บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามด้วยเสียงลูกบิดประตูที่ถูกบิดเบา ๆ เมื่อพบว่าห้องไม่ได้ล็อกก็เปิดเข้าไปในห้องนอนด้วยความหวั่นใจ กลัวว่าเทียนแก้วจะแอบหนีออกไปจากบ้าน แต่เมื่อมองเข้าไปเห็นร่างบอบบางของเทียนแก้วนอนหลับสบายอยู่บนเตียง ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เทียนจ๋า ตื่นได้แล้ว” โรมเดินไปยืนข้างเตียงแล้วก้มหน้าลงกระซิบเรียกข้างหู ลมหายใจอุ่นร้อนรินรด แต่เสียงเรียกของเขาทำได้เพียงแค่สร้างความรำคาญเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น เพราะเทียนแก้วเพียงแค่ขยับตัวมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนาท่าทางนั่นดูน่ารักน่าเอ็นดูจนโรมส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อคิดว่าเวลาที่ผ่านไปถึงสี่ปีได้เปลี่ยนเด็กสาวแรกรุ่นเป็นหญิงสาวเต็มตัว แต่นิสัยนอนขี้เซากลับยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเห็นว่าเทียนแก้วยังไม่ยอมตื่น โรมเลยดึงผ้าห่มลงเล็กน้อย ก้มลงไปสูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากแก้มใส สัมผัสละมุนนั้นทำให้เขาหัวใจเต้นแรงขึ้น ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง เอื้อมมือไปลูบผมที่ระใบหน้าออก

“ฮื้อ อย่ายุ่งน่า”

เทียนแก้วร้องออกมาเมื่อรู้สึกว่ามีผู้มารบกวนการนอนของเธอพร้อมกับที่ปัดเอามือของโรมออก ชายหนุ่มจึงละมือแล้วก้มลงไปเคล้าเคลียแก้มสาวอย่างอดไม่ได้ ปลายลิ้นอุ่นชื้นแตะไล้ไปตามริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบาแล้วจูบซับไปยังลำคอไล่ลงไปหยุดตรงรอยช้ำที่เขาเป็นผู้สร้างไว้เมื่อคืน ก่อนจะจูบซ้ำอีกครั้งเหมือนจะประทับตราความเป็นเจ้าของไว้บนตัวของเธอ จากนั้นก็จูบเรื่อยลงมาจนถึงเนินอกอวบอิ่ม สองมือดึงเชือกที่ผูกเสื้อนอนตัวบางจนหลุดออกจากกัน โรมถึงกับชะงักกับดอกบัวคู่งามตรงหน้า นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นและสัมผัสความหอมหวานของมัน เขาก้มลงไปจูบยอดอกสีชมพูระเรื่อ และใช้นิ้วหัวแม่มือปัดผ่านเบา ๆ ที่ยอดอกอีกข้าง

“อื้อ...”

สัมผัสแผ่วเบาของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน อารมณ์ส่วนลึกที่เก็บกดไว้ถูกปลุกเร้าขึ้นมาและมันก็แสดงออกมาให้เขารับรู้ด้วยเช่นกัน ยอดอกนั้นเครียดขึงตอบรับสัมผัสจากมือเขาและยังมีเสียงครางเบา ๆ ที่หลุดออกมาจากลำคอทำให้โรมย่ามใจรุกหนักขึ้นด้วยกันอ้าปากครอบครองยอดอกงามและดูดดื่มความหวานละมุนอย่างหลงใหล

เมื่อเขาเริ่มสัมผัสเธอรุนแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ทำให้เทียนแก้วค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นและเริ่มคิดได้ในทันทีว่าเธอไม่ได้ฝัน และในเวลานี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียว คนที่กำลังเชยชมร่างกายเธอนั้นมีตัวตนอยู่จริง ความตกใจกึ่งหวาดหวั่นถาโถมเข้ามาในความรู้สึก

“หยุดนะ ปล่อยฉัน ปล่อย” เทียนแก้วผลักร่างหนาออกจากตัวแล้วรีบกระโดดลงไปยืนข้างเตียงทันที เสื้อนอนที่หลุดลุ่ย เผยให้เห็นผิวขาวละเอียด

“ตื่นได้แล้วเหรอ? ต้องให้ปลุกอยู่ตั้งนาน” โรมลุกขึ้นมานั่งมองด้วยสายตาที่ยังฉ่ำด้วยความปรารถนา แต่ก็ไม่ได้ตามไปคว้าตัวหญิงสาวมากอดและปฏิบัติการต่อให้จบทั้ง ๆ ที่เขาอยากทำใจจะขาด

“ปลุกบ้าอะไรของคุณอย่างนี้ แล้วนี่คุณเข้ามาได้ยังไง” เทียนแก้วตวาดเสียงดังลั่น

“ก็เรียกแล้วไม่ตื่นนี่ ห้องก็ไม่ได้ล็อก ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเข้ามาเจอนางฟ้านอนหลับอยู่บนเตียง” ระหว่างที่โต้ตอบนั้นสายตาคมกริบของโรมก็ยังจับจ้องอยู่ที่หน้าอกของเธอ ทำให้เทียนแก้วลดสายตาลงมองตามแล้วก็ต้องหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธระคนอายเมื่อเห็นสิ่งที่โรมกำลังมองเธอรีบรวบเสื้อเข้าหากันทันที

“คุณจะจ้องฉันทำไมนักหนา ออกไปสักทีสิ ฉันจะได้อาบน้ำ”

“เร็ว ๆ ล่ะ ถ้าช้าเดี๋ยวจะเข้าไปช่วยอาบ” พูดจบโรมก็ลุกเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้หญิงสาวจัดการกับธุระส่วนตัวตามลำพัง

เทียนแก้วทำเวลาในการอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าอาจจะทำลายทุกสถิติที่เคยมีมาเลย ทีเดียว ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนด้วยใบหน้าบึ้งตึงด้วยความขุ่นเคืองใจจากการกระทำของโรม เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างก็พบว่าโรมกำลังทานอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหาร ในห้องทานอาหารที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกบานยาว เผยให้เห็นความเขียวขจีของสนามหญ้าด้านนอก

“อาบเร็วดีนี่ กลัวฉันจะไปช่วยอาบให้หรือไง” โรมเงยหน้าขึ้นถามเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา

“อยากกินอะไรล่ะ จะได้สั่งให้ ฉันไม่แน่ใจว่าเธอยังจะชอบกินอาหารเช้าแบบเดิมอยู่รึเปล่าเลยไม่ได้สั่งไว้ล่วงหน้า” ชายหนุ่มถามเสียงนุ่ม

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไม่หิว” เทียนแก้วปฏิเสธเสียงเรียบ นั่งลงบนเก้าอี้ตัวถัดมา

“ไม่หิวก็ต้องกิน เมื่อคืนก็ไม่ได้กินอะไร เป็นลมเป็นแล้งไปฉันจะถูกไอ้ธูปมันฆ่าเอาได้”

“งั้นขอเป็นขนมปังปิ้งกรอบ ๆ….”

“ทาเนยเยอะ ๆ กับนมสดอุ่น” โรมหันไปสั่งแม่ครัวที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ไม่ไกล โดยไม่ต้องรอให้หญิงสาวพูดจบ รอยยิ้มละมุนปรากฏบนใบหน้า

“ยังกินเหมือนเดิมนี่นา ไปอยู่อิตาลีตั้งสี่ปี คิดว่าจะกินเป็นแต่พิซซ่าซะแล้ว”

“นี่คุณ อย่าหาเรื่องกันได้มั้ย” เทียนแก้วพูดเสียงเขียวด้วยความไม่พอใจ แต่ลึก ๆ ในใจก็แอบยินดีที่เขายังจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเธอได้

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ โรมก็เตรียมตัวออกไปทำงาน

“คุณโรมคะ เทียนจะกลับบ้าน ถ้าไม่ไปส่งก็ช่วยเรียกแท๊กซี่ให้หน่อยเถอะค่ะ” หญิงสาวรีบเดินตามมาที่รถ

เมื่อได้ยินอย่างนี้โรมก็ถอนหายใจหนัก ๆ ด้วยความอัดอั้นที่เธอคิดแต่จะไปอยู่ให้ไกลเขาเสมอ

“เทียนโทรไปคุยกับธูปเองแล้วกัน ถ้ามันจะให้เทียนไปอยู่บ้านก็คงไม่ให้ฉันไปรับมาหรอกนะ”

“คุณหมายความว่ายังไง ทำไมพี่ชายฉันถึงจะไม่อยากให้ฉันไปอยู่ด้วยล่ะ” เสียงหวาน ๆ นั้นเริ่มทวีความดังขึ้นเรื่อย ๆ ความสงสัยและไม่พอใจฉายชัดในน้ำเสียง

“เอาเป็นว่าตอนนี้ธูปไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพแล้วกัน ฉันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มันไปอยู่ส่วนไหนของประเทศ ถ้าอยากรู้เหตุผลนักก็โทรไปถามกันเอาเอง ฉันต้องไปทำงานแล้ว” พูดจบโรมก็ขึ้นรถ แต่เทียนแก้วเปิดประตูรถออก ไม่ยอมให้เขาขับรถออกไป

“เทียนแก้ว” ชายหนุ่มเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำ แล้วหันมองหน้าเทียนแก้วด้วยความไม่พอใจกับกิริยาเช่นนั้น แต่เธอมองเขากลับด้วยแววตาแข็งกระด้าง มือเรียวยื่นโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกร้าวของเธอให้ดู

“โทรศัพท์ฉันพัง แล้วฉันก็จำเบอร์พี่ธูปไม่ได้ ปกติก็วีดีโอคอลคุยกันไม่ได้กดเบอร์โทรตั้งนานแล้ว”

โรมถอนใจ เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ใช้เป็นเครื่องสำรองออกมาส่งให้ แล้วเก็บโทรศัพท์ของเทียนแก้วไปแทน

“เทียนใช้เครื่องนี้ไปก่อน ในนี้มีเบอร์ของธูปอยู่ แล้วก็ไม่ได้ตั้งรหัสล็อคเครื่องไว้ เครื่องของเทียนเดี๋ยวเอาไปส่งซ่อมให้”

“ขอบคุณค่ะ” มือเรียวรับโทรศัพท์มาถือไว้ ขยับถอยหลังมองดูธูปขับรถออกไปจนลับสายตา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel