ตอนที่3(ไบรท์สุทธิพงษ์)
บ้านลุงของไบรท์
07:40น.
ไบรท์ สุทธิพงศ์…..
“ไบรท์”
“ไอ้ไบรท์!!”
“อะไรลุง!!”ผมตะโกนตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด คนจะหลับจะนอนเรียกอยู่ได้
“มึงจะไปไหม…โรงเรียนอ่ะ…แปดโมงแล้ว!”
“ทำตัวให้มันดีๆหน่อยดิว่ะ…ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน!!”ขึ้นเลยครับ เจอคำนี้ขึ้นเลย จะด่าผมจะตีจะเตะผมยังไงผมไม่เคยว่าแต่ผมไม่ชอบให้ด่าถึงบุพการีของผมที่พวกท่านไม่รู้เรื่องอะไรด้วย!!!
“อาศัยอยู่บ้านคนอื่นเขาทำตัวให้มันดีๆหน่อย!”
“ถ้าไม่เห็นแก่สงสารแม่แกฉันไม่มีทางรับเด็กไม่มีพ่ออย่างแกมาเลี้ยงหรอก!!”ลุงเสาร์พูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจดูแค้นผม ผมจึงต้องจำใจลุกจากที่นอนที่มีเพียงแค่เสื่อสี่เหลี่ยมขาดๆหนึ่งผืนหมอนทรงอิฐเก่าๆหนึ่งใบผ้าห่มที่ได้มาจากงานศพอีกหนึ่งผืน ผมมีที่ให้ซุกหัวนอนมีเงินไปกินโรงเรียนวันละยี่สิบบาทแต่ต้องแลกกับการออกไปส่งหนังสือพิมพ์ตามร้านต่างๆในตลาดนี้ ซึ่งผิดกับไอ้บัสที่มันได้ห้องส่วนตัวติดแอร์ที่นอนสะอาดนุ่มๆทั้งๆที่ผมนอนอยู่หน้าห้องน้ำในซอกแคบๆเเค่นั้น…ไอ้บัสคือลูกของลุงเสาร์ ลุงเสาร์ก็คือพี่ชายของแม่ผม ส่วนผมก็คือ ไอ้ไบรท์ชื่อจริง สุทธิพงศ์ เอิกหาญ นามสกุลของแม่ผมเอง ผมอายุ17แต่อยู่ ม.4เพราะว่าโดนซำ้ชั้นตอนม.3 เพราะทำตัวดีเกิ๊นประชดนะครับ ผมเป็นเด็กนักเลงอัธพาลที่วันๆชอบมีเรื่องชกต่อยไปวันๆเรียนก็โง่ไปโรงเรียนก็ไปสายแถมยังโดดอีกตั้งหากแถมโคตรจน จนโคตรๆๆๆ!
“ไอ้ลูกไม่มีใครเอา….มึงจะเกิดมาทำไมว่ะไอ้ไบรท์เป็นส่วนเกินของครอบครัวกู!”เสียงดูถูกดูแคลนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังทำให้ผมทำได้เพียงแค่กำหมัดแน่นแววตาสั่นไหวด้วยความโกรธ แต่ตราบใดที่ผมยังต้องอาศัยชายคาบ้านหลังนี้อยู่ ผมอยากจะต่อยหน้าไอ้ลูกพี่ลูกน้องที่มันไม่เคยคิดว่าผมเป็นพี่มันเลยสักครั้งแทบจะทุกนาทีที่มันดูถูกและเหยียดหยามผม แต่ผมก็ทำอย่างงั้นไม่ได้ ทั้งๆที่ผมอยากจะออกไปจากที่นี้แทบจะทุกนาทีแต่เพราะผมอยากเจอแม่ของผม ผมจึงไปจากที่นี้ไม่ได้….เพราะถ้าผมไปแล้วแม่กลับมา…แม่จะไม่เจอผมน่ะสิครับ
พรึบ
“กูจะอาบน้ำ”ไอ้บัสมันเอาขาของมันขึ้นมาถีบบานประตูกันผมไม่ให้ผมเข้าไปในห้องน้ำ ผมก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้ามัน หน้าตากวนส้นทีนแบบมันกำลังเยาะเย้ยผมอยู่ ผมทำได้เพียงแค่มองมันด้วยแววตาแข็งกร้าวกำหมัดแน่นทั้งที่ในใจผมกำลังจินตนาการว่ายัดหมัดใส่หน้ามันไปแล้ว
“เป็นแค่ผู้อาศัยอ่ะก็ต้องรอให้เจ้าของบ้านใช้ก่อนสิ….หรือว่าถ้าแกรอไม่ได้ก็เชิญนู้น”ป้าพิษว่าพลางชี้นิ้วไปที่นอกบ้านที่มีโอ่งน้ำตั้งอยู่ในนั้นเป็นน้ำที่มาจากน้ำฝนเวลาฝนตก เขาเอาไว้ใช้ล้างเท้าล้างมือกันก่อนเข้าบ้าน ป้าพิษคือแม่ของไอ้บัสเมียของลุงเสาร์เป็นป้าสะใภ้ของผม ถ้อยคำดูถูกรังเกียจดูแคลนผมและอยากให้ผมออกไปจากบ้านหลังนี้มันชินกับผมซะแล้วล่ะครับ ผมเจอแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนโต ตั้งแต่วันที่แม่จันทร์ของผมเอาผมมาฝากให้ลุงเสาร์เลี้ยงเพราะท่านต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดเลยไม่มีเวลาดูแลผม แล้วตั้งแต่วันนั้นท่านก็ไม่เคยกลับมาหาผมอีกเลย และที่เขาบอกว่าผมเป็นลูกไม่มีพ่อก็เพราะว่าพ่อผมเป็นใครก็ไม่รู้เเม่ไม่เคยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อให้ผมฟัง มีแต่ป้าพิษที่พูดกรอกหูผมทุกวันว่าพ่อผมมาข่มขืนแม่ผมจนท้องและก็หนีหายไปไม่รับผิดชอบไม่ดูแลไม่อะไรเลยสักอย่าง แต่ถึงยังไงผมก็อยากเจอเขาสักครั้ง อยากจะถามเขาว่า ทำให้ผมเกิดมาทำไมทั้งที่ไม่ต้องการผม
“ยังยืนมองหน้าฉันอยู่อีกแกนี่มัน!!”ป้าพิษจ้องผมเขม่นอย่างไม่พอใจที่ผมเอาแต่ยืนมองหน้าท่านอยู่
พรึบ โพล๊ะ เพล้ง
ผมยืนตาไม่กระพริบเจ็บปวดทั้งใจและกาย เพราะป้าพิษเขวี้ยงแก้วใสใส่หน้าผมจนโดนกับแผลเดิมที่ผมไปมีเรื่องชกต่อยกับคู่อริผมจนเกือบตายและก็ทำให้ได้พบกับเธอ คนที่ทำให้ผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป และรู้ว่าผมจะอยู่บนโลกนี้ต่อไปเพื่อใคร….เธอนางฟ้าของผม เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลอาบลงมาบนหน้าผม เพราะหางคิ้วที่มันเคยแตกและเลือดก็หยุดไหลไปแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับแตกหนักเข้าไปมากกว่าเดิมเพราะโดนวัตถุที่เขวี้ยงมาอย่างแรงกระแทกเข้ากลางแผลเดิมเต็มๆเลือดเหนียวๆค่อยๆไหลผ่านม่านตาของผม ผมมองเห็นสองคนแม่ลูกทำหน้าสะใจอยู่ นั่นยิ่งทำให้ผมคับแค้นใจเข้าไปอีก ไม่รู้ว่าเขาจะจงเกลียดจงชังผมไปถึงไหนทั้งๆที่ผมไม่เคยทำตัวให้เป็นภาระของเขาเลยสักครั้ง อาจจะแค่นอนและอาบน้ำกินข้าวทั้งๆที่ผมก็ทำงานแลกกับทุกอย่าง บ้านของลุงเสาร์ทำกิจการเกี่ยวกับการส่งหนังสือพิมพ์ตามร้านต่างๆในตลาดสดโดยมีผมที่เป็นคนวิ่งส่ง ส่วนป้าพิษก็ทำน้ำเต้าหู้ขายอยู่ในตลาด ซึ่งก็มีผมที่คอยตั้งร้านและจัดร้านขนของและรวมไปถึงส่งน้ำเต้าหู้ให้ด้วยเช่นกัน โดยจักรยานคันเก่าของผมที่มันเป็นทั้งเพื่อนทำงานทั้งเพื่อนเที่ยวในเวลาเดียวกันได้ดีจริงๆ
“ไปทำแผลซะไป๊…ก่อนที่เลือดสกปรกๆของแกจะมาเลอะบ้านฉัน!!”เสียงของลุงเสาร์ดังมาจากทางด้านหลังของผม ผมจึงกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายไว้ไม่ให้มันไหลออกมาเดินไปหยิบชุดนักเรียนที่แขวนอยู่ที่ราวและเดินออกไปทางหลังบ้านเพื่อจะไปอาบน้ำคลองหลังบ้านและแต่งตัวไปโรงเรียน ผมอาบน้ำไปก็ร้องไห้ไป นึกน้อยใจกับชีวิตของตัวเอง ที่ผมทำตัวเหลวแหลกไปวันๆก็เพราะคิดว่า คนแบบผมคงไม่มีใครต้องการ จะทำอะไรก็ได้คงไม่มีใครสนใจอยู่แล้วหนิ ถ้าผมไม่อยู่บนโลกนี้ ชีวิตของคนพวกนี้คงมีความสุขน่าดู
“พี่ไบรท์พี่ๆๆๆ”เสียงเรียกผมเสียงดังด้วยน้ำเสียงร้อนรนทำให้ผมที่ติดกระดุมเสื้อนักเรียนยับๆอยู่ต้องหันกลับไปหาต้นเสียงนั้น ก็พบกับไอ้ไฟรุ่นน้องที่โรงเรียนผมแต่มันอยู่ห้องเดียวกับผมเพราะผมซ้ำชั้น มันวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาผม
“มีอะไรว่ะ?”ผมถามมันไปพลางใส่เข็มขัดกางเกงนักเรียนไปด้วย
“ไอ้โฟมพี่ไอ้โฟม!”
“ไอ้โฟมทำไม?”ผมถามมันอย่างร้อนรนใจ เพราะไอ้โฟมคือเพื่อนของไอ้ไฟรุ่นน้องผมเหมือนกันและพวกมันสองคนก็นับถือผมมาก
“ไอ้โฟมมีเรื่องกับเด็กโรงเรียนลีอีกแล้วพี่!” เด็กโรงเรียนลีหรือลีนุกูลที่ไอ้ไฟพูดถึงคือโรงเรียนคู่อริผมนั้นแหละเป็นโรงเรียนชายหญิงรวมกันไม่ใช่โรงเรียนชายล้วนเหมือนผม พวกมันตั้งตัวเป็นอริกับพวกผมมาตั้งแต่สมัยรุ่นพี่สืบทอดจนมาถึงรุ่นผม และผมก็ถูกเลือกให้เป็นหัวโจกของโรงเรียน
พรึบ
“ไปสิว่ะรอไร!”ผมบอกไอ้ไฟพร้อมกับถือกระเป๋านักเรียนวิ่งนำหน้าไอ้ไฟไปด้วยความเป็นห่วงไอ้โฟม
“ที่ไหนว่ะ?”ผมหันไปถามไอ้ไฟที่วิ่งตามหลังผมมาติดๆ
“หลังตลาดพี่!”ไอ้ไฟตะโกนตอบผม ผมพยักหน้ารับรู้
“เออ!!”ผมมุ่งหน้าใส่เกียร์หมาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต และผมก็มาถึงหลังตลาดที่มีเด็กโรงเรียนกางเกงดำนับสิบคนยืนถือไม้หน้าสามพลางกำลังรุมกระทืบใครสักคนที่อยู่กลางวงล้อมของพวกมัน
“ไอ้พวกหมาหมู่!!”ผมตะโกนไปอย่างโมโห พลางทิ้งกระเป๋านักเรียนลงบนพื้นและวิ่งเข้าไปลุยกับพวกมัน
“มึงยังอยู่อีกเหรอว่ะไอ้ไบรท์?”
“คนอย่างกูนรกไม่รับหรอกเว้ย!!”ผมตะโกนสุดเสียงพร้อบกับกำหมัดแน่นและวิ่งเข้าไปในวงล้อมของเด็กกางเกงดำและก็เกิดการตะลุมบอนกันเกิดขึ้น โดยผมอยู่ตรงกลางคนนับสิบ ปล่อยหมัดปล่อยเท้าอย่างไม่คิดชีวิตคำว่าพี่น้องของผมมันสำคัญเสมอ
ตุ๊บ ตั๊บ ตุ๊บ ตั๊บ
“โอ้ย!!”
“โอ้ย!!”
พลั๊ว พลั๊ว
ผมใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็ทำให้เด็กกางเกงดำนับสิบคนล้มลงไปนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้นอย่างทรมานจากความเจ็บ บางคนหัวแตก บางคนปากแตก บางคนคิ้วแตก เพราะผมใช้ไม้หน้าสามที่พวกมันเตรียมมาฟาดลงไปอย่างไม่ยั้งมือด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ
พรึบ
“ไอ้โฟม!”ผมหันไปมองร่างที่นอนสลบเหมือดของรุ่นน้องผมที่ร่างของมันเต็มไปด้วยเลือดโดยมีไอ้ไฟเข้าไปพยุงร่างของเพื่อนรักมันอย่างเป็นห่วงน้ำตาลูกผู้ชายของเราสองคนไหลรินออกมา
“มันไม่หายใจแล้วพี่”ไอ้ไฟเงยหน้าขึ้นมามองผมพลางร้องไห้ออกมา ผมก็ขยับเข้าไปนั่งยองๆตรงร่างของไอ้โฟม
“ทำไมมึงอ่อนแอยังงี้ว่ะไอ้โฟม….มึงจะทิ้งกูกับไอ้ไฟไปไม่ได้น่ะเว้ย!”
“ลุกขึ้นมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้!!”ผมตะโกนแหกปากพลางเขย่าร่างของไอ้โฟม จนในที่สุดผมก็เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของไอ้โฟม
“ไอ้สัสมันแกล้งพี่!!”ไอ้ไฟว่าพลางปล่อยร่างของไอ้โฟมทิ้งลงพื้นอย่างไร้เยื่อใย
พรึบ โพล๊ะ
“โอ้ยสัสไฟ!!”ไอ้โฟมร้องโอดโอยขึ้นมาพลางเอามือไปคลำท้ายทอยของตัวเองและหันไปมองไอ้ไฟอย่างคาดโทษ ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ไอ้โฟมมันปลอดภัย
“กลั้นหายใจหลอกกู!!”ไอ้ไฟว่าพลางลุกขึ้นยืนและใช้เท้ายกขึ้นหมายจะถีบไปที่ร่างของไอ้โฟมแต่ก็โดนสายตาดุๆของผมห้ามไว้ก่อนเท้าของไอ้ไฟจึงหยุดค้างกลางอากาศได้ทันท่วงที
“ไหวไหมไปโรงบาลป่ะ?”ผมถามไอ้โฟมไปอย่างเป็นห่วงพลางเข้าไปพยุงร่างของมันให้ลุกขึ้นยืนเพื่อจะออกไปจากตรงนี้
“ไหวพี่ไม่ต้องไปหรอก…ดีนะพี่มาช่วยผมไว้ได้ทัน…ไม่งั้นผมคงตายจริงๆแน่”ไอ้โฟมมองหน้าผมแววตาของมันบ่งบอกว่าซาบซึ้งในน้ำใจของผมมาก วันแรกที่ผมเจอมันก็เจอมันในสภาพแบบนี้แหละครับ มันมีเรื่องชกต่อยผมก็เข้าไปช่วยมันและนับตั้งแต่วันนั้นมันก็ยกให้ผมเป็นศิษย์พี่มันไปเลย ผมไม่รู้จะพูดอะไรจึงเอ่อออรับเป็นศิษย์พี่มันไปเลย
“ไม่เหมือนไอ้ห่าไฟ…ที่ทิ้งผมให้โดนยำตีนคนเดียว!”ไอ้โฟมว่าพลางมองไปที่ไอ้ไฟอย่างน้อยใจและหมั่นไส้มัน แต่ผมรู้ว่าพวกมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ เถียงกันบ้างตีกันบ้างแต่พวกมันโคตรรักกันอ่ะ
“กูไปตามพี่ไบรท์มาช่วยมึงต่างหากล่ะ”ไอ้ไฟเถียงกลับพลางเดินมานั่งขนาบข้างผมที่นั่งอยู่บนม้านั่งหินอ่อนข้างทางโดยมีไอ้โฟมที่เอามือจับแผลตัวเองอย่างทุกข์ทรมานนั่งอยู่ข้างผมอีกด้าน
“เหอะ!”ไอ้โฟมหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้ไฟและไอ้ไฟก็ทำท่าล้อเลียนไอ้โฟม โดยมีผมที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกมันสองคนและผมก็นั่งขำกับท่าทางของพวกมัน เด็กน้อยจริงๆ
“เร็วๆสิอบเชย!!”
“เร็วแล้วนะ”เสียงอันแสนหวานที่ผมจำได้แม่นว่าเสียงใครดังมาจากทางด้านซ้ายของผม ผมหันขวับมองไปยังต้นเสียงทันทีก็พบกับเด็กผู้หญิงสองคนที่คนข้างหลังผมจำได้ดีว่าเธอคือใคร วันนี้เธอน่ารักจังแก้มป่องๆผิวขาวอมชมพู ริมฝีปากชมพูกับผมที่ถักเปียเดียวผูกด้วยโบว์สีขาวชุดเอี๊ยมยีนส์ของเธอเวลาเธอใส่ช่างน่ารักเหลือเกิน^//^
“โคตรน่ารักเยยย^_^”ผมพูดพลางทำหน้าเพ้อฝันเมื่อเห็นรอยยิ้มหวานๆของเธอก็ทำให้ผมยิ้มตามเธอไปด้วย คนอะไรยิ้มทีโลกเป็นสีชมพูเลย
“พี่ไบรท์…เป็นไรพี่?”ไอ้ไฟเงยหน้าถามผมอย่างสงสัยโดยที่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมัน เพราะสายตาของผมกำลังจดจ้องไปที่ร่างบางของเธอคนนั้นอยู่ เธอโดนเพื่อนของเธอจูงแขนให้เดินตามไปที่ไหนสักแห่งอย่างเร่งรีบ
พรึบ
“เห้ย!พี่ไปไหนพี่?”เสียงไอ้โฟมร้องเสียงหลงทักถามผมทันทีที่ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ไปตามจีบหญิง!”
“ไปตามจีบหญิง!!”ทั้งไอ้ไฟทั้งไอ้โฟมต่างตะโกนขึ้นมาเสียงดังพร้อมๆกันจนผมต้องหันกลับมาหามันและทำหน้าดุๆใส่มันเพราะเธอคนนั้นหันมามองน่ะสิ
“พวกมึงจะตะโกนทำพ่อง!”
“ก็ตั้งแต่พวกผมรู้จักพี่มา…ไม่เคยเห็นพี่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยหนิครับทั้งๆที่ผมก็ยุให้พี่จีบน้องส้มๆลูกสาวเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวพี่ก็ไม่สนด้วยซ้ำ”ไอ้ไฟหันไปขอความคิดเห็นจากไอ้โฟมแล้วพวกมันก็พยักหน้าอย่างเข้าใจกันและหันกลับมามองหน้าผมอย่างสนใจและงุนงงปนแปลกใจปะปนกัน
“ก็คนนี้กูสนอย่าถามมากได้ป่ะ!”ผมว่าอย่างรำคาญแต่ก็กลบเกลื่อนอาการเขินของผมเองด้วยแหละ^//^
“งั้นพวกผมไปด้วย”ไอ้ไฟตะโกนขึ้นพลางเดินตามหลังผมมาติดๆแทบจะสิงร่างผมได้ ผมจึงเอือมระอากับพวกมันจึงต้องจำใจให้พวกมันตามมาด้วย ว่าแต่คนน่ารักของผมโดดเรียนเหรอ มองเธอไม่ใช่คนแบบนั้นเลยนะ?แต่คนน่ารักแบบเธอจะยอมมารู้จักกับคนแบบผมรึเปล่า เพราะเมื่อวานเธอยังวิ่งหนีผมเลย….แล้ววันนี้ล่ะ…เธอจะวิ่งหนีผมอีกไหม…