บท
ตั้งค่า

๕ วันคืนหวนมา (๑)

วันคืนหวนมา

วันนี้เป็นวันแรกที่ณชาต้องมาทำงานในฐานะเลขาชั่วคราวของหัวหน้าฝ่ายการตลาดอย่างกองทัพ

ร่างโปร่งบางราวนางแบบอยู่ในชุดเดรสยาวเพียงเข่าสีครีมสวมทับด้วยสูทเข้ารูปสีเข้ม ผมยาวถูกปล่อยสยายกลางแผ่นหลังยามก้าวเดินเหมือนมีผีเสื้อโบยบินรอบตัวเธอ

ก้าวเข้ามาภายในแผนกทุกคนให้การทักทายและต้อนรับอย่างเป็นกันเอง กว่าจะปลีกตัวมาที่โต๊ะประจำหน้าห้องหัวหน้าได้ก็ใช้เวลาพอสมควร เธอมองเอกสารตรงหน้าแล้วถอนหายใจ ไม่ชอบการทำงานเอกสารเอาเสียเลยแต่จะขัดมารดาได้อย่างไรท่านย้ำนักย้ำหนาให้เรียนรู้งานเพื่อจะได้เป็นประสบการณ์ติดตัวบ้าง ชีวิตเธอได้อะไรมาง่ายเกินไปไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องเงินแต่ที่ยากก็เห็นจะมีเพียงเรื่องความรัก

..ไล่ตามมาหลายปีก็ยังไม่ได้เสียที

“ค่ะพี่ตฤณ ป้อนถึงที่ทำงานแล้วค่ะ” รับสายจากแฟนหนุ่มที่โทรมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เมื่อวานที่เห็นเขารอข้างล่างตกใจจนเกือบทำกระเป๋าตก จำได้ว่าไม่เคยบอกเรื่องที่ทำงานแล้วเขารู้ได้อย่างไรกระทั่งกลับไปบ้านถึงได้รู้ว่ามารดาเป็นคนบอกคุณหมอคนหล่อเอง

‘พี่ก็ถึงแล้วเหมือนกัน ไว้เจอกันตอนเย็นนะ’

ณชาคงไม่รู้ว่าตอนนี้ปลายสายฉีกยิ้มอย่างมีความสุขมากเพียงใดที่เธอเรียกเขาว่าพี่ตฤณตามคำขอ คนเป็นหมอไม่อยากให้แฟนเรียกอาชีพของตนเองแทนชื่อ เขาเคยขอร้องณชาแล้วแต่เธอก็ตีเนียนเรียกหมอเหมือนเดิมกระทั่งเมื่อวานเอ่ยเรื่องนี้อีกครั้ง และก็ได้ผลเธอยอมเรียกเขาว่าพี่ตฤณแล้ว

“ค่ะ” ต่อจากนี้คุณหมอบอกว่าจะมารับเธอทุกเย็น อีกไม่นานก็จะพาเข้าไปสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ของเขาซึ่งณชารู้สึกเครียดเรื่องนี้อยู่พอสมควร เธอไม่อยากทำร้ายเขาอีกต่อไปแล้วแต่ก็ไม่กล้าพอจะเอ่ยปากบอกเลิก

มันยากเกินไปที่จะทำร้ายผู้ชายแสนดีอย่างตฤณ

ก๊อกๆๆ

“ขอกาแฟดำหนึ่งแก้ว” มือหนาเคาะลงบนโต๊ะของเลขานุการชั่วคราวแล้วสั่งเสียงเข้ม

เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาเห็นแววหงุดหงิดจึงไม่ได้ถามอะไรอีกลุกขึ้นเดินไปห้องชงกาแฟตามคำสั่งของท่านผู้บริหารซึ่งมีอำนาจสูงสุดในแผนก

ณชามองเครื่องชงกาแฟตรงหน้าเหมือนเจอของประหลาด มารดาเปิดร้านคาเฟ่มีทั้งขนมและกาแฟขายแต่ลูกสาวกลับทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง

ร่างบางหันซ้ายแลขวาต้องการผู้ช่วยกระทั่งมีสาวร่างเล็กเดินเข้ามาพอดีใบหน้าหวานจึงยิ้มอย่างดีใจ

“พี่อ้อยคะ คุณทัพอยากดื่มกาแฟแต่ว่าป้อนทำไม่เป็น พี่อ้อยสอนหน่อยสิ” ปกติที่เห็นก็จะมีแค่กาน้ำร้อนแต่เครื่องตรงหน้าคือเครื่องชงกาแฟสดที่วิธีการทำอาจไม่ยุ่งยากสำหรับคนที่คุ้นเคยแต่ไม่ใช่กับณชาแน่นอน

“คุณทัพชอบกินกาแฟดำสูตรเข้มมากๆ เพราะฉะนั้นใช้แค่ผงกาแฟกับน้ำร้อนก็พอ เดี๋ยวพี่ทำให้เอง”

หญิงสาวพยักหน้าอย่างดีใจมองวิธีการทำกาแฟให้หัวหน้าต่อไปเวลาเขาใช้เธอจะได้ไม่ต้องให้คนอื่นมาช่วยอีก การทำก็แสนง่ายแค่ใส่ผงกาแฟสำเร็จรูปสามช้อนชาใส่น้ำร้อนพอประมาณก่อนคนให้เข้ากันเป็นอันเรียบร้อย

“ง่ายจังเลยค่ะ” หยิบถ้วยกาแฟมาวางบนจานรอง

“คุณทัพเขาไม่เรื่องมาก” คนมาช่วยยิ้มให้รุ่นน้องก่อนจะจัดการชงกาแฟใส่ฟองนมของตนเอง

ณชาเดินไปเคาะประตูหัวหน้าได้ยินอีกฝ่ายอนุญาตจึงเปิดเข้าไป

ตอนนี้กองทัพนั่งอยู่ท่ามกลางกองเอกสารมากมาย ช่วงบ่ายเขาต้องประชุมกับทีมนักวิจัยการตลาดถึงความต้องการผู้บริโภคจึงต้องนั่งศึกษาเอกสาร

“กาแฟร้อนๆ ค่ะ” วางไว้ใกล้มือเขาเพื่อให้สะดวกต่อการจับ

ในขณะที่หญิงสาวจะเดินออกไปใบหน้าคมที่เมื่อสักครู่ก้มมองเอกสารก็เงยขึ้นเรียกหญิงสาวเอาไว้

“เมื่อกี้คุยกับใคร” ร่างบางหยุดชะงักหันมามองเจ้านายที่เอ่ยถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียดราวกับว่าเป็นคำถามระดับชาติที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วนไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดภัยพิบัติต่อโลกก็เป็นได้

“แฟนค่ะ” ตอบเสียงฉะฉาน

และคำตอบนั้นสร้างความหงุดหงิดแก่กองทัพเป็นอย่างมาก

“แต่มันเวลางานป้อนไม่ควรคุยกับแฟน” เตือนโดยที่ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล

“ขอประทานโทษนะคะคุณกองทัพ เวลาที่ป้อนคุยคือแปดนาฬิกาห้าสิบสามนาทีซึ่งเวลาเข้างานคือเก้านาฬิกา เพราะฉะนั้นหมายความว่ายังไม่ถึงเวลางานป้อนก็มีสิทธิที่จะคุยโทรศัพท์ไม่ใช่เหรอคะ” ณชาเตือนตนเองไม่ให้ระเบิดอารมณ์เพียงเพราะอีกฝ่ายกำลังหาเรื่อง ใบหน้าหวานบูดบึ้งไม่อาจเก็บสีหน้าเอาไว้ได้

..จงใจหาเรื่องกันชัดๆ

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวค่ะ” ก้มศีรษะเล็กน้อยหมุนตัวแล้วเดินออกจากห้องปล่อยให้กองทัพอารมณ์เสียแต่เพียงผู้เดียว

เขาหยิบกาแฟที่เธอเอามาให้ขึ้นดื่มก่อนจะคายทิ้งแทบไม่ทันเพราะร้อนจนลวกลิ้น

“โอ๊ยร้อน”

..ฝากไว้ก่อนเถอะป้อนข้าว

ฝ่ายหญิงสาวก็กระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เขาชวนทะเลาะแต่เช้าเป็นการเริ่มทำงานที่ไม่สดใสเลยไม่รู้ทั้งวันจะต้องรองรับอารมณ์อะไรของท่านผู้บริหารอีกหรือเปล่า

ณชาหยิบแฟ้มงานสำหรับเสนอให้กองทัพเซ็นมาอ่านแล้วแยกประเภทอย่างชัดเจน

อาจจะบ่นว่าไม่ชอบแต่ว่าหากทำอะไรก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด เช้านั้นหญิงสาวจึงยุ่งกับงานจนแทบไม่ได้เงยหน้ามองใครเลย พักเที่ยงเพื่อนในแผนกก็เข้ามาชวนไปกินข้าวที่ร้านอาหารใกล้บริษัท เธอไม่ปฏิเสธเพราะต้องการผูกมิตรเอาไว้ถึงจะมาทำงานชั่วคราวก็ตาม

“พี่ถามจริงๆ นะ ป้อนรู้จักกับคุณทัพใช่ไหม” สามสาวนั่งล้อมวงกินข้าวเที่ยงคืออาหารอีสานและเมนูที่สั่งเพียงแค่มองก็รู้สึกแสบท้องแล้ว ทั้งส้มตำปูปลาร้า ลาบหมู ต้มไก่บ้าน เสือร้องไห้ ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวร่างเล็กทั้งสามคนจะจัดการอาหารตรงหน้าหมด

“ค่ะ แม่ของป้อนเป็นเพื่อนกับแม่พี่ทัพ”

พี่อ้อยหรืออัญชิสาตบเข่าฉาดใหญ่เพราะที่คิดไว้เป็นจริง เธอเคยเห็นน้องสาวคนนี้ตามหน้าหนังสือพิมพ์กรอบไฮโซกระซิบ

“นั้นไง ฉันบอกแล้วว่าฉันวงใน” อัญชิสาหันไปหาเพื่อนแล้วตบบ่าอีกฝ่าย

“จ้า แม่วงใน” จุ๋มหรือสจีวรรณส่ายหัวเอือมระอาเพื่อนแล้วตักน้ำต้มไก่มาซดเสียงดังอย่างเอร็ดอร่อย

“พี่ถามจริงๆ นะ”

“แกถามจริงๆ มาหลายรอบแล้ว ไม่ต้องพูดประโยคนั้นเขาก็รู้แล้วไหมว่าแกอยากเผือก” สจีวรรณทนไม่ไหวจึงเอ่ยจิกกัดเล็กน้อยตามประสาเพื่อนสนิท

“เออ แกอย่าขัดฉันสิ พี่แค่อยากรู้ว่าคุณทัพเขาไม่มีแฟนเหรอ ตั้งแต่ที่เขามาทำงานก็ไม่เห็นควงสาวที่ไหนเลย ข่าวในวงสังคมเรื่องผู้หญิงก็ไม่มี เหมือนอยากจะครองโสดตลอดไป หรือว่าเขาจะบวช” คิดไปต่างๆ นานา

จนณชาหัวเราะเพราะขำในความช่างคิดของรุ่นพี่

“เรื่องผู้หญิงป้อนไม่รู้นะคะ แต่พี่ทัพเขาไม่บวชหรอก” มั่นใจแน่เพราะได้ข่าวว่าอีกฝ่ายบวชไปแล้วเมื่ออายุครบ25ปี และบวชนานถึงหนึ่งเดือนซึ้งรสพระธรรมเลยทีเดียว เสียดายที่เธอไม่ได้มางานบวชเขาเนื่องจากติดสอบ แต่หากไม่ติดสอบก็คงไม่มาหรอกยังไม่สามารถมองหน้ากองทัพได้

“แกจะอยากรู้ทำไม ถึงเขาไม่มีใครก็ไม่เอาแกหรอก อย่างคุณทัพเขาก็ต้องมองระดับเดียวกัน น้องป้อนก็เข้าเค้านะพี่ว่า สวย มีเสน่ห์ มีระดับ มีสมอง” ประโยคสุดท้ายสจีวรรณหันมาย้ำกับเพื่อน

จนอัญชิสาถลึงต

าใส่

“ฉันมีสมองย่ะ” สองสาวเพื่อนซี้จึงทะเลาะกันโดยมีณชาคอยหัวเราะคำพูดที่ดูเหมือนจะจิกกัดแต่ก็ไม่ได้จริงจัง และเธอยังได้รู้เรื่องราวของกองทัพมากมายอีกด้วย

กองทัพเข้ามาทำงานบริษัทแห่งนี้โดยยื่นใบสมัครเหมือนคนทั่วไป เขาเริ่มงานที่ฝ่ายการตลาดคอยเป็นเบ้รับใช้ทุกคนและปิดบังว่าเป็นใครทำให้เห็นจุดบกพร่องของการบริหาร ไม่นานเขาก็สามารถไต่ขั้นขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกได้ด้วยอายุที่ยังไม่ถึงสามสิบปี วันที่รายชื่อประกาศตำแหน่งทุกคนก็อ้าปากค้างกับนามสกุลของกองทัพ เพราะไม่ใช่นายกองทัพ สุริยจักรแต่เป็นถึงนายกองทัพ วิจิตรประภาลูกชายคนโตของท่านประธานบริษัทอย่างคุณภราดร วิจิตรประภา

“วันนั้นพี่ขนลุกเลยนะ เคยด่าพ่อเขาไว้เยอะ” พูดแล้วก็ลูบแขนตัวเอง

วันนั้นทุกคนหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดแต่ที่ชัดสุดคงเป็นหัวหน้าคนเก่าที่แทบล้มทั้งยืนโดนย้ายไปประจำสาขาที่ต่างจังหวัดเนื่องจากละเลยหน้าที่แถมยังลางานบ่อยอีกด้วย

“ฉันก็ไม่ต่างกับเธอหรอก ใช้เขาตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ขนาดผ้าอนามัยยังให้เขาไปซื้อให้เลย”

แม้กองทัพจะหน้านิ่งเหมือนไม่อยากทำอะไรดูเป็นคนขวางโลกแต่หากใช้ก็ทำไม่ขัด วันนั้นสจีวรรณปวดท้องประจำเดือนวันแรก ผ้าอนามัยก็ไม่มีเลยไหว้วานเด็กใหม่ไปซื้อให้ กองทัพก็ไม่อิดออดไปซื้อให้ทั้งยังได้แผ่นประคบร้อนมาอีกด้วย

“ว้ายๆ จะบ่ายโมงแล้วรีบไปกันเถอะ” อัญชิสามองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วกระวีกระวาดเรียกแม่ค้ามาคิดเงิน ทั้งสามเดินแกมวิ่งไปที่ตึกก่อนจะถึงแผนกในเวลาฉิวเฉียด

ณชาถอนหายใจเดินไปที่โต๊ะกำลังจะนั่งลงหัวหน้าคนหล่อก็เปิดประตูออกมาเรียกเธอ

“ป้อนไปชงกาแฟมาให้หน่อย”

ก้นยังไม่ทันจะแตะเก้าอี้จำต้องเดินไปชงกาแฟตามคำสั่ง คราวนี้เธอจำวิธีทำได้จึงลงมือจัดการเองแล้วนำไปเสิร์ฟเขาในห้อง

“กาแฟค่ะ” วางไว้ที่เดิมพลางบ่นในใจ

‘คนอะไรกินกาแฟเช้ากลางวัน จะนอนหลับเหรอ’

“ขอบใจ” ยกกาแฟขึ้นจะดื่มก่อนชะงักเป่าเล็กน้อย ประสบการณ์ตอนเช้าสอนให้เขารู้ว่าลิ้นชาไม่ใช่เรื่องตลก ต้องระวังให้มากขึ้นเพราะณชาชงแบบน้ำร้อนชนิดที่สามารถลวกจนลิ้นละลายได้เลยละ

“ขอตัวนะคะ” ไม่ได้รับคำตอบจากเขาเธอจึงย่นจมูกใส่คนขี้เก๊ก ทีเมื่อวานยิ้มเรี่ยราดให้มาวันนี้กลับบึ้งตึงราวไปกินรังแตนมา ไม่พูดก็ไม่พูดเธอไม่เห็นจะสนใจเลย

ร่างบางเดินไปนั่งที่ประจำแล้วเริ่มงานตอนบ่าย เพียงแค่เปิดเอกสารหน้าแรกก็หาวเสียแล้ว

“จะรอดไหมเนี่ย” หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนแต่จำต้องฝืนทำงาน

..ตอนไหนจะเลิกงานสักทีนะเธออยากกลับไปนอนเต็มทีแล้ว

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ในความรู้สึกของณชามันกลับนานราวพันปี แต่ละวันผ่านไปอย่างเชื่องช้ายิ่งช่วงบ่ายต้องหากิจกรรมทำเพื่อไม่ให้ตนเองง่วง บางวันก็ออกไปกับกองทัพเพื่อคุยกับลูกค้า หรือบางวันนั่งอ่านเอกสาร แปลเอกสาร ประชุมงาน

..ทำไมมันน่าเบื่อแบบนี้รู้อย่างนี้ไปช่วยพ่อกับพี่ชายเสียก็ดี

“ค่ะพี่ตฤณ” ทุกเช้าเมื่อมาถึงที่ทำงานแฟนหนุ่มก็จะโทรหาเวลาเดิมราวกับเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว

‘วันนี้พี่ไปรับไม่ได้นะครับ มีเคสผ่าตัดต้องเข้าไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์หมอ’

ณชาพยักหน้าทั้งที่รู้ว่าปลายสายคงไม่เห็น

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวป้อนกลับเอง”

นั่งแท็กซี่กลับไม่นานก็ถึงบ้าน อันที่จริงไม่อยากรบกวนเขาสักนิดรู้ว่ากว่าจะเลิกงานตฤณก็เหนื่อยอยู่แล้วยังต้องมารับเธอไปส่งบ้านอีก แต่ขัดใจได้ที่ไหนอีกฝ่ายดื้อเงียบจะตาย

‘ถึงบ้านโทรหาพี่ด้วยนะ’

หญิงสาวรับคำก่อนวางโทรศัพท์พอดีกับที่กองทัพเดินเข้าห้องโดยไม่ทักทายอะไรสักคำ คุ้มดีคุ้มร้ายจนตามไม่ทัน สัปดาห์ที่ผ่านมาก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลยนอกจากเรื่องงาน

“ทำไมไม่มีกาแฟ” เข้าห้องไปได้สักพักเขาก็เดินออกมาถามเสียงเข้มราวเธอทำความผิดใหญ่หลวง

“ป้อนลืมค่ะ เดี๋ยวทำมาให้นะคะ”

ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นไปชงกาแฟกองทัพก็เอ่ยขึ้นลอยๆ

“คราวหลังก็ใส่ใจเรื่องนี้ให้เท่ากับที่ใส่ใจแฟนด้วยนะ” พูดจบหัวหน้าสุดหล่อก็เดินเข้าห้อง

ปล่อยให้ณชายืนอ้าปากค้างด้วยความโมโห

..เขากำลังหาเรื่องเธอชัดๆ ไปโกรธใครมาทำไมต้องมาลงที่คนอื่นด้วยเล่า!

คิดอย่างขัดใจก่อนจะไปชงกาแฟมาให้เขา

..คอยดูจะแกล้งใส่เกลือให้เป็นโรคไตเลย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel