๙
“ไปกับพี่” สาวน้อยอมยิ้มด้วยความสุขก่อนเงยหน้ามองเขาก็พบเพียงไรหนวดเขียวๆ พระพายยกหัวขึ้นมองไปที่สิงห์ด้วยสติที่หายไปเกินครึ่ง
“สัญญานะคะ ว่าจะอยู่กับพระพายตลอดไป” ไม่รู้อะไรดลใจให้จ้องตาเขาพร้อมมือบางทั้งสองข้างที่เอื้อมมาจับใบหน้าคมเอาไว้
“เมาแล้วใช่ไหม”
“สัญญาก่อนสิ พี่สิงห์อย่าเปลี่ยนเรื่อง” มือหนายกขึ้นจับมือบางที่จับหน้าเขาเอาไว้ บีบเบาๆ แล้วพูดออกมา
“พี่ก็อยู่กับพระพายตลอดอยู่แล้ว” เพียงเท่านั้นใบหน้าหวานก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจกับคำตอบแล้วโน้มตัวลงไปนอนตักสิงห์เหมือนเด็ก ตัวน้อยๆ แม้จะต้องงอขาเพราะขนาดเบาะที่เอื้ออำนวยเธอก็ไม่หวั่นขอเพียงได้นอนตักเขาเท่านั้นก็สุขแล้ว
“พระพายรัก” แล้วเสียงก็เงียบไปเหมือนว่าตอนนี้ร่างบางได้หลับใหลไปแล้ว สิงห์มองเธอเอามือขึ้นมาลูบศีรษะของหล่อนอย่างแผ่วเบา หัวใจของชายหนุ่มเต้นด้วยความสุข ใบหน้าคมจ้องที่แก้มนวลนิ่งแล้วมองไปยังผู้ติดตามอย่างคมิกที่นั่งทำหน้าขรึมอยู่เบาะด้านหน้า
เขาตัดสินใจโน้มตัวลงไปจุมพิตเบาๆ ที่แก้มของเธอก็พบว่ามันทั้งหอมและนุ่มเหลือเกินจนอยากจะกดแช่เอาไว้อย่างนี้นานๆ หากก็ต้องตัดสินใจถอนจูบออกมาพลางลูบผมลื่นไปด้วย เพราะรักจึงไม่อยากให้เธอมาตกอยู่ในอันตรายและต้องตายอย่างมารดาของตน เมื่อหลายปีก่อนเขาเสียมารดาไปแล้วตอนนี้เขาไม่อยากเสียเธอไปอีกเพราะเธอคือหัวใจของเขาจึงจำต้องเก็บรักที่มีต่อเธอเอาไว้ ปิดมันไม่ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกภายในที่มี
คมิกมองเจ้านายแล้วยิ้มออกมา หัวใจของสิงห์มีเพียงคุณหนูพระพายมาตลอดไม่เคยเป็นของใครเลยแม้กระทั่งครองขวัญที่เป็นเพียงคนเดียวซึ่งนายเขาพาเข้าบ้านก็ไม่ใช่เจ้าของหัวใจที่แท้จริง เธอเป็นเพียงกำบังไม่ให้ศัตรูเข้าใกล้พระพายเท่านั้น และน่าสงสารเหลือเกินที่ครองขวัญต้องจากไปทั้งที่เพิ่งคบกันไม่นาน
“ถึงแล้วครับ” คนขับรถเอ่ยบอกสิงห์ที่เหมือนไม่ได้สติ เขาเงยหน้ามองโดยรอบก็พบแสงไฟส่องสว่างทั่วไปจนไม่คิดว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ร่างสูงพยายามขยับตัวให้น้อยที่สุดจับไหล่เพียงขวัญให้นั่งแล้วเดินอ้อมจากรถไปอีกทางเพื่ออุ้มเธอไว้
“น้องเป็นอะไรล่ะ” คุณมังกรที่ยังไม่นอนเห็นลูกชายอุ้มหลานสาวเข้ามาในบ้านก็เอ่ยถามขึ้น
“เมาครับ” ตอบเท่านั้นเขาก็เดินขึ้นไปบนบ้านทันทีปล่อยคนที่อุตส่าห์นั่งรอมองตามแล้วยิ้มออกมา หวังเหลือเกินว่าลูกชายจะกล้าเปิดใจยอมรับอย่างเต็มปากเสียมีว่าพระพายคือคนที่รัก
“คมิก เป็นอย่างไรบ้างงานวันนี้” เรียกผู้ติดตามคนสนิทของสิงห์มาถาม คมิกเป็นบุตรชายของคมสันผู้ติดตามคนสนิทของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ก็มีลูกชายเป็นตัวแทนทำงานให้กับเขามานานกว่าสิบปีแล้ว
“ดีครับ แต่ว่า” รายงานถึงเรื่องของราพณ์ทันทีพร้อมกับบอกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งไปตรวจสอบมาเกี่ยวกับอีกฝ่ายด้วย คุณมังกรหน้านิ่งเริ่มคิดหนักแทนเจ้าลูกชายเสียแล้ว
“ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็จัดการได้เลย”
“ครับ” รับคำสั่งแล้วเดินอ้อมไปหลังบ้านยังที่พักของตนเอง คุณมังกรเดินมาบอกแม่บ้านที่นั่งรอให้จัดการปิดบ้านให้เรียบร้อยส่วนตนนั้น จะขึ้นนอนแล้ว แม้จะลาจากวงการไปแต่เขาก็ยังคงช่วยลูกชายอยู่เบื้องหลังอยู่ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายมากนักในเมื่อปล่อยกิจการให้สิงห์ดูแลแล้วก็คิดว่าลูกชายคนเก่งของตนเองจะจัดการได้
ร่างสูงอุ้มน้องสาวเข้ามาภายในห้องนอนของเธอก่อนจะวางลงที่เตียงอย่างแผ่วเบา เขานั่งลงข้างเตียงเอื้อมมือมาจัดการกิ๊บที่ติดผมเลยออกอย่างแผ่วเบาแต่ก็ยากเสียเหลือเกิน คิดในใจว่าช่างจะติดกิ๊บให้ทำไมเสียเยอะแยะกระทั่งออกหมดผมยาวสยายลงกลางหลัง
“ถึงแล้วหรือคะ” น้ำเสียงงัวเงียลุกขึ้นมาจากที่นอน
“นอนเถอะ” จะดันไหล่เธอลงแต่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้า
“พระพายจะอาบน้ำ นอนแบบนี้ไม่หลับแน่” ดูจากท่าทางแล้วแม้หญิงสาวจะง่วงแต่ก็คงดื้อดึงจะอาบน้ำเหมือนเดิม เขาเลยไม่ขัดเธอ
“อาบน้ำแล้วนอนนะ” ไม่วายหันมากำชับอีก พระพายพยักหน้ามองใบหน้าคมก่อนเขาจะหันหลังไปเธอก็คว้ามือเขาเอาไว้เสียก่อน
“มีอะไร” ฟังดูคำพูดอาจเหมือนหาเรื่องแต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่ใช้กับน้องสาวเท่านั้น
“พระพาย” เหมือนเธอจะกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้วสิงห์ก็พอจะดูออกว่าเธอกำลังจะพูดอะไรออกมาเขาจึงตัดบทด้วยการโน้มตัวลงไปจุมพิตหน้าผากได้รูปอย่างแผ่วเบา
“นอนเถอะนะ คนดี” ราวกับได้รับน้ำทิพย์จากสวรรค์มือบางปล่อยเขาอย่างคนหมดแรงดวงตากลมเบิกขึ้นด้วยความตกใจมองแผ่นหลังกว้างที่เดินลับไปจากห้องของตนเองก่อนจะเอามือจับหน้าผาก
“นี่เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” ไม่เคยเลยที่สิงห์จะทำแบบนี้กับเธอ หากจำได้ก็เมื่อนานมาแล้วตอนเธออยู่ป.6 ช่วงที่เสียพ่อไปใหม่ๆ ยังจำรอยจุมพิตที่เขาบอกให้เธอฝันดีได้ในวันนั้นจนกลายมาเป็นสายใยรักที่ค่อยๆ ทักทอมาเรื่อยตามกาลเวลา จากความง่วงงุนก็รู้สึกตาสว่างขึ้นทันที อัตราการเต้นของหัวใจไม่ปกติแบบนี้ต้องโทษพี่สิงห์คนเดียว