บท
ตั้งค่า

ตอนที่4(อยากรู้จัก)

ท่ารถสองแถว

ตลาดสดS

08:45น.

อบเชย อบมณีรัตน์…..

“ระเราจะไปด้วยรถคันนี้เหรอ?”ฉันเอ่ยถามส้มๆไปพลางชี้มือไปที่รถกระบะหนึ่งคันที่จอดอยู่ข้างทางและมีหลังคาที่ทำจากผ้ายางมีที่นั่งให้คนนั่งสองฝั่ง ฉันกระพริบตาปริบๆมองหน้าส้มๆที่ยืนนับเศษเหรียญอยู่อย่างขะมักเขม้น

“ใช่….ถูกสุดแหละ”

“อะไรคือถูกสุดอ่ะ?”ฉันถามส้มๆไปอย่างงุนงงสงสัย นางก็หันมาทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ฉัน อะไรของนางเนี่ย?

“ก็เที่ยวรถนี่ไง….คนละสี่สิบบาทไปกลับพร้อม”เธอบอกฉันพลางชี้นิ้วไปที่รถคันนี้ที่ตอนนี้มีคนนั่งอยู่ในนั้นแค่สี่คน

“ค่าขนมอาทิตย์นี้ของฉันก็เหลือน้อยนิดเดียวแล้วยังต้องประหยัดไปซื้อกบอีก”นางว่าเสียงเหนื่อยๆ

พรึบ

“เอานี้ก็ได้เดี๋ยวฉันจ่ายให้”ฉันว่าพลางยื่นแบงค์พันหนึ่งใบให้ส้มๆ นางก็เบิกตาโตขึ้นและเงยหน้ากลับมามองหน้าฉัน

พรึบ

“แกเก็บเงินแกไว้เลย…ที่ฉันคบแกไม่ใช่เพราะเงิน”เธอว่าเสียงดังและจริงจังจนฉันรู้สึกผิดขึ้นมา

“ขอโทษนะ….ก็แค่อยากช่วย”ฉันว่าอยากสำนึกผิด จนส้มๆต้องเดินมาโอ๋ฉัน

“ไม่เป็นไร…อย่าทำหน้าเศร้าดิ…โดดเรียนครั้งแรกของแก….แกควรจะตื่นเต้นเร้าใจดิ^_^”

“เหอะๆๆ”ฉันหัวเราะแห้งๆให้นางไป ฉันว่าเครียดมากกว่าล่ะมั้ง

“ตกลงจะไปไหมน้อง?”พี่คนที่ยืนคุยอยู่กับส้มๆเมื่อกี้นี้เอ่ยเสียงดังจนฉันสะดุ้ง

“ไปพี่ๆๆ”ส้มๆหันไปตอบพี่เขาและก็หันมาจับมือฉันแล้วกึ่งลากกึ่งจูงฉันให้เดินไปขึ้นรถกระบะคันนี้ โดยที่เราทั้งคู่เข้าไปนั่งข้างในสุดโดยที่ฉันนั่งข้างในสุดและมีส้มๆนั่งขนาบข้างและฉันก็มองไปรอบๆรถคันนี้ มีคุณยายอายุมากแล้วผมของท่านเป็นสีขาวนั่งหลับอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฉันและข้างท่านมีหญิงสาวอายุกลางๆคนนั่งเอาพัดไม้พัดให้คุณยายมันเป็นภาพที่อบอุ่นที่สุดจนฉันต้องเผลอยิ้มออกมา

“เห้ย!ไอ้สามคนนั้นอ่ะ…จะไปเปล่า!”

“ยืนทำลับๆล่อๆอยู่ได้!”

“เสียงดังหน่อยนะอบ…คนที่นี้ก็เป็นแบบนี้”ส้มๆหันมาเอ่ยบอกฉัน ฉันจึงพยักหน้าเข้าใจและยิ้มกว้างว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย ไม่รู้สึกรำคาญเลยแต่กลับรู้สึกชอบซะมากกว่า ชีวิตที่เป็นคุณหนูวันๆนอนอยู่แต่ในห้องแอร์แล้วก็ไปเที่ยวห้างแอร์เย็นๆซื้อเสื้อผ้าชุดละไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นไม่เหมือนคนพวกนี้ ถึงเขาจะไม่รวยเหมือนฉันแต่มองพวกเขามีความสุขมากกว่าฉันซะอีกนะ

“ไปครับไป!”

“ไปก็ขึ้นมาดิ”

“คนละสี่สิบไปกลับตลาดน้ำ”พี่คนคอยเก็บตังค์พูดเสียงดังจนฉันละอดเป็นห่วงคอเขาไม่ได้ เพราะกลัวว่าเขาจะเจ็บคอน่ะสิ

“ไอ้โฟมมึงจ่ายตังดิ!”

“กูโดนไอ้พวกห่านั่นขโมยตังค์ไปหมดแล้วอ่ะ”

“นี่น้อง….โดดเรียนรึเปล่าเนี่ย?”เสียงสงสัยของพี่คนเก็บตังค์ว่าอย่างจับผิด ฉันกับส้มๆก็แอบชำเลืองไปมองที่เกิดเหตุก็เห็นเด็กนักเรียนชายสองคนกำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียนสีน้ำเงินของตัวเองกันอยู่อย่างขะมักเขม้นและหันมายิ้มแหยๆให้พี่คนเก็บตังค์ที่ยืนเท้าสะเอวด้วยสีหน้าดุๆ

“จะไปไหมเนี่ยคนอื่นเขารอ…”

“ไม่มีตังค์ก็ไม่ต้องไป”พี่คนเก็บตังค์พูดตัดบท

“ไปครับพี่ไป”

“ไอ้ไฟจ่ายตังค์ดิ”

พรึบ

“หมดเนื้อหมดแล้วเนี่ยพี่”

พรึบ

“สามคนคนละสี่สิบก็…..หนึ่งร้อยยี่สิบพอดี”

“เชิญ!”

“ขอบคุณครับ”

พรึบ พรึบ พรึบ

“ไปได้เลยพี่!”พี่คนเก็บตังค์ขึ้นมาบนรถและตะโกนเอ่ยบอกพี่คนขับรถไปให้ออกรถไปยังตลาดน้ำนอกเมืองทันที

“ส้มๆ?”เสียงเรียกชื่อส้มๆด้วยน้ำเสียงตกใจปนดีใจจากนักเรียนชายสามคนที่เพิ่งขึ้นรถมา ทำให้ส้มๆหันไปมองเสียงเรียกนั้นทันที

“ไอ้ฟาย!”ส้มๆหันไปเรียกนักเรียนชายคนที่นั่งข้างเธออย่างเบื่อหน่ายพร้อมทำหน้าเอือมระอาเต็มทน ฉันจึงแอบมองสองคนนี้แล้วเผลอยิ้มบางๆออกมา ดูเหมือนเด็กนักเรียนชายคนนั้นจะชอบส้มๆนะ

“ไฟครับผมชื่อไฟไม่ได้ชื่อฟายครับ^_^”

“แล้วฉันจะเรียกแกแบบนี้…แกมีปัญหาอะไรม่ะ?”ส้มๆยกแขนขึ้นมากอดอกและใช้สายตาชำเลืองมองไปที่ผู้ชายหน้าตี๋ผิวขาวคนนั้นและสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นผู้ชายหน้าหล่อที่มีใบหน้าฟกช้ำและเลือดออกซิบๆอยู่ที่หางคิ้วและมุมปากเขาที่กำลังมองมาที่ฉันพอดี เขากำลังยิ้มหวานๆให้ฉันอยู่ หน้าตาคุ้นๆนะทั้งแววตาทั้งจมูกทั้งริมฝีปากทั้งแก้มนวลๆนั้น ทั้งผมทรงนี้การแต่งตัวที่ผิดระเบียบแบบนี้อีก

พรึบ พรึบๆ

“อะไรของมึงไอ้โฟม!”คนที่ชื่อไฟหันไปหาเพื่อนเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“อะไรน่ะ?”ไฟขยับหูไปหาเพื่อนของเขาที่กระซิบกระซาบบอกอะไรสักอย่างแต่ไฟก็ขมวดคิ้วงงหนักกว่าเดิม

“ห๊ะ….มึงจะกระซิบทำไม?”

“พี่ไบรท์ให้มึงถามส้มๆว่าเพื่อนเธอชื่ออะไร!”เพื่อนของคนชื่อไฟตะโกนเสียงดังจนสี่คนรวมถึงคุณยายที่นั่งหลับด้วยต่างพากันหันไปมองที่เด็กนักเรียนคนนั้นทันทีด้วยความตกใจ

“อ๋อ…นี่คิดจะจีบเพื่อนฉันเหรอย่ะไอ้ฟาย?”ส้มๆหันไปมองไฟอย่างเอาเรื่อง จนไฟที่กำลังยกมือไหว้คนที่ชื่อไบรท์ที่นั่งคนสุดท้ายติดทางลงต้องหันมามองส้มๆพลางกระพริบตาปริบๆมองส้มๆด้วยสายตาหวาดกลัว

“เปล่านะ….เราไม่ได้ชอบเพื่อนเธอสักหน่อย…แต่เราชอบ…”

“ชอบอะไรไอ้ฟาย…อย่าบอกนะ…ว่าแกชอบฉันอ่ะ?”ส้มๆเบิกตาโตมองหน้าไฟอย่างตกใจ ซึ่งผิดกับไฟที่ใบหน้าค่อยแดงขึ้นเรื่อยๆจนรามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง

“หยุดความคิดงี่เง่าของแกซ่ะ!”

พรึบ

โป๊ก

“โอ้ย!!”เสียงร้องโอดโอยของชายสองคนร้องดังขึ้นเมื่อส้มๆใช้มือผลักศีรษะของไฟอย่างแรงในขณะที่เขายังไม่ได้ตั้งตัวทำให้ศีรษะของไฟไปกระแทกเข้ากับศรีษะของเพื่อนเขาอย่างแรง

“ส้มๆ”ฉันเอื้อมมือไปจับแขนส้มๆและเรียกเธอที่ตอนนี้กำลังหัวเราะอย่างสะใจชื่นชมกับผลงานของตัวเองอยู่

“ก็มันจะชอบฉันอ่ะแก”ส้มๆหันมาหาฉันพลางทำสีหน้ารังเกียจให้ฉันดู ฉันก็ยิ้มและชะเง้อคอไปมองไฟกับเพื่อนของเขาที่ตอนนี้ทั้งคู่ต่างพากันกุมศีรษะของตัวเองอยู่ด้วยใบหน้าเหยเกเพราะน่าจะเจ็บน่าดูเลยน่ะ เสียงดังโป๊กสนั่นขนาดนั้น

“มีคนชอบดีกว่ามีคนเกลียดนะ^_^”ฉันว่าอย่างแง่บวก ส้มๆเบะปากมองบน

“แต่คนที่ชอบฉันต้องไม่ใช่มัน”ส้มๆว่าพลางทำท่าขยะแขยงแบบสุดๆ

“ส้มๆตกลงเพื่อนเธอชื่อไรอ่ะ?”คนที่ชื่อไฟยังคงเอ่ยถามส้มๆอยู่หลังจากที่เขาเงียบไปสักพักหนึ่ง ส้มๆกระตุกยิ้มและหันไปทำสายตาดุๆใส่ไฟ

“แล้วเพื่อนนายชื่ออะไรอ่ะ?”ส้มๆถามกลับพลางมองเลยสองคนนี้ไปมองคนที่สามที่นั่งหน้ายิ้มอยู่หลังสุด ทำให้ในจังหวะนั้นสายตาของเราสองคนผสานกันเข้าพอดีแล้วหัวใจดวงน้อยๆของฉันก็เผลอเต้นโครมครามขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ชื่อพี่ไบรท์”

“รุ่นเดียวกันทำไมต้องเรียกพี่?”

“พี่ไบรท์ซ้ำชั้นหนึ่งปี”เป็นอีกคนที่ตอบขึ้นมาแทนไฟ คนนี้หน้าตาเละมากมีแต่รอยเลือดและเขียวช้ำเสื้อนักเรียกจากสีขาวก็เป็นสีดำและแถมยังมีรอยรองเท้าประทับอยู่อีกหลายแห่งบนเสื้อของเขาด้วยนะ

“โง่หรือเกเร?”ส้มๆถามอย่างจับผิด ทำให้สามคนนั้นหันมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก

“ส้มๆ”ฉันเรียกส้มๆเบาๆเพราะกลัวว่าเธอจะไปพูดไม่เข้าหูเขาและจะโดนเด็กนักเลงพวกนี้ตีเอานะ

“ถ้าคิดจะจีบเพื่อนฉันก็ต้องผ่านการสัมภาษณ์ของฉันไปก่อนแล้วถึงฉันจะให้ทำความรู้จักกับเพื่อนของฉันได้”ส้มๆจ้องหน้าคนที่ชื่อไบรท์อย่างไม่กระพริบตา น้ำเสียงของนางดูจริงจังกว่าทุกครั้ง

“ตกลงไหม?”

“เราตกลง”ไบรท์ตอบทันทีอย่างไวเหมือนเขาไม่ได้คิดหนักกับข้อเสนอของส้มๆเลย ที่เขาถามฉันรัววันนั้นเพราะเขาอยากรู้จักฉันเหรอ เขาจะจีบฉันเหรอ เขาชอบฉันเหรอ?

“หึ…ดี”

“แล้วเราล่ะ?”

“แกทำไม?”ส้มๆมองหน้าไฟอย่างงุนงงที่อยู่ๆไฟก็พูดแทรกขึ้นมา

“เราก็อยากโดนส้มๆสัมภาษณ์เหมือนกันนะ”

“อย่างแกไม่ต้องโดนฉันสัมภาษณ์หรอก….เพราะฉันรู้จักสันดานแกดี!”

“เพล้ง!”

“อะไรว่ะเพล้ง?”เพื่อนของไฟมองหน้าไฟอย่างสงสัยที่อยู่ๆเขาก็พูดคำว่าเพล้งออกมา

“หน้าแตกไงไอ้ฟาย”

“มึงสิฟาย”

“มึงนั้นแหละฟาย!”

“ไม่ต้องเถียงกัน….ฟายทั้งคู่นั้นแหละ!!”ส้มๆตัดบทเสียงดังจนทั้งไฟและเพื่อนของไฟต่างพากันเงียบลงเพราะส้มๆหน้าตาน่ากลัวมากอ่ะตอนนี้

“เอ่อนี่…ชื่อไอ้ไฟ…ไฟที่บ้านมันอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านฉันอ่ะ”

“ที่บ้านเขาขายก๋วบจั๊บน่ะเหรอ?”ฉันถามส้มๆไปอย่างนึกออกเพราะฉันไปบ้านส้มๆบ่อยและบ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านของส้มๆที่เปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งก็มีร้านขายก๋วยจั๊บและข้าวราดแกงเปิดอยู่ฝั่งตรงข้ามเช่นกัน สองร้านนี้ขายดีกันทั้งคู่อ่ะ

“ใช่บ้านมันนั้นแหละ”ส้มๆว่าเสียงดังอย่างนึกหมั่นไส้ซึ่งผิดกับไฟที่ทำหน้าแหยๆใส่ส้มๆ

“นอกนั้นไม่รู้จัก”ส้มๆว่าพลางหันไปมองเพื่อนๆของไฟ ไฟก็ทำท่านึกขึ้นได้

“อ๋อนี้เพื่อนเราเอง…คนนี้ชื่อไอ้โฟมบ้านมันเป็นลูกเศรษฐีอ่ะอยู่ในซอยของพวกคนรวย”ไฟแนะนำเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างเขาให้พวกเรารู้จัก ส้มๆก็แค่เหลือบหางตาไปมองอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก ฉันเองก็แค่พยักหน้าและยิ้มน้อยๆให้โฟม โฟมเองก็ยิ้มให้เราอย่างเป็นมิตร

“ส่วนนี้พี่ไบรท์”ไฟผายมือไปที่คนสุดท้ายที่นั่งยิ้มแฉ่งให้ฉันอยู่

“สวัสดี^_^”ฉันเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพและยกมือขึ้นไปโบกมือทักทายเขาเพราะกลัวว่าถ้าฉันไม่ทำตัวเป็นมิตรเขาอาจจะโมโหและตีฉันก็ได้นะ

“หวัดดี^_^”ไบรท์ยกมือขึ้นมาทักทายฉันกลับด้วยใบหน้ายิ้มเขินๆ

“ฮ่ะแฮ่ม!!”ส้มๆทำเสียงกระแอมกระไอ จนไบรท์ต้องเลิกจ้องหน้าฉัน แล้วส้มๆก็หันมาหาฉันและชี้มือให้ฉันดูอะไรข้างทางไปเรื่อยเปื่อยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของฉันสินะ นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้จักและมีเพื่อนเป็นผู้ชาย ชีวิตวัยรุ่นของฉันต่อจากนี้คงจะสนุกน่าดูเลยเนอะ^_^

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel