บท
ตั้งค่า

ตอนที่ : 15 ไม่พ้นบ้าน

7

ไม่พ้นบ้าน

นิภาไม่คิดว่าชีวิตเธอ จะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัดใจถึงเพียงนี้ ในวันที่เธอต้องมาทำความสะอาดห้องนอนให้กับเขา ผู้ซึ่งกำลังจะเดินทางมาหาบุพการีที่นี่ ในไม่อีกกี่ชั่วโมงข้างหน้า

“หนูภาตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยดีไหมลูก” ยายหนึ่งขึ้นมาควบคุมการทำความสะอาดด้วยตัวเอง

“เรียบร้อยค่ะยายหนึ่ง เสื้อผ้าทุกชิ้นซักรีดและแขวนใส่ตู้หมดแล้วค่ะ”

“ดีแล้วคุณภูมิมาจะได้อยากอยู่นาน ๆ แต่ว่าไปก็สงสารแกเหมือนกันเนอะอุตส่าห์รักคุณลิลมาตั้งนาน วางแผนแต่งงานกันไว้แล้วด้วย นี่แหละน้าเขาถึงว่าความรักมันไม่เข้าใครออกใคร” ยายหนึ่งหน้าเศร้ายามเอ่ยถึงเรื่องนี้

“พวกเขาคงมีเหตุผลของเขานั่นแหละค่ะยายหนึ่ง ไม่มีใครอยากผิดหวังในความรักหรอกค่ะ แต่มันคงมีบางเรื่องที่ทำไม่สามารถรักกันต่อไปได้”

“มันก็จริงเนอะหนูภา แต่ในความผิดหวังนี้ก็ใช่จะไม่มีเรื่องดี ถ้าคุณภูมิมาอยู่นี่แบบถาวร คุณมดกับคุณนุนั่นแหละที่จะดีใจ เห็นคุณมดแย้ม ๆ ว่าจะมองหาลูกสะใภ้แถวนี้ไว้ให้คุณภูมิ จะได้อยู่ด้วยกันที่นี่ ไม่ต้องห่างกันเหมือนก่อนหน้า”

นิภาได้ยินแล้วก็ยิ้มแห้ง ๆ เธอจะไปมีสิทธิ์มีเสียงอะไรได้ในเรื่องนี้ หากเป็นแบบนั้นจริงเธอยังจะมองหน้าเขาติดอยู่อีกไหม จะกล้าให้เขาเล่นกับลูกหรือเปล่า หรือต้องย้ายออกจากที่นี่แล้วรอวันเวลาที่เหมาะสมค่อยบอกความจริง ในตอนนั้นเขาอาจจะมีลูกไปแล้วหลายคนก็เป็นได้

“หนูภา หนูภา !”

“คะยายหนึ่ง”

“ยายพูดทั้งเยอะไม่ตอบยายเลย เหม่ออะไรอยู่”

“เปล่าค่ะยายหนึ่งภาทำเสร็จหมดแล้ว ภาขอตัวไปดูน้องภัทรก่อนนะคะ”

“จ้ะไปเถอะ คุณภูมิคงถึงนี่เย็น ๆ โน่นแหละ ช่วงบ่ายหนูภาก็ไม่ต้องมาทำงานอะไรอีกแล้วนะ ดูลูกอยู่ที่บ้านเลย กับข้าวเย็นก็ไม่ต้องมาช่วย จะได้ไม่ต้องย้ายเบาะนอนไปมาให้ลำบาก”

“งั้นภาไม่ต้องมาที่นี่อีกใช่ไหมคะยายหนึ่ง” เพราะไม่อยากเจอหน้าเขาในตอนนี้ หญิงสาวจึงมีอาการดีใจจนออกนอกหน้า

“จ้ะเอาลูกนอนไปเลยก็ได้ แต่อย่าลืมมาตักข้าวไปกินที่บ้านด้วยล่ะ”

“ไม่ลืมค่า”

นิภาเดินลงบันไดมาอุ้มลูกชาย และเก็บของทั้งหมดกลับไปยังบ้านหลังเก่า หญิงสาวให้นมลูกเสร็จ แล้วก็มานั่งมองรูปถ่ายยายเฉลาลักษณ์ พร้อมกับมีคำถามมากมายอยากถามท่าน

‘คุณยายเอาไงดีคะตอนนี้ พี่ภูมิกลับมาแบบนี้ภาก็แย่สิคะ ภายิ่งโกหกคนไม่เก่งอยู่ด้วย’

รูปถ่ายของยายเฉลาลักษณ์ ยังคงส่งยิ้มให้เธอเหมือนทุกวัน เป็นความจริงที่ต้องรับรู้ ว่าเธอต้องแก้ปัญหาทุกอย่างนี้ ด้วยตัวเองเพียงลำพัง

ตกเย็นคนที่ทุกคนในบ้านเฝ้ารอคอยก็เดินทางมาถึง โดยมีบิดามารดาของเขายืนต้อนรับอยู่หน้าประตู ธาวิศมองภาพตรงหน้าแล้ว พลันหัวใจก็อุ่นวาบขึ้นมา เขาคลายรอยยิ้มออกเล็กน้อย ก่อนเอื้อมมือไปดันเปิดประตู แล้วเข้าไปสวัสดีพวกท่าน

“มาให้แม่กอดหน่อยตาภูมิแม่คิดถึงมากรู้ไหม” นางเมธาวีดึงตัวลูกชายเข้ามากอด พร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาอย่างคิดถึง จากนั้นก็ประคองใบหน้าของลูกชายเข้ามาดูใกล้ ๆ

“หน้าซูบไปเยอะเลยลูกแม่”

“ขับรถมาไกล ๆ ก็งี้แหละคุณมด มาตาภูมิขอพ่อกอดด้วยคน” นายอนุสรณ์กางแขนออกรอ

“ครับ” ธาวิศหันไปกอดบิดาต่อ

คนเป็นพ่อตบหลังลูกชายเบา ๆ เหมือนให้กำลังใจ ธาวิศค่อย ๆ ดันตัวเองออกห่างแล้วมองความรักที่อยู่ตรงหน้า ความรักที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ความรักเคยมีอยู่เท่าไหร่ ก็ยังคงอยู่เท่าเดิมไม่เคยเปลี่ยน

“คุณภูมิ !” ยายหนึ่งแทบจะถลา ออกมาจากห้องครัวหลังได้ยินเสียงรถ

“สวัสดีครับยายหนึ่ง” ธาวิศรีบยกมือขึ้นไหว้หญิงชรา ก่อนเข้าไปสวมกอดท่านอย่างคิดถึง

“คุณภูมิของยายยังหล่อเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะคะ” ยายหนึ่งพูดจบทุกคนก็พากันหัวเราะอย่างชอบใจ

“เอาล่ะกอดทุกคนหมดแล้วก็เข้าบ้านกันเถอะลูก ดีนะไม่ไปเรียกหนูภามากอดด้วยอีกคน” คำพูดของคนเป็นพ่อทำให้ลูกชายสะดุ้งเล็กน้อย

“คุณนุก็พูดไปว่าแต่ยัยภาอยู่ไหนล่ะยายหนึ่ง ไม่เห็นมาช่วยยายหนึ่งทำกับข้าวเลย ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” นางเมธาวีถามขึ้น ระหว่างพากันไปนั่งที่ห้องรับแขกของบ้าน

“อยู่บ้านค่ะคุณมด ยายบอกเองแหละว่าให้พาลูกนอนไปก่อนไม่ต้องออกมาก็ได้ ทางนี้ยายดูแลได้”

“อ้อ ที่แท้ก็อยากทำเองคนเดียวใช่ไหม”

“ก็กับข้าวคุณภูมิก็ต้องฝีมือยายคนเดียวสิคะคุณมด”

“จ้า คิดเองเออเองทั้งนั้น ไปเอากระเป๋าตาภูมิขึ้นไปเก็บได้แล้วไป อยากทำเองดีนัก ถ้าหนูภาอยู่ก็จะได้ช่วยหิ้วแล้วนี่”

“ไม่ต้องก็ได้ครับแม่ผมหิ้วเองก็ได้มีไม่กี่ใบเอง”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณภูมิ ยายทำได้ยายแข็งแรงดี” ยายหนึ่งพูดแล้วก็เดินกลับไปที่รถ ขนกระเป๋าสามใบของธาวิศ ขึ้นไปเก็บบนห้องนอน

“ของน้อยไปไหมตาภูมิไปอยู่กรุงเทพฯ ตั้งหลายปีทำไมมีมาแค่สามใบเอง” คนเป็นพ่อนึกสงสัย

“เอามาเท่าที่จำเป็นครับคุณพ่อ ของไม่สำคัญก็ทิ้งไว้นั่นแหละ” ธาวิศบอกบิดาแบบยิ้ม ๆ เขาซื้อคอนโดมิเนียมอยู่กลางกรุง ไม่ได้คิดขายทิ้งในทันทีเพราะมันมีความทรงจำดี ๆ ระหว่างเขากับลลิสาอยู่ เอาไว้วันไหนเขาตัดสินใจได้แล้ว เขาคงรู้เองว่าต้องทำอย่างไรกับที่นั่น

“ภูมิแม่กับพ่ออยากให้ลูกมาอยู่ที่นี่เลย อยากให้มาสืบทอดกิจการของเรา มันพอจะเป็นไปได้ไหมลูก” คำถามของมารดาทำให้คนเป็นลูกต้องยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา ทว่ายังไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปากของเขา

“คุณมดคุณพูดเรื่องนี้เร็วไปไหม ให้ลูกได้พักผ่อนก่อนเถอะคุณ” นายอนุสรณ์ปรามภรรยาพร้อมส่งสายตาให้รู้ ว่าควรให้เวลาธาวิศก่อน

“จริงด้วยแม่ก็ลืมไปว่าลูกกลับมาเหนื่อย ๆ เอาไว้ค่อย ๆ คิดไปดีกว่าเนอะ นี่ยายหนึ่งเตรียมกับข้าวไว้รอลูก เยอะแยะไปหมดเลย ถึงขนาดให้หนูภาอยู่บ้านกล่อมลูกนอนไป ตัวเองจะได้เอาหน้าคนเดียว”

“นินทาอะไรยายคะคุณมด” ยายหนึ่งเดินลงบันไดมาได้ยินเข้าพอดี

“ดูสิหูดีอีกแล้ว ไปตั้งโต๊ะได้แล้วยายหนึ่ง ตาภูมิคงจะหิวแย่แล้วนี่”

“ได้ค่า” ยายหนึ่งรีบพาร่างอันอวบอ้วน เดินอุ้ยอ้ายเข้าไปในห้องครัว เพื่อจัดเตรียมโต๊ะอาหารสำหรับมื้อพิเศษของวันนี้

“เอ่อ น้องภายังอยู่นี่เหรอครับคุณแม่” ธาวิศเริ่มถามเรื่องที่ตนเองสงสัย ผ่านมาหลายเดือนเขานึกว่า หญิงสาวจะแยกตัวออกไปใช้ ชีวิตครอบครัวของตัวเองตั้งนานแล้ว

“ก็อยู่นี่สิจะให้น้องไปอยู่ไหนล่ะตาภูมิ”

“นึกว่าสามีจะมารับไปอยู่ด้วยอะไรทำนองนี้ครับ”

“โอ๊ย ไม่มีหรอกลูก รายนั้นน่ะเขาไม่ง้อผัวเขาเลี้ยงลูกด้วยทำงานไปด้วยได้ นี่แม่ก็ให้เอาเบาะนอนเด็กมาปูในบ้านได้ ระหว่างทำงานจะได้ดูลูกไปด้วย เพราะบ้านหลังเก่ามันไกล เวลาลูกร้องมันไม่ได้ยิน”

“เดี๋ยวนะครับบ้านหลังเก่าหมายความว่าไงครับ”

“ลูกยังไม่รู้เรื่องนี้นี่นาคุณมดเราคงลืมบอก” นายอนุสรณ์เสริมขึ้น ยิ่งทำให้ธาวิศงงหนักไปกว่าเดิม

“ก็ตอนที่น้องภัทรเกิด อ้อ ยังไม่รู้อีกสินะว่าลูกชายของยัยภาแม่ตั้งชื่อให้เอง ชื่อน้องภัทร แกร้องไห้หนักมาก ร้องจนยายหนึ่งนอนไม่ได้ เดือดร้อนเรื่องงานของยายหนึ่งด้วย แม่กับพ่อปรึกษากันเลยได้ทางออก ให้ยัยภากับน้องภัทรย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังเก่า ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณยายของลูกดีกว่า”

“แค่ร้องก็ต้องย้ายที่นอนเลยเหรอครับ”

“วันสองวันแม่ไม่ว่าหรอก นี่สามเดือนนะลูก คิดว่ายายหนึ่งจะยังสุขภาพแข็งแรงดีไหม ร้องเที่ยงคืนยันตีสองทุกวันตลอดสามเดือน ภูมิลองนึกสภาพยายหนึ่งดูสิ”

“โคลิคเหรอครับ”

“ก็น่าจะประมาณนั้นแหละลูก”

ธาวิศไม่คิดว่าเขาจะต้องมานั่งฟังปัญหาของนิภาในบ้านของตัวเอง นิภาเหมือนหนามคม ที่คอยทิ่มแทงเขาให้รู้สึกผิด กับเรื่องในอดีต เขาไม่เคยลืมว่าเคยพรากความสาว จากผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา ของลูกพี่ลูกน้องของตนเอง เพียงเพื่อที่จะทำให้ผู้เป็นยายได้สมหวัง แต่สุดท้ายยายเฉลาลักษณ์ก็ไม่ได้สมหวัง กระทั่งท่านได้จากโลกนี้ไป หลงเหลือความรู้สึกผิดเอาไว้ในใจของเขา และยิ่งต้องมาเห็นนิภามีชีวิต ที่ถูกคนรักทอดทิ้งแบบไม่เหลียวแล เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนบางอย่าง มันกวนใจอยู่ตลอดเวลา

หลังกินข้าวเสร็จธาวิศก็ขึ้นไปบนห้องนอนของตนเอง เขายิ้มออกเมื่อทุกอย่างภายในห้อง แลดูสะอาดสะอ้านบางชิ้นก็ใหม่เอี่ยม ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแล้วหลับตาลง แต่หน้าของใครบางคนก็ลอยเข้ามาในความคิด พร้อมกับคำพูดที่ทำให้ทุกอย่างต้องจบลง

‘ภูมิขอลิลแต่งงาน ในวันที่ลิลกำลังจะก้าวหน้าในอาชีพการแสดงนี่นะคะ แล้วดูงานภูมิสิงานภูมิกำลังจะล่ม นี่หรือคนรักกัน ทำไมต้องดึงลิลให้จมไปกับภูมิด้วย’

เขาไม่ได้สิ้นเนื้อประดาตัวเสียทีเดียว เงินเก็บก็พอมี แค่งานที่ทำมันถึงทางตันเท่านั้นเอง ในวันที่เขาพกความหวังไปหาเพื่อขอแต่งงาน เหตุใดลลิสาถึงได้คิดว่าเขากำลังจะดึงเธอให้ตกต่ำลงไป ในวันนั้นธาวิศถึงได้ตาสว่าง ลลิสาคงไม่มีวันทิ้งชื่อเสียงเงินทอง แล้วมาแต่งงานกับเขาเป็นแน่ หลังจากเขาได้ถามบางอย่างออกไป

‘คุณจะให้ผมรอไปถึงเมื่อไหร่ลิล’

‘ไม่มีกำหนดค่ะ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น’

หลังจากนั้นเพียงสัปดาห์เดียว ลลิสาก็ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอโสด มันคงเพียงพอแล้วสำหรับการรอคอย ความรักจากผู้หญิงคนนี้ เขาแพ้ทั้งเรื่องงานและเรื่องความรัก จึงเลือกที่จะกลับมาอยู่บ้าน มาหาความอบอุ่นจากครอบครัว และก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดไว้ บุพการีทั้งสองท่าน ยังคงรักและเป็นห่วงเขาเหมือนเดิม เพียงแต่บางคนในบ้านหลังนี้ กำลังทำให้เขาอยู่ที่นี่แบบคลางแคลงใจ

‘ทำไมต้องมาอยู่ที่บ้านของพี่ด้วยน้องภา ทำไม’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel