ตอนที่ 2 ตัดขาดอดีต
“ถิงถิง เหตุใดเจ้าไม่ถวายความเคารพท่านอ๋อง”
ถิงถิงยังคงจ้องมองไปที่หมิงลี่หยาง สายตาทั้งคู่สบตากันอย่างมีความหมาย นางหวังว่าเขาอาจจะจำนางได้บ้าง เรื่องราวในอดีตแม้ผ่านมานานกว่าสิบปี แต่นางยังคงจดจำเขาได้
เขาเองก็รู้สึกว่านางช่างดูคุ้นตาเขาอย่างประหลาด แต่เหตุใดเขานึกเท่าใดก็นึกไม่ออกว่าเคยพบนางที่ใด แต่เมื่อเห็นสายตาที่ท้าทายเขาอย่างไม่เกรงกลัวนั้น ทำให้เขาไม่อยากยอมแพ้
“ข้ามิได้กล่าวเกินจริง เจ้าบอกว่าสบู่ที่ร้านเจ้าทำ ทั้งให้กลิ่นหอม ทั้งสามารถระงับกลิ่นกาย และอะไรนะ…”
“เอ่อ ทูลท่านอ๋อง รักษาผิวหน้าและทำให้กายหอมพ่ะย่ะค่ะ”
“ทั้งหมดที่ว่ามานั่น ข้าคิดว่าสรรพคุณที่กล่าวอ้างมานี่ ออกจะเกินจริงไปหน่อย ข้าไม่มีสิทธิ์สงสัยงั้นหรือ”
“หากท่านอ๋องไม่เชื่อ หม่อมฉันยินดีจะให้พระองค์ได้ทดลองสินค้าของที่ร้านเพคะ หากพระองค์ทดลองใช้แล้วเกิดความเสียหาย ส่งตัวหม่อมฉันไปลงโทษได้เลย แต่หากว่าสินค้าของร้านร้อยบุปผาไม่ผิดปกติ พระองค์ต้องขอโทษหม่อมฉันต่อหน้าชาวเมืองหย่งโจว”
“บังอาจ ฟางถิงถิง นั่นท่านอ๋องนะ เหตุใดเจ้าจึงกล้าหมิ่นเบื้องสูงเช่นนั้น”
หลินเยว่ซินชี้หน้าต่อว่าฟางถิงถิง นางไม่เคยพลาดที่จะคอยซ้ำเติมฟางถิงถิงหากมีโอกาสเหมาะ
“ข้าให้ความเคารพกับทุกคน แต่มิใช่กับคนที่ดูถูกสินค้าของร้านร้อยบุปผา หากท่านอ๋องยินดีขอโทษที่ปรามาสสินค้าของข้าก่อน ข้าก็จะยินดีขอโทษพระองค์ที่เสียมารยาท”
อ๋องหนุ่มมองสายตาที่ไม่ยอมคนของนางอย่างนึกสนุกพร้อมกับยกมุมปากขึ้นมายิ้มพร้อมกับมองหน้านาง
“ได้สิ ข้าจะลองนำสินค้าของร้านเจ้าไปใช้ อ้อ ข้าซื้อ ไม่ต้องเอาให้ข้าเปล่าๆ หรอกนะ จะได้ไม่ต้องเป็นที่ครหาว่าข้ารังแกเจ้า เถ้าแก่ฟาง หากว่าสินค้าเจ้าดีจริง ข้าจะเป็นผู้ขอโทษเจ้าเอง ต่อหน้าลูกค้าเจ้าที่ร้านร้อยบุปผา เป่าอี้ จ่ายเงิน”
เป่าอี้นำเงินวางให้นางเป็นตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงพร้อมกับรับสินค้าจากอาหลินที่ส่งมอบให้เขาและเดินออกมาพร้อมกับเสียงเรียกของถิงถิง
“ท่านอ๋องเพคะ พระองค์จ่ายเงินมาเกินเพคะ ค่าสินค้านั้นเพียงแค่สามร้อยตำลึงเท่านั้น”
“ถือว่าข้าให้เป็นพิเศษ หากว่าสินค้าเจ้ามีความผิดปกติ ข้าจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า จำเอาไว้”
ท่านอ๋องพร้อมกับเจ้าเมืองเดินออกไปจากที่นั่นพร้อมกับหลินเยว่ซินที่เดินตามเขาไปติดๆ ก่อนจะหันมายิ้มเยาะเย้ยฟางถิงถิง
“ถิงถิง เจ้ากล้ามากนะที่ไปท้าทายท่านอ๋อง เจ้าไม่รู้หรือว่าท่านอ๋องพระองค์นี้ดุมากเพียงใด หากว่าสินค้าเจ้ามีความผิดปกติแม้แต่น้อย หรือหากว่าพระองค์ใช้แล้วมีปัญหา อย่าว่าแต่ร้านร้อยบุปผาของเจ้าเลย แม้แต่หัวของเจ้าก็มิอาจรักษาเอาไว้ได้”
“แม่นางหลินเกรงว่าจะไม่ได้ใช้สินค้าของร้านข้าถึงเพียงนี้ ข้าต้องขอบคุณมากจริงๆ”
“ถิงถิง นี่เจ้า…ข้าเปล่านะ ข้าไม่เคยใช้ เจ้าอย่ามาพูดเพ้อเจ้อ ข้าจะรอดูวันที่เจ้าระเห็จออกจากเมืองหย่งโจว”
ฟางถิงถิงมองตามคณะท่านอ๋องไป เขาจำนางไม่ได้ เขาลืมนางไปแล้วจริงๆ สายตาที่เขามองมามีแต่ความดูถูก น้ำเสียงที่ใช้พูดก็แฝงด้วยคำดูแคลนนางที่เป็นเพียงแม่ค้าที่คิดว่าทำสินค้ามาหลอกขายแก่ผู้คน แม้ว่าเขาจะยอมรับสินค้าของนางไปทดลอง แต่ก็ทำให้ลูกค้าที่รออยู่เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจ จนบางคนถึงกับเดินออกไปก็มี
“คุณหนู ท่านอ๋องผู้นั้นช่างปากร้ายเสียจริง เขามาทีเดียวทำลูกค้าเราหายหมด ยังดีที่วันนี้มีแต่ลูกค้าเก่าที่เคยใช้สินค้าแล้วรู้จักพวกเราดี ไม่เช่นนั้น ..คิดแล้วโมโห อย่าให้ข้าเจอเขาข้างนอกนะ จะฟันปากให้ดู”
“อาหลาน เก็บของกลับร้านกันเถิด”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
แม้ว่าสินค้าจะขายจนหมด ถิงถิงก็รู้สึกไม่อยากอยู่ร่วมงานนี้จนจบเสียแล้ว แม้ว่าช่วงบ่ายจะมีงานจิบชาและการละเล่นหลายอย่างที่น่่าสนใจ แต่นางกลับไม่มีอารมณ์ที่จะดูงานเสียแล้ว อาหลานกับเด็กๆ ในร้านขออนุญาตอยู่ต่อ นางไม่ขัด แต่อาหลินขอกลับพร้อมนางเพราะไม่อยากให้นางกลับคนเดียวเพราะเป็นห่วงคุณหนู
ร้านร้อยบุปผา
ลูกค้ายังคงเนืองแน่นเช่นเดิม ส่วนหนึ่งก็มาจากงานจิบชาชมบุปผาที่จัดขึ้นที่สวนของเมืองหย่งโจว ถิงถิงขอตัวไปพักด้านบน อาหลินจึงอยู่ช่วยหน้าร้านและไม่รบกวนนาง
เมื่อขึ้นไปถึงห้องนอน ถิงถิงจึงได้หยิบกล่องไม้ออกมาพร้อมกับมองของที่อยู่ในนั้น เป็นถุงหอมซึ่งเก่ามากแล้ว ถุงหอมผ้าแพรสีเงินที่ปักด้วยดิ้นไหมสีทอง
“เจ้าตัวเล็ก นี่เป็นถุงหอมที่ท่านแม่ทำให้ข้า เจ้าเก็บเอาไว้ วันหน้าหากเราพบกัน เจ้าก็มอบมันให้ข้า ข้าจะได้จำเจ้าได้ทันที”
“ท่านพี่หยางหยาง ท่านจะกลับบ้านแล้วหรือเจ้าคะ ท่านจะไม่มาที่นี่แล้วหรือ”
“ใช่แล้วข้าหายดีแล้ว พวกเขาจะส่งข้าไปยังที่ปลอดภัย อาจารย์เจ้าก็เกรงว่าหากอยู่นาน ข้าจะต้องทำให้ทุกคนเดือดร้อน เจ้าอย่าลืมข้านะเจ้าตัวเล็ก”
“เจ้าค่ะ ข้าจะคิดถึงท่านนะพี่หยางหยาง”
เด็กน้อยก้มลงจูบหน้าผากเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าเขาราวๆ สองสามปี ตอนนั้นหมิงลี่หยางอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้นที่เขาถูกลอบสังหารพร้อมมารดาบนเขาหนานเซียงระหว่างที่ไปกราบไหว้บรรพชนสกุลเหรียนของมารดา
โชคดีที่อาจารย์เฟยเทียนและฟางถิงถิงเจอเขาที่หนีรอดมาได้ พวกเขาจึงพามาที่เรือนสมุนไพรของอาจารย์กลางหุบเขาหนานเซียน
“อาจารย์จะเป็นคนไปส่งท่านหรือ”
“ไม่หรอก จะมีคนมารับข้า เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะต้องกลับมาหาเจ้าแน่นอน”
“ข้าจะรอท่านเจ้าค่ะพี่หยางหยาง”
ไม่นานนักหลังจากที่เขาจากไป นางกับอาจารย์ก็อยู่กันบนเขา จนอายุนางอายุสิบเจ็ดปี วรยุทธที่ร่ำเรียนจากอาจารย์มาก็มากพอที่จะดูแลและป้องกันตัวเองได้ อีกทั้งสรรพวิชาสมุนไพรและตำราที่ควรรู้ นางก็ล้วนแต่ร่ำเรียนกับอาจารย์เฟยเทียนมาแล้วทั้งสิ้น
ในวันที่นางอายุครบสิบแปดปี ก็มีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายพวกนางเนื่องด้วยมาสืบข่าวของเด็กที่พวกเขาเคยช่วยเหลือเมื่อหลายปีก่อน เหตุการณ์นั้นคร่าชีวิตอาจารย์เฟยเทียนไปจากถิงถิง นางจำได้เพียงผู้ฆ่าเป็นชายและมีรอยสักที่ข้อมือและหน้าอกรูปตราประทับหกแฉก และมีคำว่า หง ในตรานั้น
“อาจารย์ ข้าต้องแก้แค้นให้ท่านให้ได้ คนที่ฆ่าท่าน ข้าจะไม่ปล่อยมันไปได้เลยสักคน”
นางต้องระเห็จมาที่เมืองหย่งโจวเพื่อซ่อนตัวอยู่นานถึงสองปี กว่าที่จะเริ่มเปิดร้านสบู่และเครื่องประทินโฉมขึ้นมา และกลายเป็นร้านร้อยบุปผาเฉกเช่นทุกวันนี้
มาวันนี้ เพื่อนในวัยเด็กปรากฏตัวต่อหน้านางอีกครั้ง แต่เขาเป็นถึงท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ และยังเป็นต้นเหตุของเรื่องหายนะที่เขาหนานเซียนจนทำให้อาจารย์ของนางต้องตายด้วย
“หมิงลี่หยาง ในเมื่อท่านจำข้าไม่ได้ก็อย่าได้มีความทรงจำใดๆ ต่อกันอีกเลย”