๑๐
ร่างบางลงจากบันไดมาด้วยความรีบเนื่องจากตื่นสายเมื่อคืนแทบนอนไม่หลับเอาแต่จับหน้าผากตัวเองไว้อย่างนั้นเพราะพี่สิงห์คนเดียวที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ พระพายอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อยที่แม้จะอยู่ปีสี่แล้วก็ยังคงรักษากฎระเบียบในการแต่งกายอย่างเคร่งครัด
“ขอโทษนะคะพระพายตื่นสาย” มาถึงโต๊ะอาหารโดยมีคุณมังกรและสิงห์นั่งรออยู่แล้ว ทั้งสองก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไรหล่อน
“ลุงเข้าใจ เมื่อคืนดื่มไปเยอะใช่ไหม” แซวหลานสาวที่นานครั้งจะเห็นเป็นอย่างนี้ เขาเป็นลุงที่ชอบให้พระพายทำอะไรตามใจตนเองบ้างไม่ใช่อยู่ในกรอบตลอดเวลา
“เปล่านะคะคุณลุง แค่แก้วเดียวเอง” อธิบายให้ทั้งคุณลุงและพี่ชายของตนฟัง “คราวหลังก็อย่ากินอีกนะ เกิดแพ้เหมือนครั้งโน้นจะทำอย่างไร” คิดไปถึงวันจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่หก พระพายโดนเพื่อนยุให้ดื่มแอลกอฮอล์จนผื่นขึ้นทั้งตัว เขาแทบจะเข้าไปเอาเรื่องคนเหล่านั้นแต่บิดาห้ามเอาไว้เสียก่อน
“ค่ะ พระพายจะไม่แตะอีก”
“ดื่มเลยลูก มันอร่อยจะตาย ถ้าแพ้เดี๋ยวลุงพาไปหาหมอเอง” สิงห์หันมองผู้เป็นพ่ออย่างไม่ชอบใจนักก่อนจะหลุบตาลงต่ำพูดอะไรออกไปไม่ได้
“ไม่ดีกว่าค่ะคุณลุง พระพายไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ด้วย” ดวงตากลมโตเหลือบมองสิงห์ที่เริ่มจัดการอาหารตรงหน้าของตนเองแล้วก็ได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ ถ้าเธอเข้าใกล้มันอีกพี่สิงห์เอาเธอตายอย่างแน่นอน
“งานเมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้าง ชอบไหม” พระพายยิ้มรับน้อยๆ ก่อนจะบอก
“ก็สนุกดีค่ะ แต่พระพายไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คนเยอะน่าเวียนหัว” คุณมังกรหัวเราะออกมาเพราะเดาไว้แล้วว่าหลานสาวคงไม่ชอบเท่าไหร่หากที่อยากไปเพราะลูกชายของเขาไปงานเท่านั้น
“แล้วได้เจอพี่ภามไหม” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันพลางนึกถึงชื่อที่คุณลุงของเธอเอ่ย ภามเป็นชื่อที่คุ้นแต่ก็จำไม่ได้แล้วว่าเจ้าของชื่อหน้าตาเป็นอย่างไร สิงห์นิ่งเงียบมองดูปฏิกิริยาของสาวน้อย
“พี่ภามใครหรือคะ”
“อ้าว ไปงานเขาแล้วไม่รู้จักเขาอย่างนั้นหรือ ภามเขาเป็นลูกคุณหญิงเพลินจิตที่จัดงานเมื่อวานไง เขาเพิ่งกลับมาจากสวิสเซอร์แลนด์ สมัยก่อนก็มาเล่นบ้านเราออกจะบ่อยตอนที่สิงห์ไม่อยู่” หันไปหาลูกชายแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย พระพายเริ่มนึกเมื่อครั้งยังเรียนอยู่มอต้นจำได้ว่ามีพี่ชายคนหนึ่งมาเล่นด้วยบ่อย พูดจาไพเราะอ่อนหวาน ชอบเอาขนมมาให้กิน
“อ๋อ พี่ขนม” นึกออกพลางยิ้มออกมาครั้งแรกที่รู้จักกันไม่ได้เอ่ยถามชื่อเสียงเรียงนามเรียกตามเอกลักษณ์จนกระทั่งลืมถามไปว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร
“พี่ภามคือคนที่ชอบเอาขนมมาให้พระพายกินใช่ไหมคะ” คุณมังกรพยักหน้า
“ใช่ พี่เขากลับมาวันก่อนไปตีกอล์ฟด้วยกันยังถามหาพระพายอยู่เลยนะ” สิงห์นั่งฟังเงียบแต่ภายในใจเริ่มร้อนรนเสียแล้ว แม้ว่าจะมั่นใจในตัวของพระพายแต่เขาก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับเธออยู่ดี
“คิดถึงขนมของพี่เขาจังเลยค่ะ อร่อยมากเลยยังจำรสชาติได้ไม่ลืม” คุยกันจนสิงห์ต้องวางช้อนส้อมลง เขามองนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งแล้ว วันนี้ตั้งโต๊ะช้าเพราะรอคุณหนูน้อยของบ้านลงมา
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ” เอ่ยขัดขึ้น
“ไปเถอะ เดี๋ยวพ่อไปส่งพระพายเอง” ทั้งสองทำราวกับหญิงสาวที่กำลังจะเรียนจบปริญญาตรีในไม่ช้าเป็นเพียงเด็กอายุสิบขวบที่ต้องคอยไปรับส่งตลอดเวลา คราแรกพระพายก็ไม่ชอบใจนักแต่ก็รู้ว่าทั้งคู่เป็นห่วงความปลอดภัยจึงทำให้กลายเป็นความซาบซึ้งเข้ามาแทน
“เดี๋ยวตอนเย็นพี่ไปรับ” ใบหน้าหวานส่งยิ้มให้เขา
“ค่ะ” แม้จะไม่บอกว่าเลิกกี่โมงแต่เขาก็รู้ตลอด รู้ดีกว่าเธอที่เป็นคนเรียนเสียด้วยซ้ำ ร่างสูงเดินออกไปจากห้องเหลือเพียงสองลุงหลานสองคน
“เรายังไม่มีแฟนหรือ” อยู่ดีๆ ก็ถามขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ยจนคนฟังแทบสำลัก หญิงสาวส่ายหน้าทันทีจนผมม้าที่มัดไว้ปลิวไปมา
“ไม่มีค่ะ พระพายยังไม่คิดจะมีหรอก อยู่กับคุณลุงกับพี่สิงห์แบบนี้ก็มีความสุขมากแล้ว” คุณมังกรส่ายหัวทันที
“ไม่ได้นะ ลุงไม่ยอมหรอก หลานลุงต้องมีครอบครัวมีคนดูแล ลุงหาให้เอาไหม” ดูท่าทางจริงจังคุณลุงแล้วพระพายได้แต่กลืนน้ำลายลงคออยากบอกเหลือเกินว่าชอบลูกชายของคุณลุงแต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยออกไปได้เพียงเก็บงำเอาไว้
“ไหนคุณลุงบอกไม่อยากให้มีไงคะตอนเรียน” ท่านส่ายหน้า
“ตอนนั้นมันเรียนมัธยม แต่ตอนนี้หนูจะเรียนจบแล้ว แฟนสักคนก็ไม่มีจะเป็นคนไม่มีประสบการณ์เอาได้ เดี๋ยวจากนี้ลุงจะคัดสรรผู้ชายดีๆ ที่คู่ควรกับหลานสาวคนดีของลุงมาให้เลือก” อยากปฏิเสธใจแทบขาดเพราะมีคนจับจองหัวใจดวงนี้เอาไว้แล้ว ซึ่งคุณมังกรก็รู้จักคนคนนั้นดีมาก
“แล้วแต่คุณลุงเลยค่ะ”
“ดีมากหลานรัก ต่อจากนี้ลุงจะหาแฟนให้หนูเอง” ดูท่าคุณมังกรจะจริงจังเสียเหลือเกินจนหลานสาวได้แต่ยิ้มแหย่ๆ ไม่ตอบโต้อะไรกลับไปพลางคิดในใจว่าอย่างไรเสียคุณลุงก็คงไม่สนใจเรื่องนี้นานนักหรอก
ฝ่ายสิงห์เองเมื่อขึ้นรถมาเรื่องที่บิดาพูดคุยกับพระพายยังคงติดค้างอยู่ในหัวของเขา ไม่สบอารมณ์เมื่อรู้ว่าครั้งที่เขาไปเรียนต่อมีคนเข้ามายุ่งวุ่นวายกับพระพายทั้งที่กำชับคนสนิทไว้แล้วเชียวว่าไม่ให้มีผู้ชายเข้าใกล้เธอเกินห้าร้อยเมตรแต่ก็ยังหลุดรอดมาได้
“ไปสืบประวัตินายภามลูกคุณหญิงเพลินจิตมา เอาแบบละเอียดทั้งชีวิตส่วนตัวและทางบ้าน ถ้ามีอะไรที่ฉันควรรู้ก็หามาให้ได้เยอะที่สุด เข้าใจไหม” คมิกหันมารับคำสั่งของเขาก่อนติดต่อไปยังลูกน้องที่ถนัดในการสืบค้นข้อมูล สิงห์นิ่งคิดถึงแผนที่จะกีดกันผู้ชายทุกคนออกจากพระพาย สามวันที่เขาต้องไปดูแลงานใหญ่ของบริษัทจะทำอย่างไร หรือจะพาพระพายไปด้วย?
ภายในห้องเรียนสโลปขนาดใหญ่ที่มีนักศึกษามากมายจากหลายคณะลงเรียนเพราะถือเป็นวิชาพื้นฐานแต่พระพายเพิ่งได้มาลงตอนปีสี่สืบเนื่องมาจากตารางเรียนวิชานี้ชนกับวิชาของสาขาตนเองเธอจึงอดเรียนจนกระทั่งขึ้นปีสี่ที่พอมีเวลาว่างจึงได้ลงเรียนอีกครั้ง
“ได้ข่าวว่าจะมีอาจารย์พิเศษมาสอนสองสัปดาห์ด้วยนะ” หมูหวานนั่งลงข้างเพื่อนสาวคนสนิทก่อนจะคุยกันขณะรออาจารย์เข้าห้อง พระพายเตรียมสมุดขึ้นมาพร้อมอุปกรณ์การเรียน
“เราไปสืบมาแล้วด้วย หน้าตาหล่อมาก” ทำท่าเพ้อฝันเหมือนสาวทั่วไปจนพระพายต้องส่ายหัวให้กับเพื่อน เธอลงเรียนวิชาบริหารทั่วไปเพราะอยากรู้พื้นฐานในการบริหารซึ่งเป็นกิจการหลักของทางครอบครัวเลยก็ว่าได้
“เขาอาจจะมีครอบครัวแล้วก็ได้” เมื่อเพื่อนตัดบทหมูหวานก็ส่ายหน้า
“ไม่จ้ะเพื่อนรัก หมูหวานเจ้าแม่ข่าวทั่วราชอาณาจักรไปสืบมาแล้วว่าโสดสนิท” หมูหวานเพื่อนที่แสนจะพูดเก่งของเธอค่อนข้างเป็นคนกว้างขวางรู้จักไปหมดทั่วมหาวิทยาลัยหรือบางครั้งแทบจะรู้จักทั้งหมดในกรุงเทพฯเสียด้วยซ้ำ