ตอนที่ : 13 เจ้าหนูทำพิษ 2
“ร้องแบบนี้ไม่แคล้วจะต้องร้องยาวไปถึงสามเดือนเลยนะยายหนึ่ง”
“สามเดือน !” ยายหนึ่งทำท่าตกใจเป็นอย่างมาก แค่สามวันก็จะตายอยู่แล้ว
“แบบนี้ยายหนึ่งจะแย่เอานะ หนูภายังได้นอนพร้อมลูก แต่ยายหนึ่งต้องตื่นมาทำกับข้าวตั้งแต่เช้า คุณมดคุณมีความคิดเห็นว่ายังไงในเรื่องนี้” ระหว่างที่คนเป็นสามีถามภรรยายายหนึ่งก็อ้าปากหาวหวอด ๆ ต่อหน้าต่อตาทั้งคู่
“ยายหนึ่งไปนอนเถอะไป สภาพไม่ไหวแล้วนั่น” นางเมธาวีโบกมือไล่ยายหนึ่ง อีกอย่างตนอยากปรึกษาสามีแค่สองคน
“ค่ะคุณมด” ยายหนึ่งรีบหอบร่างอันอวบอ้วนกลับไปที่ห้องพักของตนเอง หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายในทันที
“มีเรื่องจะคุยกับผมใช่ไหม ถึงได้ไล่ยายหนึ่งไปนอน”
“คุณก็รู้ทันฉันอีกแล้วนะคะ ฉันกำลังคิดว่าถ้าเราให้ยัยภากับลูก ขึ้นมานอนที่บ้านหลังนี้ล่ะจะเป็นยังไง”
“หายนะชัด ๆ”
“อ้าว ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคุณนุ”
“ก็ดูสภาพยายหนึ่งสิ แล้วคุณกับผมต้องไปทำงานทุกวัน จะมาอดหลับอดนอน ฟังเสียงเด็กร้องไม่ได้นะ”
“แต่ห้องในบ้านเราก็เก็บเสียงนี่คะ”
“ของหล่นคุณยังสะดุ้งเลย นับประสาอะไรกับเสียงเด็กร้องคุณจะไม่รู้สึกตัว คุณลองคิดหาวิธีอื่นเถอะ แต่จะว่าไปแล้วบ้านเราก็ยังมีว่างอีกหลังนะ”
“คุณนุอย่าบอกนะว่าจะให้ยัยภาไปอยู่ที่...” ทั้งคู่หันไปมองหน้ากันในทันที เพราะเรื่องที่คิดอยู่นั้นย่อมตรงกัน
“บ้านหลังเก่าของผมนั่นแหละคุณมด หนูภาอยู่กับคุณแม่คุณมาตั้งแต่แบเบาะ เหมาะที่สุดที่หนูภาจะไปอยู่บ้านหลังนั้น”
“จริงของคุณค่ะ ฉันไม่อยากให้คุณแม่อยู่แบบเหงา ๆ เหมือนกัน ให้ยัยภาไปอยู่เป็นเพื่อนท่าน ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้” นางเมธาวีเงียบไปเล็กน้อย เมื่อนึกบางเรื่องขึ้นมาได้
“แล้วทำไมต้องทำหน้าเศร้าแบบนั้นด้วย เราก็หาทางออกเรื่องน้องภัทรได้แล้วนี่คุณมด”
“ฉันก็แค่เสียดายค่ะคุณนุ คุณแม่ท่านอยากได้เหลนสืบสกุล แต่ท่านไม่มีโอกาสได้เห็น จนกระทั่งตายไปแบบนี้ ยัยภาก็ดันมาเหลวไหลแบบนี้อีก”
“ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก เอาเป็นว่าให้หนูภากับน้องภัทร ไปอยู่ที่บ้านหลังเก่าของผมก็แล้วกัน บ้านจะได้สะอาดสะอ้านไม่เก่าเร็วด้วย ตกลงตามนี้นะคุณมด”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะไปบอกยัยภาเองนะคุณนุ”
“ตามใจคุณเลย”
นางเมธาวีเดินไปเคาะประตูห้องของนิภา พอหญิงสาวเปิดประตูออกมาเท่านั้น หญิงสูงวัยถึงกับผงะไปด้านหลังอย่างตกใจ
“ได้นอนบ้างไหมนี้ยัยภา ทำไมถึงได้โทรมแบบนี้”
“เพิ่งนอนพร้อมน้องภัทรตอนตีสามเองค่ะ คุณป้ามีอะไรหรือเปล่า” นิภาก้าวออกมาจากห้องแล้ว ปิดประตูลงอย่างเบามือที่สุด
“มีสิ เกี่ยวกับภาและลูกนั่นแหละ” นางเมธาวีเริ่มบอกถึงเหตุผลที่ต้องให้นิภากับลูกน้อยย้าย เข้าไปอยู่ในบ้านไม้หลังเก่าของสามี แทนที่นิภาจะตกใจ กลับรู้สึกยินดีกับเรื่องที่ได้ยิน
“ให้ภาไปอยู่กับคุณยายถูกไหมคะ” หญิงสาวยิ้มแบบคนมีความสุขขึ้นมา
“ใช่ คุณแม่จะได้มีเพื่อน บ้านก็จะได้ไม่เก่าเร็วด้วยถ้ามีคนอยู่ และที่สำคัญยายหนึ่งจะได้นอนหลับสักที ยายหนึ่งแก่แล้วจะมาอดหลับอดนอน ฟังเสียงน้องภัทรตลอดสามเดือนนี้ไม่ได้”
“สามเดือน ? ทำไมคุณป้าถึงคิดว่าน้องภัทร จะร้องแบบนี้ไปถึงสามเดือนล่ะคะ”
“ก็มันเป็นอาการของเด็กที่ร้องเวลาเดิมซ้ำ ๆ แบบนี้จะเป็นไปถึงสามเดือนเลย หลายคนเป็นแบบนี้แต่บางคนก็ไม่เป็น”
“นี่ภาทำให้ยายหนึ่งลำบากใช่ไหมคะ ย้ายไปวันนี้เลยก็ได้ค่ะคุณป้า”
“ไม่ได้ยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย มีเด็กอ่อนไปอยู่ต้องฆ่าเชื้อทั้งหลัง เดี๋ยวป้าจะจ้างแม่บ้านข้างนอก มาทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ พึ่งยายหนึ่งคงไม่ไหวสลบคาเตียงนอนไปแล้วมั้งป่านนี้ เดี๋ยวป้าจะติดต่อบริษัททำความสะอาด ให้เข้ามาวันนี้เลย ถ้าเสร็จทันพรุ่งนี้ค่อยย้าย”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า” นิภายกมือขึ้นไหว้ขอบคุณ เพราะนอกจากนางเมธาวี จะห่วงสุขภาพของยายหนึ่งแล้ว ยังห่วงอนามัยของลูกชายของเธออีกด้วย
“งั้นป้าไม่กวนแล้วนอนต่อเถอะ ป้ามาทำเสียงดังให้น้องภัทรตื่นไหมเนี่ย”
“ยังค่ะ ตอนนี้หลับสนิทอยู่เลย คุณป้าเคาะเรียกก็ไม่เห็นตื่น คงจะเหนื่อยกับการร้องไห้ค่ะคุณป้า”
“ดีแล้วจะได้นอนเยอะ ๆ งั้นป้าไปก่อนนะ”
นิภาเดินอมยิ้มกลับเข้าไปนอนกับลูกน้อยตามเดิม อย่างน้อยเธอก็ได้อยู่กับยายเฉลาลักษณ์ในบ้านหลังนั้น หญิงสาวไม่เคยกลัว หากท่านจะมาหาในรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิม ขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ กับสิ่งของเครื่องใช้ของท่าน แค่นี้เธอก็มีความสุขมากพอแล้ว
แม่บ้านจากบริษัทข้างนอก เข้ามาทำความสะอาดตามที่นางเมธาวีจ้าง และสามารถทำงานเสร็จตามกำหนด ภายในหนึ่งวันพอดี วันรุ่งขึ้นยายหนึ่งจึงช่วยนิภา ย้ายของทั้งหมดไปไว้ที่บ้านหลังเก่า ซึ่งก็ไม่ได้มีของอะไรมากมายนัก ใช้เวลาครู่เดียวก็เสร็จเรียบร้อย
‘คุณยายคะ ภามาอยู่กับคุณยายแล้วนะคะ นี่น้องภัทรเป็นเหลนของคุณยายค่ะ สายเลือดของโศภิตอำไพ ตามที่คุณยายต้องการยังไงคะ แต่ตอนนี้ภายังไม่พร้อมจะบอกความจริงกับคุณลุงคุณป้า เอาไว้ให้ถึงเวลาอันสมควร ภาจะบอกคุณป้าเองค่ะว่าน้องภัทรคือโศภิตอำไพโดยสายเลือด’
นิภาอุ้มลูกน้อย นั่งอยู่หน้ารูปถ่ายของยายเฉลาลักษณ์ หลายเดือนก่อนได้ทำบุญร้อยวันไปแล้ว อัฐิจึงถูกนำไปเก็บไว้ที่วัดรวมกับเครือญาติที่ล่วงลับไปแล้ว เหลือเพียงรูปถ่ายใบนี้เอาไว้ดูต่างหน้า
“หนูภายายเอากับข้าวมาให้ลูก” ยายหนึ่งเดินขึ้นมาบนบ้านพร้อมกับถาดใส่กับข้าว
“ยายหนึ่งไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ภาไปเอาเองที่ครัวก็ได้ไม่ได้ไกลมากสักหน่อย”
“ไม่ได้ ๆ อยู่กับลูกแค่สองคนจะเดินไปมาก็ไม่สะดวก ยายเดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ยายวางไว้นี่นะจะไปทำงานต่อแล้ว”
“ขอบคุณค่ะยายหนึ่ง”
ยายหนึ่งดูแลนิภาแบบนี้มาตลอดสามเดือน น้องภัทรหยุดร้องตอนเที่ยงคืนแล้ว หญิงสาวจึงกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติเสียที มีเวลานอนเวลาตื่นที่เหมาะสม ร่างกายก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม นิภากลับมาช่วยงานยายหนึ่งได้ตามปกติ โดยที่เจ้าของบ้านอนุญาตให้นิภานำเบาะนอนเด็ก มาวางในบ้านระหว่างทำงานได้
“มามะน้องภัทรมาหายายเร็ว” นางเมธาวีเอ็นดูน้องภัทรมากขึ้นทุกวัน เสื้อผ้าของใช้ต่าง ๆ คนเป็นแม่แทบไม่ได้ซื้อหามาเลย
“ยิ่งโตหน้ายิ่งเหมือนคุณนะคุณมด” คนเป็นสามีมองหน้าน้องภัทรสลับกับหน้าของภรรยา
“ใครบอกล่ะคะ ฉันว่าเหมือนคุณมากกว่าฉันเสียอีก สงสัยตอนท้องยัยภาไม่ได้ออกไปเห็นผู้คน มีแค่คุณกับฉันดีนะไม่เหมือนยายหนึ่งด้วยคน” หญิงสูงวัยหอมแก้มเจ้าตัวน้อยสองฟอด ก่อนไปทำงานทุกวัน
“คุณจะหลงน้องภัทรหนักไปแล้วนะคุณมด ขืนตาภูมิรู้เข้าคงได้งอนเอาแน่”
“ช่างหัวตาภูมิเถอะ ติดต่อก็ยากคุยกันก็แป๊บเดียวรีบวางสาย คงลืมพ่อลืมแม่ไปแล้วมั้ง” เสียงบ่นของนางเมธาวี ดังไปถึงคนที่กำลังถือถ้วยกาแฟออกมาให้ทั้งคู่
“หนูภามาพอดี”
“กาแฟค่ะคุณลุงคุณป้า” หญิงสาววางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะให้ทั้งคู่
“ยัยภาอย่าลืมตารางนัด พาลูกไปฉีดวัคซีนนะเรื่องสำคัญห้ามลืมเด็ดขาด น้องภัทรจะได้สุขภาพแข็งแรง”
“ค่ะคุณป้าภาจดไว้ในสมุดแล้วไม่ลืมแน่นอนค่ะ”
“งั้นก็ดี ให้น้องภัทรเล่นกับป้านี่แหละ ไปทำงานเราต่อเถอะ เดี๋ยวถ้าไปทำงาน ป้าจะวางไว้บนเบาะนอนเหมือนเดิม ยังพลิกตัวไม่ได้คลานไม่ได้ ไม่มีทางหายไปไหนแน่นอน”
“ค่ะคุณป้า”