บทที่ 4
กริ๊ง…กริ๊ง…กริ๊ง…
เสียงโทรศัพท์ที่ดังรัว ทำให้ป้าอ่อนที่กำลังควบคุมเด็กให้ปัดกวาดห้องนั่งเล่นต้องหยุดสั่งงานเพื่อหันมารับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ บ้านภัทรกานต์ค่ะ”
“ป้าอ่อนเหรอ นี่ฉันเอง คุณเทียนอยู่แถวนั้นมั้ย ฉันโทรเข้ามือถือแล้วเขาไม่รับสาย” โรมถามทันทีเมื่อปลายสายรับโทรศัพท์ น้ำเสียงของเขาฟังดูร้อนรนเล็กน้อย
“อยู่ในห้องสมุดค่ะ” ป้าอ่อนตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“เข้าไปนานหรือยังล่ะ แล้วคุณเทียนทานข้าวเย็นหรือยัง”
“ยังไม่ได้ทานค่ะ เธอเข้าไปในห้องสมุดตั้งแต่บ่าย คุณเทียนสั่งไม่ให้รบกวนค่ะ”
“งั้นป้าอ่อนไปบอกคุณเทียนให้เตรียมตัวไว้ เดี๋ยวทุ่มตรงฉันจะเข้าไปรับออกมากินข้าว”
“ค่ะ”
“คุณเทียนคะ”
“มีอะไรเหรอคะป้าอ่อน”
เสียงเรียกแผ่วเบาแสดงถึงความเกรงใจ ทำให้เทียนแก้วเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมามองแม่บ้านอย่างสงสัย เมื่อป้าอ่อนเข้ามาทั้งที่สั่งไว้แล้วว่าไม่ให้รบกวน
“คุณโรมโทรมาสั่งให้คุณเทียนเตรียมตัวค่ะ เธอจะมารับคุณเทียนไปทานข้าวนอกบ้านตอนทุ่มตรง”
เทียนแก้วพยักหน้ารับรู้อย่างเฉยเมิย แล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อโดยไม่ใส่ใจที่จะไปเตรียมตัวอะไร
“คุณเทียนแต่งตัวเสร็จหรือยัง” โรมถามแม่บ้านเมื่อเข้ามาแล้วไม่เห็นเทียนแก้วในห้องนั่งเล่น
“อยู่นี่ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ลงมารอ เทียนเพิ่งจะแต่งตัวเสร็จน่ะค่ะ”
ชายหนุ่มหันไปตามเสียงแล้วก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเทียนแก้วเดินเข้ามาในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์
“ทำไมใส่ชุดนี้ล่ะ” เขาถามด้วยความพอใจเล็กน้อย
“ก็มีแต่ชุดแบบนี้ทั้งนั้นล่ะคะ ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยเพราะไม่ได้คิดว่าจะต้องมาอยู่บ้านคนอื่น” เทียนแก้วตอบรวน ๆ เน้นเสียงที่คำว่าคนอื่น
“เทียนแก้ว ทำไมพูดอย่างนี้!”
ชายหนุ่มตวาดออกมาอย่างลืมตัว ทำให้บรรยากาศภายในห้องตึงเครียดขึ้นมาทันที โรมจ้องเทียนแก้วตาเขม็ง ความโมโหพลุ่นพล่านไปทั่วตัว กับคำว่าคนอื่นที่หญิงสาวพูดออกมา
“ทำไมคะ ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดนี่” เทียนแก้วเงยหน้าขึ้นสบตาอย่างท้าทาย
โรมขบกรามแน่น พยายามระงับความโกรธที่กำลังเดือดพล่าน ก่อนจะหันไปสั่งแม่บ้านให้ไปเตรียมอาหารด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ป้าอ่อนไปทำกับข้าว อะไรก็ได้สักสองสามอย่าง เร็ว ๆ ด้วยล่ะ”
“ค่ะ” แม่บ้านรับคำแล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นโรมกับเทียนแก้วตั้งท่าจะทะเลาะกัน
“อ้าว ทำไมล่ะคะ ฉันอยากออกไปข้างนอกจะตาย วันนี้อยู่แต่ในบ้านทั้งวันเบื่อจะแย่อยู่แล้ว”
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” โรมตอบห้วน ๆ แล้วเดินไปยังตู้เก็บเครื่องดื่มรินเหล้าสีอำพันลงแก้วแล้วยกแขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
เทียนแก้วรู้สึกไม่ค่อยจะดีนักเมื่อเห็นชายหนุ่มเทเหล้าดื่มอย่างต่อเนื่อง แล้วมองมายังเธอเป็นระยะ ๆ แววตาที่เขามองมานั้นแสดงถึงอารมณ์โกรธและความขุ่นเคือง เธอจึงเลือกที่จะเดินหนีออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันถึงประตู โรมก็เข้ามาขวางทางไว้ ทำให้ร่างเล็กของเธอผงะถอยหลังด้วยความตกใจ โรมนั้นเมื่อเห็นกิริยาท่าทางหวาดกลัว มือที่เอื้อมมาจะจับไหล่ก็ชะงักและปล่อยให้ตกลงข้างกายช้า ๆ
“จะไปไหน” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความอ่อนล้าในใจ
เทียนแก้วเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะหลบตาลงต่ำ ด้วยระยะห่างเพียงเล็กน้อยอย่างนี้ทำให้เธอรู้สึกตัวเล็กและเป็นรองเขามากเหลือเกิน ราวกับถูกต้องให้จนมุม
“ว่าไง จะไปไหน ทำไมไม่ตอบล่ะ” ชายหนุ่มถามซ้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเทียนแก้วเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นบ้าน
“ฉัน เอ่อ ….”
“อาหารพร้อมแล้วค่ะ” เทียนแก้วลอบถอนใจอย่างโล่งอกที่แม่บ้านเข้ามาช่วยให้เธอรอดพ้นจากสถานการณ์ที่อึดอัดไปได้
โรมถือแก้วเหล้าเดินเข้าไปนั่งทานข้าวเงียบ ๆ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารสุดแสนจะอืมครึม เทียนแก้วก้มหน้าก้มตาทานจนอิ่ม เมื่อเห็นโรมรวบช้อน เธอก็เริ่มคุยกับเขาก่อน
“เมื่อเช้าพี่ธูปโทรมาค่ะ”
“แล้วไง” โรมถามกลับอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตามองแก้วที่ว่างเปล่าก่อนจะเทเหล้าจากขวดลงมาอีกแล้วยกขึ้นดื่มอีกครั้ง โดยมีสายตาสงสัยของเทียนแก้วมองอยู่ตลอดเวลา ปกติโรมไม่ใช่คนที่ชอบดื่ม แต่เย็นนี้ปริมาณเหล้าที่พร่องไปมากกว่าครึ่งขวดก็ทำให้หญิงสาวอดที่จะประหลาดใจไม่ได้
“พี่ธูปสั่งให้ฉันพักอยู่กับคุณไปก่อน แต่ว่า……”
“แต่อะไร” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ
“ฉันไม่มีเสื้อผ้าน่ะค่ะ มีมาไม่กี่ชุดเอง ฉันขอกลับไปบ้านเถอะนะคะ”
ชายหนุ่มหันขวับมามองหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณา ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังอ่านความคิดของเธอ
“จะไปอยู่ได้ยังไงคนเดียว เรื่องเสื้อผ้าพรุ่งนี้ฉันจะพาไปซื้อใหม่แล้วกัน”
“เอ่อ … ฉันไม่อยากได้เสื้อผ้าใหม่นะคะ รบกวนคุณเปล่า ๆ” เทียนแก้วรีบปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็พอจะเห็นอยู่ว่าเธอไม่ได้มีเสื้อผ้ามามากนัก แล้วอีกอย่างการที่ฉันจะซื้อเสื้อผ้าให้เมียน่ะ มันก็ไม่ได้เป็นการรบกวนอะไรด้วย” ชายหนุ่มเน้นคำว่า ‘เมีย’ เป็นการตอกย้ำสถานภาพระหว่างคนทั้งคู่ ดวงตาที่มองมาแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
เทียนแก้วลอบถอนใจเมื่อเห็นว่ายังไงเธอก็กล่อมให้เขาพาไปส่งบ้านไม่สำเร็จแน่นอน
“งั้นฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ”
โรมพยักหน้าให้เธอไป ส่วนตัวเขาเองยังคงนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่เดิม พร้อมกับครุ่นคิดหาวิธีที่จะทำให้เทียนแก้วยอมตกลงใช้ชีวิตคู่กับเขาอีกครั้ง
“คุณโรมยังไม่ลงมาเหรอ” เทียนแก้วถามด้วยความสงสัยเมื่อเธอไม่เห็นโรมที่โต๊ะกินข้าว เหลือบไปมองนาฬิกาแล้วรู้สึกแปลกใจเพราะโรมเป็นคนตื่นเช้าเสมอ ถึงแม้จะทำงานดึกดื่น ก็ไม่เคยตื่นผิดเวลาเลยสักครั้ง
“ยังเลยค่ะคุณ เมื่อคืนคงจะเมาหนักน่ะค่ะ อ่อนเห็นขวดเหล้าเปล่าตั้งสามขวดแน่ะ” ป้าอ่อนตอบเสียงเบา
“อะไรกัน คุณโรมไม่เคยกินเหล้าขนาดนั้นเลยนะ ฉันเคยเห็นเมาก็แต่เวลาที่กินกับพี่ธูปแล้วก็กลุ่มเพื่อน ๆ นี่นา” คำตอบของแม่บ้านสร้างความประหลาดใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก
“คุณโรมดื่มหนักกว่านี้อีกค่ะ ตอนที่คุณไปใหม่ ๆ เมาทุกวันจนไม่เป็นอันทำงาน คุณธูปต้องทำงานคนเดียวอยู่หลายเดือนเลยค่ะ กว่าคุณโรมเธอจะฟื้นตัวกลับไปทำงานได้” ป้าอ่อนเล่าต่อ
“จะนินทาฉันกันอีกนานมั้ย” เสียงห้าวแฝงความไม่พอใจที่ป้าอ่อนเล่าเรื่องของเขาให้กับเทียนแก้วได้รับรู้
“อ่อนขอตัวไปยกอาหารก่อนนะคะ” แม่บ้านรีบหลบออกจากห้องทันที
“คุณโรมไปดุป้าอ่อนทำไมคะ” เทียนแก้วหันไปถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ก็อยากเล่าเรื่องทุเรศ ๆ ของฉันให้เธอฟังทำไมกันล่ะ หรือว่าเธออยากรู้ ว่าฉันมันน่าสมเพชแค่ไหนตอนที่ถูกเมียทิ้ง” สายตาคมกริบของโรมสบตากับหญิงสาวนิ่ง ๆ แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เทียนแก้วอึ้งไปเมื่อจับน้ำเสียงขมขื่นของเขาได้ เธอรีบหลบตาอย่างรวดเร็วแล้วเดินหนีไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วออกไปพร้อมกันเลยนะ ฉันจะแวะบริษัทก่อน แล้วเที่ยงเราค่อยออกไปซื้อเสื้อผ้ากัน” โรมบอกกล่าวทำลายความเงียบที่เริ่มนำความอึดอัดเข้ามา
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำเบา ๆ
