแน่ๆ
“ป้าคะ เอาเหมือนเดิมนะคะ” เมื่อฉันเดินมาถึงร้านก็สั่งอาหารที่ฉันชอบกินไป ป้าแม่ค้าก็รับรู้ทันที และเริ่มทำอาหารให้ฉัน ฉันก็นั่งเสริมสวยแต่งหน้าทาปากไปด้วยตามสไตล์ฉันว่างไม่ได้ว่างต้องสวย
สายตาของฉันที่มองผ่านกระจกแต่งหน้าไปก็เห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังทุรนทุรายตะเกียกตะกายออกมาจากหลุมทำถนนฝั่งนู้นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาลัยฉันและอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารที่ฉันนั่งอยู่ด้วย
“ผีหรือคนว่ะ?” ฉันพูดขึ้นพลางหันหน้าไปมองอย่างไว
“คนหนิ!” ฉันร้องอย่างตกใจและรีบลุกขึ้นอย่างร้อนรนใจ
“ป้าคะเดี๋ยวหนูมานะคะ!” ฉันพูดเสร็จก็วิ่งข้ามถนนไปยังถนนฝั่งโน้นทันที
“คุณลุงคะ!” ฉันร้องเรียกชายคนนั้น ที่เนื้อตัวของเขามอมแมมเลอะเทอะตามเนื้อตามตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดหน้าตาดำเป็นรอยขี้ดิน
“คุณลุงเป็นอะไรคะ?” ฉันเอ่ยถามเขาไปอย่างเป็นห่วง
“ช่วยด้วย!” เสียงรวยรินดังมาจากชายคนนั้นทำให้ฉันหันซ้ายหันขวาที่ตรงนี้เขาขุดเจาะท่อเพื่อทำน้ำประปาใหม่เลยทำให้ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาและที่ตรงนี้ชอบมีเด็กวิศวะมหาลัยอื่นมาตีกันตรงนี้บ่อยๆ
“ช่วยฉันออกไปจากตรงนี้ ฉันจะมอบชีวิตใหม่ให้เธอ” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับหยิบอะไรจากกระเป๋าเสื้อของเขาออกมาให้ฉันดู มันคือเพชรเม็ดงามที่เปล่งประกายสาดแสงส่องประกายวิบวับๆ จนฉันรู้สึกแสบตาต้องกระพริบตาปริบๆ
“ได้ค่ะไม่มีปัญหา” ฉันพูดอย่างไวพลางเอื้อมมือไปหยิบเพชรเม็ดนั้นมาและลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
“คุณลุงรอหนูตรงนี้นะคะเดี๋ยวหนูไปเอารถมารับ” ฉันพูดบอกคุณลุงไปและรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น
ตึกๆๆๆ
“นี่ค่ะเงินค่าข้าว!” ฉันวางแบงค์ยี่สิบสองใบลงบนโต๊ะอาหารในร้านอาหารและหยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์ดังมาสะพายและรีบวิ่งออกมาจากร้านมุ่งหน้าไปยังที่จอดรถของมหาลัยรวมทันทีและสตาร์ทรถออกมามุ่งหน้าไปจากตรงนี้เพื่อไปรับคุณลุงคนนั้น และฉันก็ไปช่วยคุณลุงขึ้นมาจากหลุมนั่น
“คุณลุงจะให้หนูไปส่งที่ไหนคะ?” ฉันที่ขับรถออกมาจากตรงนั้นได้ไกลแล้วก็เอ่ยถามเขาไป ฉันให้คุณลุงคนนั้นนั่งอยู่เบาะหลัง ฉันมองไม่เห็นหน้าตาของเขาเพราะเนื้อตัวของเขามอมแมมไปหมด ดูเหมือนว่าเขาจะโดนทำร้ายมานะ คนที่ทำร้ายเขามันกะเอาเขาตายเลยนะมองจากสภาพบาดแผลแล้ว
“ที่ที่ปลอดภัย” คุณลุงตอบฉันมาด้วยนำ้เสียงรวยรินเขาหายใจช้าเหมือนคนที่กำลังจะหมดแรงหายใจเสียงที่เปล่งออกมาก็เบาหวิว
“โรงพยาบาลเหรอคะ?” ฉันพูดไปและก็มองหน้าคุณลุงผ่านกระจกมองหลังไปด้วยอย่างร้อนรน
“ไม่ได้ อย่า พาฉันไปที่ๆ มีคนรู้!” เขาพูดบอกฉันด้วยนำ้เสียงที่ยากจะลำบากเหมือนเขาจะเจ็บหน้าอกเพราะฉันเห็นเขาเอามือกุมหน้าอกตัวเองไว้
“แล้วที่ไหนล่ะคะคุณลุง?” ฉันร้อนรนถามเขาไปแต่แล้วชายคนนั้นก็ค่อยๆ หลับตาลงอย่างคนหมดแรง ฉันเบิกตาโตขึ้นอย่างตกใจ ตายรึเปล่า
“คุณลุงคะ!!”
“คุณลุง!!” ฉันเรียกเขาเสียงดังแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะตื่นเลย ฉันที่กำลังจะมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลแต่ก็จำคำพูดสุดท้ายที่คุณลุงเขาทิ้งท้ายไว้ให้และเพชรเม็ดนี้ก็น่าจะค่อนข้างแพง ฉันคงต้องทำตามที่เขาขอ
บ้าน ฟางข้าว
“เป็นยังไงบ้างคะพี่บาส?” ฉันที่ยืนร้อนรนอยู่ข้างๆ พี่บาสก็เอ่ยถามเขาทันทีที่เขาหันมาสบตาฉัน พี่บาสยิ้มละมุนให้ฉัน
“แค่ร่างกายบอบช้ำนิดหน่อยเพราะโดนรุมตีมานะครับ แผลภายนอกไม่ค่อยน่าห่วงแต่ข้างในเราคงต้องดูกันไปเรื่อยๆ ครับ” พี่บาสเอ่ยบอกฉัน ฉันจึงยกมือไหว้ขอบคุณเขา
“ขอบคุณนะคะพี่บาส”
“ไม่เป็นไรไว้ทำอาหารไปเผื่อพี่บ่อยๆ ก็พอครับ"
“ค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่บาส พี่บาสก็ยิ้มให้ฉันและเขาก็เก็บเครื่องมือแพทย์ลงในกระเป๋าของเขา เขาเป็นเพื่อนบ้านของฉันเอง เขาเป็นคุณหมออยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ตอนนี้คุณลุงเนื้อตัวสะอาดแล้วเพราะพี่บาสจัดการให้ฉันหมดเลย ฉันรู้สึกผิดนิดๆ ที่เรียกผู้ชายคนนี้ว่าคุณลุง ทั้งที่เขายังดูหล่ออยู่เลยนะ น่าจะอายุประมาณสี่สิบต้นๆ ได้นะ
“พี่ขอตัวก่อนนะครับ คืนนี้ต้องไปเข้าเวร”
“เดี๋ยวข้าวเดินไปส่งค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ น้องข้าวดูคุณลุงเถอะ พี่ไปเองได้”
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่บาส” ฉันยกมือไหว้พี่บาสอีกครั้ง
“ด้วยความยินดีครับ” พี่บาสยกมือรับไหว้ฉัน และเขาก็เดินออกไปจากห้องนอนของฉัน ฉันก็หันกลับมาให้ความสนใจผู้ชายคนนี้ต่อ หน้าตาที่เต็มไปด้วยบาดแผลแต่ก็ทำให้ฉันรู้ว่าเขาหล่อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูป หน้าตาคุ้นๆ เหมือนกันน่ะเนี่ย โชคดีที่ได้เสื้อผ้าของพี่บาส แต่คืนนี้ฉันคงจะไปทำงานไม่ได้แล้วสิ
“แต่เอ๊ะ! ถ้าเพชรเม็ดนั้นเป็นของปลอมล่ะ?” ฉันพูดขึ้นและรีบเดินไปดูที่กระเป๋าของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือโต๊ะเล็กๆ ของฉันอย่างไว
“ต้องลองดู!” ฉันหยิบเพชรขึ้นมากำไว้พลางมองไปยังผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงและไม่รอช้ารีบวิ่งออกมาจากบ้านมุ่งหน้าไปยังร้านเพชรในห้างที่ใกล้ๆ บ้านฉัน
ร้านเพชร ห้างW
“ราคาเท่าไหร่?” ฉันเอ่ยถามพนักงานของร้านไปโชคดีที่มันเป็นเพื่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับฉัน
“เป็นล้านมึง” มันตอบฉัน ฉันก็ยิ่งตกใจตาเบิกโตขึ้นและรีบเอามือไปคว้าเพชรเม็ดนั้นและวิ่งออกมาจากร้านอย่างไว ฉันต้องเก็บไปให้เขา ฉันจะมาเอาของของเขาไม่ได้เพราะมูลค่ามันเยอะเกินไป ฉันไม่กล้ารับไว้
พรึบ
“โอ้ย!” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บพร้อมกับร่างของฉันพุ่งเข้าไปชนเข้ากับร่างของผู้ชายคนหนึ่งอย่างแรง ฉันรีบร้อนจนลืมดูทางได้ยังไงกันเนี่ย
“ระ....รุ่นพี่!” ฉันเอ่ยขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อคนที่ฉันชนและรับร่างของฉันไว้คือเฮียเอ็กซ์ เฮียเอ็กซ์คือประธานรุ่นปี3เขาทั้งหล่อ ทั้งรวยนิสัยก็เป็นสุภาพบุรุษอีกแถมเขายังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของเจ้านางเพื่อนสนิทฉันอีกนะ ทำให้ฉันกับเฮียเอ็กซ์มักจะเจอกันบ่อยๆ
“รีบร้อนไปไหนอ่ะเรา?” เฮียเอ็กซ์ปล่อยร่างของฉันให้เป็นอิสระเมื่อเขาทำให้ฉันยืนทรงตัวเองได้แเล้ว ซิกแพคเฮียเอ็กซ์นี่แน่นจริงๆ
“อ๋อจะกลับบ้านค่ะ” ฉันตอบเฮียเอ็กซ์ไปพลางรีบเอามือที่ถือเพชรไไปว้ซ่อนไว้ข้างหลังทันที
“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเฮียหน่อยสิ วันนี้เหงาๆ อ่ะ” เขาบอกฉันพลางกระพริบตาให้ฉันหนึ่งที งื้อน่ารัก
“นะนะครับนะๆๆ” เขาทำตาปริบๆ เบะปากนิดๆ เขาอ้อนฉันด้วย ใจดวงน้อยๆ ของฉันกำลังเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง ฉันกำลังจะแพ้ความเป็นสุภาพบุรุษและความขี้อ้อนของเฮียเอ็กซ์ทุกครั้งเลยที่เรามีโอกาสได้เจอกันแบบนี้
“มาคนเดียวเหรอคะ?” ฉันถามเขาไปอย่างสงสัย เฮียเอ็กซ์ก็ทำหน้าเศร้าสลดลง
“ครับ ก็เพื่อนเฮียมีแฟนกันหมดแล้วหนิ” เขาบอกฉันด้วยท่าทางน้อยใจ ทำไมผู้ชายดีๆ แบบเฮียเอ็กซ์ถึงยังไม่มีแฟนกันนะ ผู้หญิงก็เข้าหาเขาเยอะเหมือนกันนะ แต่ฉันก็เห็นว่าเพื่อนๆ เขาไม่เห็นว่าจะมีใครมีแฟนเลยสักคนหนิไม่ใช่เหรอ?
“แล้วทำไมเฮียเอ็กซ์ถึงไม่มีแฟนบ้างล่ะคะ?”
“ก็รอคนแถวๆ นี้มาเป็นแฟนอยู่อ่ะ” งื้อ เขาพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงอ่ะ? เขารอฉันเหรอ เขาแอบชอบฉันเหรอเนี่ย? โอ้มายก๊อด!!!
“ไปกับเฮียได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ” ฉันตอบตกลงเฮียเอ็กซ์ไปอย่างไว แพ้ผู้ชายน่ารักอ่ะ
พรึบ
“ใส่ช็อปเฮียก่อนเนอะ” เขาบอกฉันพลางคลุมเอาเสื้อช็อปสีแดงของวิศวะมาใส่ให้ฉัน อ๋อจริงสิฉันลืมไปเลยว่าฉันใส่สายเดี่ยวลูกไม้บางๆ แต่มีเสื้อชั้นในสีม่วงกางเกงขายาวสีซีดอยู่เนี่ย
“แฮ่ๆ ขอบคุณนะคะ” ฉันขอบคุณเฮียเอ็กซ์ไปอย่างเขินๆ ว่าแล้วว่าเมื่อกี้สายตาของเฮียเอ็กซ์มองหน้าอกฉันตลอดเวลาเลย ฉันลืมไปได้ยังไง น๊มนมฉันมีมูลค่ามากนะเขาจะมามองฟรีๆ แบบนี้ไม่ได้!