ตอนที่ : 14 เจ้าหนูทำพิษ 3
ลับหลังนิภาไปแล้วนายอนุสรณ์ก็ยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม มองภรรยา แล้วอมยิ้มอย่างมีความสุขตามไปด้วย
“เห็นคุณมีความสุขแบบนี้ ผมก็พลอยดีใจไปด้วย”
“ฉันมีความสุขเหรอคะคุณนุ”
“ไม่รู้ตัวเลยหรือยังไง ตั้งแต่ไอ้ตัวเล็กเกิดมาคุณก็ดูผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย วันหยุดก็เอาแต่เลี้ยงหลานเล่นกับหลาน ผมล่ะอยากให้ตาภูมิมีหลานให้เราเร็ว ๆ เหมือนกัน”
“มีก็เท่านั้นแหละค่ะ”
“ทำไมล่ะคุณมด”
“คุณคิดว่าหนูลิลจะยอมให้ลูกของตัวเอง มาอยู่กับเราเหรอคะ ถ้าพวกเขาแต่งงานมีลูก เราก็ยิ่งจะห่างจากลูกออกไปทุกที”
“พูดถึงตาภูมิทีไรก็น้อยใจทุกทีใช่ไหม ลูกอาจจะกำลังมีปัญหาเรื่องงานก็ได้ หมู่นี้ผมโทรหาก็พูดน้อยจนแทบจะนับคำได้ หรือว่าเราควรลงไปหาลูกที่กรุงเทพฯ ดูสักหน่อยไหมคุณมด”
“ไม่ล่ะค่ะ ถ้าลูกอยากมาเขาก็มาเองนั่นแหละ นี่แสดงว่าเขาไม่อยากมาจริง ๆ จริงไหมน้องภัทรลุงภูมิเขาไม่สนใจยายก็ไม่เป็นไรเนอะ ยายมีน้องภัทรอยู่แล้วทั้งคน” หญิงสูงวัยหันไปเล่นกับเจ้าตัวน้อยในอ้อมแขน ซึ่งกำลังน่ารักน่าชังเสียเหลือเกิน เสียงอ้อแอ้น้อย ๆ ยิ่งทำให้นางเมธาวียิ้มกว้างอย่างมีความสุข
หลังจากเจ้าของบ้านทั้งสองได้ออกไปทำงานแล้ว นิภาก็แวะมาดูลูกเป็นระยะระหว่างทำงาน พอได้เวลานอนก็พาเจ้าตัวน้อย กลับไปนอนบนเตียงที่บ้านหลังเก่า เวลาหลับของลูกก็เป็นเวลาพักผ่อนของคนเป็นแม่ด้วย ชีวิตของหญิงสาวเป็นอยู่แบบนี้ในแต่ละวัน เป็นชีวิตที่เรียบง่ายแต่ก็มีความสุขอยู่ไม่น้อย
“เอานี่ของใช้เด็กหนูภา คุณมดแกซื้อมาให้น้องภัทร” ยายหนึ่งยื่นถุงของใช้เด็กให้หญิงสาวในช่วงหัวค่ำ
“เสื้อผ้าเด็กกับของใช้ คราวก่อนที่คุณป้าซื้อมาก็ยังไม่หมดเลยนะคะยายหนึ่ง สิ้นเปลืองเปล่า ๆ แล้วภาก็เกรงใจคุณป้าท่านด้วย มาอาศัยเขาอยู่แท้ ๆ”
“อย่าพูดแบบนี้ให้คุณมดแกได้ยินเชียวนะ แกรักของแก อีกอย่างหนูภาก็มาทำงานไม่ได้มาอยู่ฟรี ๆ ดูซิยังมาทำหน้าที่อยู่เป็นเพื่อนคุณยายเฉลาลักษณ์แกอีก”
“คุณยายคงขึ้นสวรรค์ไปเกิดใหม่แล้วล่ะค่ะยายหนึ่ง แต่ว่าภาก็อุ่นใจนะคะ ที่ได้มองรูปของคุณยายทุกวัน เหมือนท่านยังอยู่ภาตลอดเวลาเลยค่ะ”
“หนูภาคงรักคุณยายเฉลาลักษณ์มากเลยใช่ไหมลูก”
“ค่ะรักมาก ถ้าไม่มีคุณยายภาก็คงไม่มีทุกวันนี้เหมือนกันค่ะ อะไรที่ทำเพื่อคุณยายได้ภาก็ยอมทุกอย่างค่ะ” คำว่าทุกอย่างนั้นลึกซึ้งเกินกว่าที่อีกคนจะเข้าใจได้ เหมือนหญิงสาวพูดกับตัวเองเสียมากกว่า
“อ้อ นี่ขนมเบื้องสดเพิ่งทำเสร็จร้อน ๆ ยายเอามากินกับหนูภา กินคนเดียวไม่อร่อย” จานขนมเบื้องสดถูกวางไว้บนโต๊ะ
“น่ากินมากเลยค่ะยายหนึ่งไหนขอชิมหน่อย” หญิงสาวหยิบขนมเบื้องสดชิ้นหนึ่งเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ
“หอมใบเตยกับเนื้อมะพร้าวอ่อนมาก อร่อยมากเลยค่ะยายหนึ่ง” นิภาหลับตาพริ้มอย่างคนมีความสุขที่ได้ลิ้มรสของอร่อย
“สูตรของยายเองแหละหนูภา ถ้าชอบวันหลังยายจะทำมาให้กินบ่อย ๆ ดีไหม”
“ดีค่ะ” นิภายิ้มรับอย่างถูกใจ จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งกินขนมคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเข้านอน
“ไหนวันนี้มีข่าวอะไรบ้าง” ยายหนึ่งใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปมาระหว่างนั่งเล่น
“โอ๊ะ !” ก่อนจะทำหน้าตกใจกับข่าวที่เพิ่งเห็นบนหน้าจอ
“มีอะไรคะยายหนึ่งทำหน้าเหมือนมีเรื่องร้าย”
“ก็ไม่ใช่ข่าวร้ายหรอกหนูภา แต่ว่ามันเกี่ยวกับคุณภูมิของยายเอง”
“เกี่ยวกับคุณภูมิเหรอคะ” นิภายิ้มแหย ๆ เธอไม่อยากรับรู้ ข่าวคราวของเขาสักเท่าไรในตอนนี้ ตอนที่ชีวิตของเธอกำลังมีความสุขแบบปกติทั่วไป
“นางร้ายหน้าสวยพลิกบทบาทใหม่ กลายมาเป็นนางเอกหน้าสวย และรวยมากด้วย คุณลิลของยายทำไมถึงได้เก่งแบบนี้นะ” ยายหนึ่งเอ่ยชมลลิสาไม่ขาดปาก ทั้งสวยทั้งรวยและเก่งเหมาะสมกับธาวิศเป็นอย่างมาก
“เมื่อไหร่พี่ภูมิจะแต่งงานกับคุณลิลก็ไม่รู้เนอะยายหนึ่ง” นิภาเปรยเบา ๆ แต่อีกคนเหมือนไม่ได้ยิน ตั้งใจอ่านข่าวในโลกออนไลน์ต่อ
“แต่แว่วข่าวมาว่าเรื่องหัวใจตอนนี้เจ้าตัวแย้ม ๆ มาว่าโสดแล้วจ้า เฮ้ย !” อ่านมาถึงตรงนี้ ยายหนึ่งก็หันมามองหน้านิภา
“หนูภา !”
“คะ”
“หรือเพราะเรื่องนี้ที่ทำให้คุณภูมิเงียบหายไป เพราะมีปัญหากับคุณลิลนี่เอง ตายแล้วคุณมดกับคุณนุรู้เรื่องหรือยังนี่ ยายไปก่อนนะหนูภา กินขนมไปคนเดียวเลยนะลูก” ยายหนึ่งรีบนำข่าวเรื่องนี้ ไปบอกนางเมธาวีที่บ้านหลังใหญ่ นิภาก็มองตามหลังไปด้วยความรู้สึก ที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าที่ควร
“ผมว่าแล้ว ทำไมลูกเราถึงได้เงียบผิดปกติแบบนี้ ที่แท้ก็มีปัญหากับหนูลิลนี่เอง แล้วข่าวเขาลงรายละเอียดเกี่ยวกับตาภูมิไหมยายหนึ่ง” นายอนุสรณ์ฟังข่าวด่วนข่าวร้อนจากยายหนึ่งจบ ก็หันไปพูดกับภรรยา ก่อนจะหันมาถามยายหนึ่งต่อ
“ไม่มีค่ะ มีแค่ข่าวฝั่งคุณลิล”
“อ้าว เงียบไปเลยคุณมดคิดอะไรอยู่ล่ะคุณ”
“ฉันกำลังคิดว่าการที่หนูลิลได้เป็นนางเอกไปแล้ว คงไม่มาเสียเวลาอยู่กับลูกชายเราก็เป็นได้ ฉันดูหนูลิลเป็นคนจริงจังกับงานมาก จะให้ทิ้งงานที่กำลังก้าวหน้า มาแต่งงานกับลูกชายเราตอนนี้หนูลิลคงทำไม่ได้หรอกค่ะ” หัวอกคนเป็นแม่ในตอนนี้ นึกสงสารลูกชาย ที่อยากแต่งงานกับลลิสาใจแทบขาด
“มีรักก็ต้องมีเลิก มันเป็นเรื่องธรรมดานั่นแหละคุณมด เดี๋ยวผมโทรไปหาลูกก่อนนะ เผื่อลูกอยากระบายอะไรให้ฟัง”
“ดีเหมือนกันค่ะ ผู้ชายด้วยกันน่าจะคุยกันรู้เรื่องกว่าฉัน”
นายอนุสรณ์หายไปคุยโทรศัพท์กับลูกชาย นานราวครึ่งชั่วโมง ก่อนจะกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เหมือนคนมีความทุกข์ใจอยู่
“เรื่องไม่ดีใช่ไหมคะคุณนุ หนูลิลเลิกกับตาภูมิแล้วจริง ๆ ใช่ไหม” นางเมธาวีพูดดักเหมือนไม่ได้แปลกใจอะไรในเรื่องนี้
“เรื่องนี้มันก็ใช่คุณมดแต่มันมีเรื่องใหญ่กว่านั้นอีก”
“เรื่องอะไรคะคุณนุ” เห็นสีหน้าของสามีดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ คนเป็นภรรยาก็พลอยนึกห่วงตามไปด้วย
“บริษัทของตาภูมิกำลังแย่ ง่าย ๆ ก็คือขาดทุนนั่นแหละ”
“ก็ไหนตาภูมิบอกว่ากำลังไปได้สวยไม่ใช่เหรอคุณ”
“มันมีเรื่องลูกค้าฟ้องร้องแล้วดิสเครดิตกัน จนไม่มีใครกล้ามาจ้างงานที่บริษัทของลูกอีก พนักงานก็ทยอยลาออกกันไปเกือบหมดแล้ว นี่เหลืออยู่แค่สองสามคนเอง”
“ตาภูมิลูกแม่ ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่บอกเรา”
“ลูกเกรงใจน่ะคุณมด แต่ผมก็บอกให้ลูกกลับมาบ้านเราก่อน จะได้ไม่ต้องเครียดซ้ำซ้อน ทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องหัวใจแบบนี้ ดีไม่ดีเราอาจจะชักจูงให้ลูก สืบทอดกิจการของเราต่อก็ได้นะคุณมด”
“ถ้าได้แบบนั้นก็ดีสิคะ ฉันจะได้มองหาลูกสะใภ้แถวนี้ไว้ให้ลูกสักคน” คนเป็นแม่ก็คิดวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า
“อย่าเพิ่งคิดเรื่องนั้นเลยคุณมด เรื่องหนูลิลนี่ไม่รู้อีกนานไหมกว่าตาภูมิจะทำใจได้ ผมเห็นทั้งรักทั้งหลงมาตั้งหลายปี”
“นั่นสิคะ ตั้งแต่ตอนเป็นแค่ตัวประกอบ จนไต่เต้ามาเป็นนางร้าย แต่พอได้เป็นนางเอกก็ทิ้งลูกเราเลย” นางเมธาวีอดที่จะเหน็บแนม อดีตคนรักของลูกชายไม่ได้
“ความรักมันบังคับกันไม่ได้นะคุณมด”
“ฉันรู้ค่ะคุณนุ แต่ฉันว่าไม่ใช่แค่เรื่องเป็นนางเอกหรอกค่ะ คงเพราะตาภูมิมีปัญหากับบริษัทด้วยมากกว่า”
“คุณก็พูดไป ลูกขอเคลียร์งานก่อนสองเดือนถึงค่อยกลับคุณก็เตรียมจัดห้องนอนให้ลูกใหม่ดีกว่า ไม่แน่อาจมาอยู่นี่แบบไม่กลับไปอีกก็ได้นะ”
“จริงเหรอคุณนุ โอ๊ย สาธุ ฉันหวังให้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เถอะ ไม่ได้ ๆ ฉันไปดูเครื่องนอนลูกก่อนว่ามันเก่ามากไหม จะได้ซื้อใหม่ให้” นางเมธาวีรีบเดินขึ้นบันไดไปในทันที
“คุณมดอีกสองเดือนนะคุณ” คนเป็นสามีตะโกนไล่หลังภรรยาไป แต่ก็มีรอยยิ้มของคนมีความสุขตามมาด้วย