บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

WARNING 9 เด็กขี้เมา

เคนจิยังทำหน้าเหว่อไม่หายกับสิ่งที่เป่าเป้ยทำกับอชิ แต่ในตอนที่จะยกมือขึ้นไปป้องกันเจ้านายก็ถูกอชิปัดมือออกก่อน เขาส่ายหน้าไปมาเบา ๆ เป็นการห้ามปรามแล้วแสยะยิ้ม

"แฮ่ ๆ เจ็บไหมคะ" เป่าเป้ยเอ่ยถามชายหนุ่มก่อนจะหยิบปีกไก่ไปจ่อปากเขา "กินสิคะ ปีกไก่"

"เธอเมามากแล้ว ควรไปนอน"

"ไม่เมา~" เด็กสาวหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วเท้าคางกับโต๊ะ มองหน้าอชิอย่างยิ้ม ๆ "พี่คนหล่อ~ หล่อจริง ๆ เลยค่ะ ตอนที่พี่ยืนมองพระจันทร์…พี่เหมือนเทพบุตรเลย"

"อะแฮม!" เคนจิทำเสียงกระแอมกระไอเมื่อเป่าเป้ยเริ่มพูดอะไรไปเรื่อยโดยไร้สติ แต่เด็กสาวกลับส่ายหน้าพัลวันแล้วยื่นมือไปแตะปลายจมูกโด่งคม "อย่าปีนเกลียวได้ไหม" เคนจิหนักใจแต่ก็ทำได้เพียงเอ่ยบอกเธอแม้จะไม่เป็นผลก็เถอะ

"พี่คนหล่อ.."

"หึหึ.. เด็กน้อย" อชิเอ่ยขึ้น เป่าเป้ยก้มหน้าลงแล้วยิ้มหวาน ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้เธอทำในสิ่งที่ตอนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนไม่กล้าทำ แต่จู่ ๆ ภาพเหตุการณ์ในอดีตก็ฉายเข้ามาในหัวเธอ ใบหน้าสวยไร้รอยยิ้มแต่กลับแสดงออกถึงความกลัวจนแววตาสั่นระริก เคนจิหันมองหน้ากันกับเจ้านายอย่างไม่ได้นัดหมาย ไม่นานเสียงสะอื้นไห้ก็เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อจากการขบเม้ม

"อึก.. ยะ.. อย่าทำอะไรหนู~" เป่าเป้ยกอดตัวเองและพึมพำเสียงสั่น ท่าทางที่แสดงออกถึงความกลัวสุดขีดทำให้อชิยื่นมือไปจับไหล่เธออัตโนมัติ เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา แววตาที่ส่งมาฉายแววเจ็บปวดและแฝงด้วยเรื่องราวมากมายอยู่ในนั้น

"เป็นอะไร"

"ปะ.. เป้ยกลัว"

"กลัวอะไร อยู่ที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสาวน้อย" คำพูดปลอบประโลมเด็กสาวค่อย ๆ หลุดออกมาจากปากชายหนุ่ม เขาไม่เคยต้องมานั่งปลอบใครแบบนี้มาก่อนและเธอคงเป็นคนแรก แต่ยิ่งเขาพูดดีด้วยเท่าไหร่เรื่องที่กระทบจิตใจก็ฉายเข้ามาในหัวเรื่อย ๆ คล้ายว่าเธอเก็บกดและอดกลั้นมานาน เป่าเป้ยร้องไห้ออกมาจนตัวโยน พาบรรยากาศหดหู่ลงทันที "งั้นร้องออกมาเลย ไม่ต้องเก็บไว้ในใจ" ฝ่ามือหนาเลื่อนจากไหล่มนขึ้นมาบนศีรษะทุยเล็กและลูบเบา ๆ

"อึก.. ฮือ~"

"เก่งแล้วตัวแค่นี้ มีงานทำ หาเงินใช้เองได้"

"มะ.. มันฆ่าแม่หนู"

"…"? เคนจิชะงักค้างกับคำพูดที่เด็กสาวเอ่ยออกมา

"เธอ.. มีอะไรในใจ เจอเรื่องสะเทือนใจมางั้นเหรอ" เป่าเป้ยพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนที่จะฉีกเนื้อไก่ใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ พาลทำให้เคนจิพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ ด้วยความระอา

"ไม่ต้องปลอบแล้วครับนาย กินได้แบบนี้คงไม่เป็นไรแล้ว"

"เธอร้องไห้หนัก คงเจอเรื่องแย่ ๆ มา"

"คงงั้นครับ"

"เป้ยอยากกินมาม่า" เป่าเป้ยพยายามใช่ตะเกียบคีบมาม่าขึ้นมาใส่ปากด้วยความทุลักทุเลจนเคนจิเห็นแล้วขวางหูขวางตาเลยคีบมาม่าใส่ลงในจานเพื่อให้เป่าเป้ยตักกินเอง

"อื้อ~ เป้ยอยากนอนแล้ว" เด็กสาวสูดเส้นมาม่าเข้าปากแล้วลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก อชิเงยหน้าขึ้นมองแต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเด็กสาวสะดุดเบาะรองนั่งล้มพับลงบนตัวชายหนุ่ม เคนจิกัดปากแน่นพลางทำตาโตกับภาพที่เห็น

"เธอ.. " อชิรีบดันตัวเป่าเป้ยออกจากตัวเอง แต่ริมฝีปากจิ้มลิ้มกลับบดบี้ลงบนหน้าอกเขาแม้เธอจะพยายามลุกขึ้นก็เถอะ

"เมาแล้วรั้วแบบนี้อย่าไปดื่มที่ไหนนะ" เคนจิรีบพยุงตัวเป่าเป้ยลุกขึ้นแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อยเป็นการขอโทษผู้เป็นนายที่ดูแลเธอไม่ได้ดีพอ ทว่าเด็กสาวกลับหัวเราะขบขันแล้วอ้าปากกัดปลายนิ้วอชิที่กำลังจะจับผมออกจากใบหน้าให้ เขาชักมือกลับอย่างไวด้วยความตกใจ

"นายเป็นอะไรไหมครับ"

"เปล่า พาเธอไปพักเถอะ"

"ครับนาย" เคนจิส่ายหน้าพัลวันแล้วรีบพาเป่าเป้ยออกมาจากสวนไร้กังวล ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วไม่ค่อยมีคนเดินเพ่นพ่านแถวนี้ พอพาเธอเข้ามาที่ห้องพักเด็กสาวก็ฟุบตัวนอนลงบนที่นอนทันที

เช้าวันต่อมา

เป่าเป้ยซบใบหน้าลงกับผิวนุ่ม ๆ หาความอบอุ่นพลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วย แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอต้องตื่นเต็มตาคือเสียงหายใจของใครคนหนึ่ง

"ว้าย! พะ.. พี่คนหล่อ!"

"ตื่นแล้วเหรอ"

"นะ.. นี่เราสองคน"

"ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเมาและ.. เข้ามาในห้องนี้"

"นะ.. หนูเนี่ยนะคะ" เป่าเป้ยทำหน้าไม่อยากเชื่อแล้วก้มมองชุดนอนกระโปรงของตัวเอง ก่อนที่ภาพเหตุการณ์บางอย่างจะฉายเข้ามาในหัว ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจและรีบขยับออกห่างจากอชิ

เหตุการณ์ก่อนหน้านี้

เป่าเป้ยพลิกตัวนอนหงาย รู้สึกเหนียวตัวจนต้องลากสังขารมาอาบน้ำและสวมใส่ชุดนอนลายการ์ตูนน่ารักหากแต่ความเมามายยังไม่ส่าง เธอสะอึกจนตัวสั่นพลางปรือตามองหาน้ำดื่ม แต่ก็พบว่าน้ำดื่มในห้องนอนหมดแล้ว

แกรก…

เธอเปิดประตูห้องนอนแล้วเดินโงนเงนออกมาจากห้อง เดินมาหนึ่งก้าวก็ถอยหลังหนึ่งก้าว ทว่าแสงไฟสว่างจากทางข้างหน้าก็เรียกความสนใจจากเป่าเป้ยได้เป็นอย่างดี แต่หารู้ไม่ว่าแสงไฟสว่างออกมาจากหอนอนของอชิ

เด็กสาวพึมพำเดินเข้ามาอย่างง่ายดายเพราะอชิยังไม่ได้นอน

"อื้อ~ กินน้ำหน่อย~"

"เป่าเป้ย" อชิตกใจไม่น้อยที่เห็นเด็กสาวเดินเข้ามาในห้องนอนส่วนตัว เธอเดินเข้ามารินน้ำชาดื่มจนหมด

"อึก.. พี่คนหล่อ~"

"เธอไม่ควรออกมาจากห้องนอนตอนนี้ เดี๋ยวฉันไปส่ง" เป่าเป้ยยกมือขึ้นห้ามปรามแล้วคลี่ยิ้มให้อชิ

"หนูกลับเองได้ พี่ไม่ต้องห่วงนะคะ" เด็กสาวเกาหัวแกรก ๆ แล้วเดินผ่านอชิไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนอนเขาอย่างง่ายดาย อชิจะเอ่ยห้ามก็ไม่ทันแล้ว แถมชายกระโปรงยังเปิดขึ้นจนเห็นแก้มก้นอีก ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาแล้วเบือนหน้าหนี เดินไปดึงชายกระโปรงเธอลง

"เป้ย.. กลับไปนอนห้อง เธอนอนที่นี่ไม่ได้" อชิพ่นลมหายใจออกเบา ๆ พลางสะกิดขาเด็กสาว แต่เป่าเป้ยกลับนอนนิ่งและยังทำเสียงอ้อแอ้อีก เขาจนปัญญาแล้วเดินไปปิดประตูห้องนอน เลื่อนม่านระเบียงมาปิดไว้ทุกทาง ก่อนจะกลับมายืนมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง

"อื้อ~"

"เธอนอนที่นี่ไม่ได้ ลุกขึ้น"

"อื้อ~ เป้ยปวดหัว เป้ยเหมือนจะอ้วกเลย" เป่าเป้ยลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ ปรือตามองหน้าชายหนุ่มก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วก้าวลงมาหาอชิ เรียวแขนเล็กกอดเขาไว้แน่นและฝังปลายจมูกเชิดลงกับอกแกร่งสูดดมกลิ่นหอมละมุนจากกายเขาเข้าปอดฟอดใหญ่ "ขนาดอยู่ในความฝัน.. พี่ยังตัวหอมเลยพี่คนหล่อ~"

เธอยังคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความฝันงั้นเหรอ อชิแทบยกมือกุมขมับ เป่าเป้ยไม่ยอมผละออกจากตัวเขาจนกระทั่งเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นบริเวณหน้าห้องนอน อชิรู้ได้ทันทีว่านั่นคือเคนจิ

"ฉันกำลังจะนอน" อชิเอ่ยบอกก่อนขณะที่มือข้างหนึ่งปิดปากเด็กสาวไว้ เป่าเป้ยพยายามปัดมือหนาออกแต่กลับถูกอชิมองด้วยสายตาดุดัน เธอจึงยืนนิ่งและมองหน้าเขาเงียบ ๆ ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ เป่าเป้ยเลียฝ่ามือหนาจนอชิรีบปล่อยมือด้วยความตกใจ

"นายเป็นอะไรไหมครับ" เคนจิได้ยินเสียงขลุกขลักเหมือนเจ้านายกำลังทำอะไรจึงเอ่ยถามไป

"ไม่มีอะไร นายออกไปได้แล้ว" เขาขยับปากตอบกลับพร้อมกันสบตากับเด็กสาว เป่าเป้ยยิ้มตาหยีแล้วตวัดลิ้นเลียมือหนาที่เพิ่งวางลงบนริมฝีปากอีก "อย่าซน"

"นอน~ ฝันหวาน"

"…"! อชิหมวดคิ้วเข้มแล้วปล่อยมือออกจากปากเธอ เป่าเป้ยดึงแขนแกร่งแล้วนั่งลงขอบเตียง

"นอน~ นอนด้วยกัน ฝันหวาน~"

พรึบ!

เธอรวบรวมแรงดึงอชิจนชายหนุ่มล้มลงบนเตียงอย่างไม่ตั้งตัว ทันทีที่ร่างหนานอนลงเป่าเป้ยก็ตวัดแขนขึ้นมาก่ายเกยตัวเขาแถมยังยกขาขึ้นมาทับไว้อีกราวกับว่าเป็นหมอนข้างที่เธอใช้กอดนอนทุกวัน

"เป่าเป้ย.."

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel